ในเรื่องอารมณ์กรรมฐานในภาวนานั้น ในสาย กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลําดับ ของครูอาจารย์จริงๆนั้น
จะไม่เน้นการสาธยายใดๆไว้ เป็นตํารา หรือ นําการบันทึกใดๆมาเผยแผ่ ให้เกิดอุปปาทานใดๆ เพื่อเป็นกรรมในอนาคต
เพื่อใครคนใดบางคนยึดติดนึกว่าใด้ เพื่อจะไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น
ครูอาจารย์ของข้าพเจ้า ท่านตีรวมไว้ ว่ามันเสียมรรคเสียผล
ในสายกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลําดับ จึงไม่เน้นการพิมพ์ตํารา ในเรื่องอารมณ์กรรมฐานทั้งหลาย
เพราะว่าในสภาวะธรรมทั้งหลายของบรรดาเหล่าศิษย์ทั้งหมด พระอาจารย์กรรมฐานท่านย่อมรู้ชัดทั้งสิ้น
ว่าของใครอยู่ตรงไหน
ในสายเจโตวิมุตินั้นจึงไม่เน้นการพิมพิมพ์ตํารา
ในเรื่องอารมณ์กรรมฐานที่เราทั้งหลายนําเอามาคุยกัน เป็นไปเพื่ออวดกัน หรือคุยสนุก เพื่ออยากให้ผู้อื่นรู้และเห็นเราเป็นพระเอก หรือจริงก็เพื่อโอ้อวด แต่ความจริงอาจจะติดอยู่แค่ปีติ
ครูอาจารย์เคยบอกว่า ระยะหลัง เรื่องปฏิบัติภาวนามีการนําอารมณ์มาเล่าไว้เป็นหนังสือเรื่องการภาวนากันไว้อย่าง แข่งกันเล่า เพราะสํานักพิมพ์ทั้งหลาย ต้องการแข่งสื่อยอดขาย
(ถ้าหากอารมณ์นามดับ) อุปปาทานดับจะเอาอารมณ์ที่ไหนมาอยากเล่า
เพราะว่าถ้าหากยังต้องการเล่า ก็แปลว่า ยังดับไม่หมด และยังมีเชื้อของความเกิด....ยังไม่ดับ.. เพราะยังต้องการเกิดที่จะบอกจะเล่าและต้องการอวด เพื่ออยากให้ผู้อื่นรู้ ว่าเรารู้ รู้คือติดในธรรม สุดท้ายธรรมก็ต้องละ เพราะรู้ยังต้องการให้เค้าสรรเสริญ จึงอยากอวดรู้ และยังอยากเกิด ยังไม่พ้นโลกธรรมแปด
สรรเสริญ....คือ โลกธรรมแปด
แปลว่ายังไม่ละเอียด และยังไม่ใช่ของแท้
จะมีคําๆหนึ่งของเจโตวิมุติ ปรากฏอยู่ว่า "ของจริง นิ่งเป็นใบ้ ของพูดได้ ของไม่จริง"
สัพเพเหระ วันนี้มาคุยเล่นด้วยแค่นี้
เพราะว่าความจริงแล้วยุคปัจจุบัน ก็เป็นอย่างนี้ทั้งนั้นแหละ แม้ตัวข้าพเจ้าเองยังเป็นเลย
เดี๋ยวจะไม่รู้ว่าของแท้เป็นอย่างไรกัน
..........ตัวอย่าง........คราวหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขาม
ท่านสอนลูกศิษย์ ศิษย์นั่งใต้ถุนวัด ท่านตะโกนลอดร่องลงมาทีละสองสามคํา ท่านบอกแต่เคล็ดสําคัญ
บางครั้งบางคําแทบไม่ได้ยิน ก็ต้องถามกันเองในคนสองคนที่มาเรียนวิชานั้นๆ ไม่กล้าร้องถามอาจารย์
............?....แต่แล้วก็เห็นลูกศิษย์ท่านทั้งหลายก็เสกๆเป่าๆ ใบ ไม้ เป็นต่อแตน แปลงร่างเป็นเสือได้ทั้งนั้น
นั่นของจริงเรียนกันเพียวๆ ไม่มีการเล่าเรื่องอารมณ์
เรื่องอารมณ์ต้องส่งอารมณ์กับพระอาจารย์กรรมฐาน เท่านั้นนะจ๊ะ
ส่งอารมณ์กับเพื่อน เล่ากับเพื่อนสาธารณะทั่วไปก็ไร้ เพราะไม่ใช่ครูอาจารย์
เป็นได้แค่อวดแต่ไม่ได้แปลว่า เก่ง หรือ ได้ ซักหน่อย อาจจะตามหลังคนอื่นแบบไม่รู้ตัว
อย่ามัวหลงดีใจไปนะ จะบอกให้
ก็ว่ากันไปตามนั้น