ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ลอยกระทง ประเพณีที่กลายเป็น..เทศกาลเสี่ยงภัย  (อ่าน 1089 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29391
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ลอยกระทง ประเพณีที่กลายเป็น..เทศกาลเสี่ยงภัย

ลอยกระทง เป็นกิจกรรมประเพณี มีขึ้นในคืนวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ซึ่งเป็นวันพระจันทร์เต็มดวง

น้ำหลากเต็มตลิ่ง จึงเหมาะกับการนำกระทงขนาดย่อมๆ บรรจุดอกไม้ ธูป เทียน หรือสิ่งประดิษฐ์ชิ้นเล็กๆ ลอยน้ำ ตามความเชื่อ คติต่างๆ สืบทอดกันมานานนับร้อยปี โดยหลายประเทศในเอเชีย อาทิ อินเดีย กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ ก็มีประเพณีที่คล้ายกัน ต่างกันตรงความเชื่อว่าจะบูชาพระ หรือเทพองค์ใด

ลอยกระทง เป็นงานที่มีขึ้นด้วยจุดมุ่งหมายที่ดี แต่หลายปีที่ผ่านมา กิจกรรม เกี่ยวข้องกับการลอยกระทงกลายเป็นเรื่องน่ารำคาญ จากการยิงพลุดอกไม้ไฟ เสียงดัง และเป็นอันตราย มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจำนวนมาก ที่เกิดระเบิด เพลิงไหม้ อาคารบ้านเรือนเสียหายก็บ่อย

หน่วยงานด้านการป้องกันบรรเทาภัย รายงานว่า เทศกาลลอยกระทง จะมีภัยหลักๆ 2 ส่วน อย่างแรกคือการบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต จากพลุ ดอกไม้ไฟ ระเบิดใส่


:96: :96: :96: :96: :96: :96:

พลุ ดอกไม้ไฟ ก็คือเชื้อเพลิง สารเผาไหม้ ที่ทำให้เกิดแสง ซึ่งโดยสภาพวัตถุ ไม่ถือเป็นของเล่น เพราะระเบิดได้ ทางราชการกำหนดว่า พลุ ปะทัด ดอกไม้เพลิง จะขาย ต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ และห้ามขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี

มีรายงานว่าลอยกระทง แต่ละปี จะมีผู้ถูกนำเข้ารับการรักษาในห้องฉุกเฉิน กว่า 13,000 ราย ร้อยละ 44 เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี โดยเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิง 3 เท่า ร้อยละ 30 เป็นคนเมาสุรา

สอดคล้องกับข้อมูลของกรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. ระบุว่า ลอยกระทงทุกครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเปลวไฟ หรือสะเก็ดจากแรงระเบิดของพลุและดอกไม้เพลิงสูงกว่าปกติ 24 ถึง 30 เท่า ส่วนใหญ่เกิดจากการเล่นไม่ถูกวิธี ผาดโผน คึกคะนอง รู้เท่าไม่ถึงการณ์

 :41: :41: :41: :41: :41:

การจุด ขว้าง ปาปะทัด ธรรมดา ก็สร้างความเดือดร้อน รำคาญ หรือเสี่ยงต่อการถูกลูกไฟกระเด็กอยู่แล้ว แต่รายที่ต้องนำเข้าห้องฉุกเฉิน ก็เพราะใช้พลุ ปะทัด ที่ดัดแปลงให้มีแรงระเบิดหรือแรงอัดเสียงดังกว่า เช่น จุดในขวดแก้วแล้วโยนใส่กลุ่มเพื่อน หากไม่ติด ก็จุดซ้ำ จึงเกิดระเบิดได้รับบาดเจ็บ ยังมีที่เด็กซื้อเล่นเอง และได้รับอันตรายระหว่างการจุด ตั้งแต่เสียโฉม จนถึงนิ้วมือขาด ที่แก้วหูสูญเสียการได้ยิน หรือตาบอดถาวร ก็มีได้

ภัยที่สอง คือการจมน้ำ ซึ่งพบว่าเด็กไทยเสี่ยงจมน้ำเสียชีวิตในคืนวันลอยกระทง เป็นสัดส่วนสูงสุดในรอบปี มากกว่าการจมน้ำทั่วไปเกือบ 3 เท่า สาเหตุเพราะถูกเบียด และการลงน้ำไปเก็บเศษเงินในกระทง



ที่ผ่านมามีคำแนะนำมากมาย ให้ผู้ใหญ่ระวัง ห้ามปรามเด็กเล่นไม่ให้ซื้อพลุ ปะทัด ดอกไม้ไฟเล่นเองโดยลำพัง รวมทั้งการไม่ปล่อยไปลอยกระทง หรือลงน้ำตามลำพังโดยเด็ดขาด แต่เหมือนจะไม่ได้ผล เพราะจำนวนเหยื่อยังคงมีอยู่ทุกปี

สำหรับพลุ ดอกไม้ไฟ แม้จะมีการควบคุมการผลิต การจำหน่าย บางพื้นที่ประกาศห้ามจุด ห้ามเล่น แต่กลับปรากฏว่า การซื้อหา การผลิต การสะสม ยังมีอยู่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดังเช่น ที่เคยเกิดการระเบิดที่ จ.อ่างทอง เมื่อเดือนกรกฎาคม มีอาคารเสียหาย 8 หลัง รถยนต์เสียหาย 3 คัน มอเตอร์ไซค์ 2 คัน ผู้ได้รับบาดเจ็บ 15 ราย สาหัส 5 ราย แต่ก่อนถึงวันลอยกระทง 2 วัน เจ้าหน้าที่ก็ตรวจพบพลุ ดอกไม้ไฟ กว่า 200 ลังซุกซ่อนในบ้านหลังหนึ่ง เขต อ.เมืองอ่างทอง


   ans1 ans1 ans1 ans1 ans1

   ลองคีย์คำว่าพลุ ดอกไม้ไฟ ในโลกออนไลน์ จะเห็นข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุอันตรายเป็นแสนรายการ มีการเปิดขายกันอย่างโจ่งแจ้ง ทุกชนิด ทุกประเภท การลอยกระทงเพื่อรักษาประเพณีเป็นสิ่งดี ที่ควรรักษาพร้อมกัน ก็ควรระวังภัยเพื่อรักษาตัวให้รอดได้ฉลองปีใหม่ด้วย


ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.dailynews.co.th/Content/Article/278447/ลอยกระทง+ประเพณี+ที่กลายเป็นเทศกาลเสี่ยงภัย
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ