พิมพ์

[raponsan]

“ตักบาตร..ให้ถามพระ” ไม่ทำร้ายสุขภาพ

ตักบาตรถามพระ..หนึ่งในสำนวนสุภาษิตของคนไทย ที่นำมาใช้แทนความหมายว่า เมื่อจะให้อะไรหรือสิ่งใดแก่ผู้ที่เต็มใจรับสิ่งนั้นอยู่แล้วก็ไม่ต้องถาม

แต่ในปัจจุบันผลการศึกษาของกระทรวงสาธารณสุขปี 2554 ในกลุ่มพระภิกษุ สามเณร จำนวน 98,561 รูป พบว่าร้อยละ 55 ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูง ภาวะไขมันในเลือดสูงและเบาหวาน พระสงฆ์บางรูปป่วยมากกว่าหนึ่งโรค พระสงฆ์ร้อยละ 5 อยู่ในภาวะอ้วน โรคเหล่านี้จัดอยู่ในกลุ่มโรค NCDs (Non-communicable diseases) ซึ่งเป็นฆาตกรอันดับหนึ่งที่คร่าชีวิตประชากรมากกว่าสาเหตุการตายอื่นๆ นอกเหนือจากปัจจัยเสี่ยงเรื่องการสูบบุหรี่ การดื่มเหล้าการรับประทานอาหาร หวาน มัน เค็ม การถ่ายทอดทางพันธุกรรมแล้ว พระวินัยสงฆ์ที่ไม่สามารถเลือกได้ว่าจะรับบาตรหรือไม่รับ ประกอบกับวัตรปฏิบัติของพระสงฆ์ก็ไม่เอื้อต่อการออกกำลังกาย ยิ่งส่งให้พระสงฆ์มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคในกลุ่มโรค NCDs มากกว่าคนทั่วไป

 

เมื่อพระวินัยสงฆ์เป็นข้อจำกัดที่ทำให้พระสงฆ์มีโอการเสี่ยงที่จะอาพาธด้วยโรคในกลุ่มโรค NCDs พุทธศาสนิกชนจึงมีส่วนสำคัญในการป้องกันพระสงฆ์ให้ห่างจากโรคในกลุ่มโรคร้ายแรง โดยการทำบุญตักบาตรถวายภัตตาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เมนูชูสุขภาพ เน้นอาหารประเภทผัก ย่อยง่าย หลีกเลี่ยงอาหารหวาน มัน เค็ม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของพระสงฆ์ ซึ่งพระสงฆ์ก็มีหลักปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ว่า โภชะเน มัตตัญญุตา รู้จักประมาณในการบริโภค

ใกล้ถึงวันออกพรรษา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ปีนี้ ตรงกับวันพุธที่ 8 ตุลาคม 2557 เป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนาวนหนึ่งในประเทศไทย ที่พุทธศาสนิกชนนิยมไปทำบุญตักบาตร และวันถัดจากวันออกพรรษา 1 วัน ยังมีประเพณีตักบาตรครั้งใหญ่ เรียกว่า ตักบาตรเทโว หรือ ตักบาตรเทโวโรหนะ ซึ่งการทำบุญตักบาตรเป็นเรื่องดี แต่หากเราเลือกอาหารที่ช่วยให้พระสงฆ์มีสุขภาพที่ดีด้วยแล้ว จะยิ่งส่งเสริมบุญมากขึ้นอย่างแน่นอน

ขอขอบคุณข้อมูล จาก ข่าวประชาสัมพันธ์ศูนย์พัฒนาอนามัยพื้นที่สูง กรมอนามัย
ภาพประกอบ จาก istockphoto.com
club.sanook.com/59679/ตักบาตร-ให้ถามพระ-ไม่ทำ/