พิมพ์

[raponsan]

ผลาญเงินบริจาคชัดเจน.! ทหารช่างพบไม้ปูพื้นสะพานมอญด้อยคุณภาพ
คานตรงไม่ได้มาตรฐานเตรียมรื้อทิ้ง (ชมคลิป)

กาญจนบุรี - ไม่โปร่งใส่ ผลาญงบบริจาคชัดเจน ทหารช่าง กองพล 9 พบไม้ปูพื้นสะพานมอญไม้ที่ผู้รับเหมา หจก.ป.รุ่งเรืองวัสดุภัณฑ์ ทิ้งไว้ด้อยคุณภาพ ส่วนใหญ่ไม่สามารถนำมาใช้ซ่อมสะพานได้ เนื่องจากอายุของไม้ยังน้อย และสด ทำให้แกนของไม้ไม่แข็งพอ ส่วนคานตรงไม่ได้มาตรฐาน เตรียมรื้อทิ้งภายหลัง ด้านชาวบ้านระดมทุนทำอาหารเลี้ยงเต็มที่
           
       จากกรณีเมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา จังหวัดกาญจนบุรี ได้มีการยกเลิกสัญญาว่าจ้าง ห้างหุ้นส่วนจำกัด ป.รุ่งเรืองวัสดุภัณฑ์ เนื่องจากไม่สามารถดำเนินการซ่อมบูรณะสะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานไม้ (สะพานมอญ) ข้ามลำน้ำซองกาเลีย เชื่อมต่อระหว่างหมู่ 2 และหมู่ 3 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ได้ และจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้ว่าจ้างได้ทำสัญญาประณีประนอม จ่ายเงินค่าชดเชยให้แก่ทางบริษัทเป็นเงิน จำนวน 10 ล้านบาท แทนที่จังหวัดกาญจนบุรี จะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัทผู้รับเหมา เป็นที่กังขาของสังคมมาจนถึงทุกวันนี้ นอกจากนี้ จังหวัดกาญจนบุรียังโยนภาระให้แก่ทหารเข้าไปดำเนินการแทน
       

       จนกระทั่ง พล.ต.ไพโรจน์ ทองมาเอง ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ สั่งการให้ พ.ท.จิรายุ จิตรธรรม ผบ.ช.พัน 9 ร.ต.นพดล มิตรดำรง ผบ.หมวด ช.พัน 9 กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารช่าง ร่วมแรงร่วมใจกับชาวบ้านในพื้นที่ชุมชนชาวมอญ ในการซ่อมบูรณะสะพาน เพื่อคืนความสุขให้แก่ประชาน ตามนโยบายของคณะ คสช. โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา
       
       ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (13 ก.ย.) เป็นวันที่ 4 ของการทำงานร่วมกันระหว่างทหาร และชาวมอญ โดยมีลุงปุ่น อายุประมาณ 70 ปี ช่างฝีมือชาวมอญที่มีประสบการณ์ และเชี่ยวชาญเกี่ยวกับงานไม้มาแนะนำให้คำปรึกษาในการทำงาน ชาวมอญบางคนเคยสร้าง และซ่อมสะพานมอญมาในสมัยที่หลวงพ่ออุตตมะ อยู่คุมงานด้วยตัวท่านเอง วันนี้งานยังคงเดินหน้าไปอย่างต่อเนื่อง
       
       สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ทำงานมีเพียงสว่านไฟฟ้า รอกโซ่ไฟฟ้า ซึ่งเป็นอุปกรณ์ช่วยยก ค้อนตีตะปู และมีเพียงตาข่ายคลุมกันแดดเท่านั้น บางช่วงต้องหยุดงานเพราะมีฝนตกลงมาเป็นระยะ เกรงว่าคนงาน และเจ้าหน้าที่จะได้รับอันตรายจากอุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้า
       

       ร.ต.นพดล มิตรดำรง ผบ.หมวด ช.พัน 9 กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ วิศวกรคุมงาน เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบคุณภาพของไม้ที่ทางผู้รับเหมาเดิมทำไว้ เริ่มพบปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพของไม้ปูพื้น รวมทั้งคานตรงบางจุดที่ไม่ได้มาตรฐาน ตามที่ได้ปรึกษากับ พระมหาสุชาติ สิริปัญโญ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม เราวางแผนไว้ว่าจะใช้ไม้แดง ที่ทางวัดมีอยู่ และหากไม่เพียงพอก็จะนำไม้ที่ผู้รับเหมาทิ้งไว้ให้มาเสริม
       
       แต่เมื่อดำเนินการไปแล้วกลับพบว่า ไม้ที่ผู้รับเหมาทิ้งไว้ส่วนใหญ่ไม่สามารถนำมาใช้ซ่อมสะพานได้เลย เนื่องจากอายุของไม้ยังน้อย และสด ทำให้แกนของไม้ไม่แข็งพอ เกรงว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อความแข็งแรงของสะพานในอนาคตได้ ทำให้ต้องหาไม้มาเพิ่มเติม แต่คงไม่มากนัก ซึ่งตรงนี้เจ้าอาวาสจะเป็นผู้ดำเนินการเอง
       
       ส่วนเสาเข็มที่ผู้รับเหมาตอกไว้พบว่า บางต้นไม่ใช่ไม้แดง และเป็นไม้สด ซึ่งอาจมีผลต่อโครงสร้างสะพานได้ ทางวัด และทหารพร้อมชาวบ้าน จะได้ร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป
       

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายชาธิป รุจนเสรี นายอำเภอสังขละบุรี อดีตประธานคณะกรรมการตรวจการจ้าง 1 ในคณะกรรมการที่ไม่เห็นด้วยต่อการต่อสัญญาให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ป.รุ่งเรืองวัสดุภัณฑ์ ได้เดินทางไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร และชาวบ้านที่มาร่วมกันซ่อมบูรณะสะพานมอญ และได้มอบเครื่องดื่มชูกำลังจำนวนหนึ่งให้ และหลังจากเจ้าหน้าที่ทหารเริ่มเข้ามาดำเนินการซ่อมแซมบูรณะสะพานอุตตมานุสรณ์ ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา ชาวบ้านในชุมชนได้ช่วยกันรวบรวมเงินเพื่อนำไปซื้อวัตถุดิบสำหรับปรุงอาหาร มาเลี้ยงเจ้าหน้าที่ทุกมื้อเที่ยงของทุกวัน โดยมีค่าใช้จ่ายวันละประมาณ 7,000 บาท และจะช่วยกันไปจนกว่าสะพานจะแล้วเสร็จ

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9570000105196

[raponsan]

http://www.youtube.com/watch?v=Y8TDukusmIk

[ธัมมะวังโส]

 ขอบคุณภาพจาก http://www.stormclub.com ก่อนที่จะมีภาพของเราเอง

 สะพานมอญ ถือเป็น "สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย" เป็นสะพานที่สร้างข้ามลำน้ำซองกาเลีย อยู่ในตัวอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี สร้างโดยหลวงพ่ออุตตมะและคณะศิษย์ จึงมีอีกชื่อเรียกว่า "สะพานอุตตมานุสรณ์" เป็นสะพานไม้ที่มีชื่อเสียงและเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของอำเภอสังขละบุรี สะพานไม้นี้มีความยาวถึง 850 เมตร นับเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยและยาวเป็นลำดับ 2 ของโลก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนได้ใช้เป็นเส้นทางในการติดต่อไปมาหาสู่ ทำมาค้าขาย ขนส่งพืชผลทางการเกษตรในการประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้ และเป็นเส้นทางแห่งการเผยแพร่แลกเปลี่ยนประเพณีวัฒนธรรม ระหว่างชาวมอญและชาวกะเหรี่ยงที่อาศัยอยู่สองฝั่งแม่น้ำซองกาเรีย เมื่อก่อสร้างเสร็จสะพานแห่งนี้จึงได้รับการขนานนามว่า "สะพานแห่งศรัทธา" เนื่องจากวิธีการก่อสร้าง และขั้นตอนการก่อสร้างส่วนใหญ่เป็นแรงงานคนทั้งสิ้น

บริเวณสะพานเป็นจุดชมวิวทะเลสาบเขื่อนวชิราลงกรณที่สวยงาม สามารถมองเห็นลำน้ำสามสาย คือ ซองกาเลีย บีคลี่ และรันตี ที่ไหลมาบรรจบกันเป็นสามประสบ (จุดกำเนิดแม่น้ำแควน้อย)

อ่านประวัติหลวงพ่ออุตตะมะโดยละเอียดได้ที่ www.wikipedia.org