พิมพ์

[raponsan]

ชาวชุมชนวัดไผ่ล้อม ร้อง "ถูกไล่ที่"

ชาวบ้าน ร้องขอความเป็นธรรม ถูกไล่ที่ชุมชนวัดไผ่ล้อม เผยทางวัดจ่ายเวนคืนที่ดินแค่ 20,000 บาท ลือเอาพื้นที่ไปสร้างอาคารพาณิชย์ หากต้องการอยู่ต้องซื้อสิทธิ์ใหม่กว่า 3 ล้านบาท

วันนี้ ( 27 พ.ย.) นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้รับร้องเรียนเพื่อขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่อยู่ในชุมชนหน้าวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม เนื่องจากทางวัดได้แจ้งผู้ที่อยู่อาศัยว่าจะเวนคืนที่ดิน ซึ่งเป็นห้องแถวรวมประมาณ 76 หลังคาเรือน มีผู้อาศัยเกือบ 300 คน เพื่อจัดสร้างอาคารพาณิชย์ และทางวัดมีการให้ค่าตอบแทนในจำนวนที่ไม่เหมาะสม

พร้อมทั้งยังแจ้งชาวบ้านด้วยว่า หากใครที่ต้องการจะอยู่ที่เดิม ให้ซื้อสิทธิในการเข้าอยู่ใหม่ ประมาณ 3 ล้านบาท ซึ่งชาวบ้านไม่มีเงินมากพอที่จะมาซื้อสิทธิ์ได้ จึงมาร้องเรียนมาที่ตนเพื่อขอความช่วยเหลือ เนื่องจากชาวบ้านกลุ่มนี้อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมาเป็นเวลานานตั้งแต่สมัยหลวงพ่อพูล เป็นเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ซึ่งในขณะนี้ตน และเครือข่ายฯ อยู่ในระหว่างตรวจสอบข้อมูลว่าการดำเนินการของวัดเป็นไปตามอำนาจที่ระบุไว้ในพ.ร.บ.คณะสงฆ์หรือไม่ ทั้งจะมีการตรวจสอบข้อมูลด้วยว่าเจตนาของทางวัดที่เวนคืนที่ดินนั้น เพื่อสร้างอาคารพาณิชย์ตามที่ชาวบ้านร้องเรียนจริงหรือไม่

 

นายปรีดา ฉัตรพัชรภิญโญ อายุ 39 ปี ประกอบอาชีพค้าขาย กล่าวว่า ตนและครอบครัวอาศัยอยู่บริเวณหน้าวัดไผ่ล้อมมาตั้งแต่สมัยหลวงพ่อพูลเป็นเจ้าอาวาส ซึ่งยอมรับว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ธรณีสงฆ์ แต่ที่ผ่านมาก็ได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อพูลมาโดยตลอด และชาวบ้านทั้งหมดก็จ่ายค่าเช่าให้ทางวัดไม่เคยขาด แต่พอมาเป็นเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน กลับมามีโครงการที่จะสร้างอาคาร และเวนคืนที่ดิน โดยติดป้ายให้ชาวบ้านย้ายออกตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.- 15 ต.ค. ซึ่งเบื้องต้นทราบมาว่าจะสร้างเป็นอาคารพาณิชย์ และให้ชาวบ้านซื้อสิทธิเข้าอยู่ใหม่ในราคาคูหาละประมาณ 3.5 ล้านบาท ขณะที่ค่าเวนคืนก็ให้แค่หลังละ 20,000 บาท หากชาวบ้านต้องการอาศัยอยู่ต่อจะต้องใช้เงินจำนวนมากซื้อสิทธิเข้าอยู่ใหม่

และหลังจากเกิดปัญหากับชาวบ้าน ทางวัดยังไม่เคยมีการชี้แจงรายละเอียดเลย ทั้งยังมีการส่งคนมาข่มขู่โดยตลอด ทำให้มีบ้าน 8 หลัง ที่ยอมให้เวนคืนที่ดิน และรื้อถอนบ้านแล้ว ทั้งนี้ค่าเวนคืนที่ดินนั้น หากจะให้ไปหาที่อยู่ใหม่ก็ไม่เพียงพอ ส่วนหากวัดใช้พื้นที่สร้างอาคารพาณิชย์จริง ชาวบ้านก็ไม่สามารถหาเงินจำนวนมากมาซื้อสิทธิได้ ยอมรับเลยว่าหากถูกรื้อถอนบ้านไปจริงๆ ก็ไม่มีที่อยู่ และไม่รู้จะไปอยู่ไหน ที่ผ่านมาชาวบ้านได้รวมกลุ่มกันร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ศูนย์ดำรงธรรม และเจ้าคณะจ.นครปฐมแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ

 

นายอภิลาภ เหลืองยั่งยืน อายุ 45 ปี กล่าวว่า ตนได้ซื้อสิทธิห้องแถวในพื้นที่ดังกล่าวในราคา 2 ล้านบาท จากนั้นได้มีการทำสัญญาเช่ากับทางวัดไผ่ล้อมเมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2555 แต่ทางวัดกลับไม่มีการแจ้งว่าจะมีการเวนคืนที่ดินในพื้นที่ดังกล่าว หากตนทราบ คงจะไม่หาเงินจำนวน 2 ล้านบาทมาซื้อสิทธิในการเช่ากับทางวัดแน่นอน ซึ่งผู้ที่ลงนามในสัญญาเช่ามีทั้งไวยาวัจกรวัด เจ้าอาวาสวัด ซึ่งต้องทราบเรื่องการที่ทางวัดจะมีการเวนคืนที่ดินแน่นอน แต่กลับไม่แจ้งตน ดังนั้นจึงต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมในเรื่องนี้.

ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.dailynews.co.th/Content/education/283823/ชาวชุมชนวัดไผ่ล้อมร้องถูกไล่ที่

[kobyamkala]

 

[Akira]

 

[KIDSADA]

คนที่กินข้าวชาวบ้าน จากคนที่ไม่มี พอมาอาศัยผ้าเหลือง กลายเป็นผู้มีอำนาจ บาตรใหญ่ การไม่สงเคราะห์ ชาวบ้าน นี้จัดว่าเป็นการเบียดเบียน อย่างหนึ่ง แล้วทำไมวัดขาดรายได้ หรืออย่างไร หรือเป็นเพราะหน่วยงานราชการต้องการจัดสรรสุขาภิบาลอย่างไร ?

  กล้าทำอย่างนี้ ก็แสดงว่า อิทธิพล ไม่เบา แน่ ๆ ต้องมี คนที่มีอิทธิพล หนุนหลัง แน่ ๆ