พิมพ์

[raponsan]

ผวาวิญญาณเฮี้ยนเหยื่อบึมดอยเต่า ชาวบ้านห้ามเผาผีตายโหงในหมู่บ้าน

ชาวบ้าน อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ ผวาวิญญาณเฮี้ยน ไม่ยอมให้ร่างของเหยื่อสารลำไยระเบิดเข้าหมู่บ้าน โดยให้เคลื่อนศพนำมาฌาปนกิจที่สุสานหายยา เมืองเชียงใหม่ แทน หวั่นอาถรรพ์ผีตายโหง…

จากกรณีเกิดเหตุระเบิดภายในบ้านเลขที่ 34 ม.2 บ้านไร่ ต.ดอยเต่า อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ ทำให้บ้านเรือนเสียหาย 2 หลัง เนื่องจากพบสารโพแทสเซียมคลอเรต ที่เกษตรกรใช้เร่งดอกลำไยให้ออกนอกฤดูกาลระเบิด ส่งผลให้ นางพยอม ตันต๊ะสาร อายุ 45 ปี และ นางสมใจ แสงแก้ว อายุ 42 ปี เสียชีวิต 2 ศพ ได้รับบาดเจ็บ 7 ราย นอกจากนี้มีบ้านเรือนที่อยู่ใกล้เคียงเสียหายอีก 6 หลัง ตามที่ไทยรัฐออนไลน์เสนอไปแล้วนั้น

 

ล่าสุด วันที่ 9 พ.ย.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุพจน์ ตันต๊ะสาร สามีนางพยอม ได้มาขอรับศพภรรยา และ นางสมใจ น้องสะใภ้ เพื่อจะนำไปกลับตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดในหมู่บ้าน แต่ถูกชาวบ้านในหมู่บ้านคัดค้านเนื่องจากผวาอาถรรพ์ ไม่ยอมให้นำผีตายโหงมาเผาในป่าช้าของหมู่บ้าน ทางญาติจึงยุติปัญหานำศพผู้ตายทั้ง 2 มาตั้งบำเพ็ญกุศลอาไว้ที่วัดดับภัย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และเคลื่อนศพนำมาฌาปนกิจที่สุสานหายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อเย็นของวันนี้ (9 พ.ย.) โดยมีชาวบ้านใน อ.ดอยเต่า ที่รักใคร่นับถือผู้ตาย ทั้งสองได้เหมารถบัสและรถส่วนตัวมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านที่มาร่วมงานศพต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สาเหตุที่ชาวบ้านเสียงส่วนมากไม่ยอมให้นำศพคนตายทั้งสองกลับไปเผาที่บ้านเกิดตามประเพณีนั้น เนื่องจากชาวบ้านมีความเชื่อและความหวาดกลัวจะเกิดอาเพศขึ้นกับคนในหมู่บ้านที่นำผีตายโหงที่มีแต่ชิ้นเนื้อกลับไปเข้าหมู่บ้าน ตามความเชื่อคนโบราณเขาถือปฏิบัติกันมา จึงมีการคัดค้านเรื่องนี้ แม้แต่บ้านของผู้ตายหลังจากที่ทหารนำรถแบ็กโฮเข้าไปปรับพื้นที่แล้ว จะนำไม้บ้านเก่าไปไว้ที่วัด พระทางวัดยังไม่ยอมให้ไว้ จึงจำเป็นต้องนำไปไว้ในป่าช้าของหมู่บ้าน ซึ่งในวันที่ 10 พ.ย.57 ทางผู้นำชุมชุมและพระสงฆ์ได้จัดทำพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุลให้กับผู้ตายและปัดเป่าเคราะห์ภัยให้ออกไปจากหมู่บ้านเพื่อเรียกขวัญและกำลังใจชาวบ้านกลับคืนมาอีกด้วย

 

ขณะเดียวกัน ในงานเผาศพเย็นนี้ทาง นายมหวรรณ กะวัง นายกสมาคมศิษย์เก่ายุพราชวิทยาลัย ได้นำเงินสด จำนวน 1 หมื่นบาทไปมอบให้กับครอบครัวนายสุพจน์ ตันต๊ะสาร ที่หน้าเมรุเผาศพ เนื่องจาก นายภูเบศ ตันต๊ะสาร ลูกชายเรียนอยู่ชั้น ม.6 ของโรงเรียนและเป็นเด็กที่เรียนดีอีกด้วยและเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นจึงมามอบเงินเยียวยาก่อนเบื้องต้น พร้อมกับจะหาทางช่วยเหลือครอบครัวผู้ตายในระยะยาวต่อไป.

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/462343