พิมพ์

[raponsan]

สร้างพุทธทายาทเพื่อแผ่นดินธรรม 'สามเณรธรรมาสน์ทอง'

สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ สร้างพุทธทายาทเพื่อแผ่นดินธรรม จัดอบรมโครงการส่งเสริมวิชาการเทศนาธรรม "สามเณรธรรมาสน์ทอง" ระยะที่ 2 รอบ 50 รูป โดยมี "สมเด็จพระวันรัต" เป็นองค์ประธานในพิธี...

สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และกรมการศาสนา ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมวิชาการเทศนาธรรม "สามเณรธรรมาสน์ทอง" ในโอกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา ในปี 2558 เพื่อเป็นการส่งเสริมให้สามเณรได้ศึกษาเรียนรู้ สามารถเผยแผ่หลักธรรมคำสอนอย่างถูกทำนองคลองธรรม และเป็นกำลังธรรมสำคัญในการสืบทอดศาสนาให้ยืนยาว โดยในรอบแรกได้คัดเลือกสามเณรจากทั่วประเทศจำนวน 273 รูป เข้าอบรมในระดับภูมิภาค (หน) ซึ่งได้รวบรวมองค์ความรู้ที่ประยุกต์จากหลักสูตรพระนักเทศน์ ด้วยรูปแบบบูรณาการจากสรรพวิชาการเทศน์ มีการฝึกขึ้นเทศน์จริง และการเขียนบทเทศนาธรรม

ล่าสุด คณะกรรมการได้พิจารณาคัดเลือกจากการเขียนบทเทศนาธรรมและการเทศนาภาคปฏิบัติ เหลือ 50 รูป ได้ผ่านเข้าสู่รอบที่ 2 เพื่ออบรมวิชาการเทศนาธรรม "สามเณรธรรมาสน์ทอง" ระยะที่ 2 ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 22-26 กันยายน 2557 ซึ่งในรอบนี้สามเณรจะต้องเรียนรู้หลักการเทศน์ที่ลึกซึ้งขึ้น และได้ฝึกปฏิบัติอย่างเข้มข้นกว่าเดิม โดยมุ่งเน้นแก่นของหลักวิชา การค้นคว้าอรรถกถาจากพระไตรปิฎก และเทคนิคในการเทศนา ทั้งจะได้มีโอกาสเรียนรู้การแสดงพระธรรมเทศนาเต็มรูปแบบของ พระพรหมบัณฑิต พระมหาเถระผู้ชำนาญการเทศน์ในแบบสาลิกาป้อนเหยื่อ ซึ่งถือเป็นต้นแบบอันหาดูได้ยากยิ่ง

นอกจากนี้ยังได้ศึกษาดูงานพระอารามสำคัญต่างๆ ที่มีประวัติศาสตร์เกี่ยวเนื่องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และการเผยแผ่พระพุทธศาสนาอันยาวนาน เช่น วัดราชาธิวาสวิหาร วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งจะทำให้สามเณรมีความรู้ความเข้าใจและประสบการณ์มากขึ้น และในช่วงการเทศนาภาคปฏิบัตินั้น เป็นการเฟ้นหาช้างเผือกอย่างเข้มข้น ด้วยวิทยากร ซึ่งเป็นพระเถระที่เชี่ยวชาญการเทศนา คือ พระธรรมกิตติวงศ์ พระราชธรรมวาที พระราชปฏิภาณมุนี และพระราชวิจิตรปฏิภาณ ที่จะช่วยให้คำแนะนำชี้แนะแก่สามเณรรายรูป เพื่อจะได้นำกลับไปฝึกฝนพัฒนาสู่การเป็นนักเทศนาธรรมต่อไป 

 

ด้าน นายสด แดงเอียด ที่ปรึกษาสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ด้านการศาสนา ประวัติศาสตร์ และโบราณคดี ในฐานะประธานกรรมการจัดงาน กล่าวว่าโครงการส่งเสริมวิชาการเทศนาธรรม "สามเณรธรรมาสน์ทอง" เป็นการจัดอบรม บ่มเพาะ และพัฒนานักเทศนาที่ถูกต้องตามพระบูรพาจารย์ในพระพุทธศาสนา ทำให้เกิดมาตรฐานในการเผยแผ่หลักคำสอนในทิศทางเดียวกัน โดยมีพระเถระชั้นผู้ใหญ่ร่วมกันวางหลักสูตร ทั้งทางวิชาการและภาคปฏิบัติ

ทั้งนี้ สามเณรที่เข้าร่วมโครงการฯ เมื่อได้โอกาสในการเทศนา ทุกคนจะมีความกล้าและความฉะฉาน ซึ่งเราหวังว่าจุดเด่นนั่นคือ การมีพลังขับเคลื่อนธรรมเทศนานี้ จะช่วยเผยแผ่หลักธรรมคำสอน แม้จะไม่ล้ำลึกเหมือนพระเถระผู้ใหญ่ แต่อาจช่วยให้คนหนุ่มสาว เด็ก เยาวชน นิสิต นักศึกษา ให้กลับมาเรียนรู้หลักคำสอนในพระพุทธศาสนาในปริมาณที่มากพอสมควร ซึ่งภายหลังการอบรมระยะที่ 2 รอบ 50 รูปจะคัดเลือกเหลือเพียง 10 รูป ผ่านเข้าสู่รอบที่สาม ได้ไปศึกษาดูงาน ณ พุทธสถานสำคัญ พร้อมเรียนรู้วิถีนักเทศน์จากพระเถระผู้ใหญ่ และฝึกเทศนาในสถานที่ต่างๆ เพื่อในรอบสุดท้าย ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2557 ทั้งหมดจะต้องแสดงพระธรรมเทศนาเชิงประจักษ์ให้คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือก สามเณร 3 รูป ผู้เป็นเลิศ ได้รับโล่พระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยแบ่งเป็น ด้านโวหารการเทศนา ด้านปฏิภาณการเทศนา และด้านปฏิปทาการเทศนา พร้อมถวายทุนการศึกษาแก่สามเณรและสำนักเรียนพระปริยัติธรรม ส่วนสามเณรอีก 7 รูป จะถวายทุนการศึกษา

 

"คำว่าสามเณรธรรมาสน์ทอง เหมือนการอุปมาอุปมัย ถึงการเป็นนักเทศน์ที่ดี ถูกต้องชัดเจน เหมาะสม เพราะคำว่า ธรรมาสน์ เป็นคำที่สูงค่า โดย ธรรม คือผู้แทนของพระพุทธเจ้า อาสนะ คือที่นั่งของผู้แสดงธรรม ดังนั้น ธรรมาสน์ ก็คือ ที่นั่งของผู้แทนพระพุทธเจ้า ยิ่งเป็น ธรรมาสน์ทอง ด้วยแล้ว แสดงว่าคนที่นั่งเทศนานี้ต้องมีความสามารถสติปัญญาและรอบรู้อย่างยิ่ง" นายสด กล่าวทิ้งท้าย

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/453148

[PRAMOTE(aaaa)]

ขออนุโมทนาสาธุ