ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: วิปัสสนาบนหน้าข่าว : สิ่งที่ประเสริฐกว่าโชค  (อ่าน 2443 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29297
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




วิปัสสนาบนหน้าข่าว : สิ่งที่ประเสริฐกว่าโชค
โดย...พระไพศาล วิสาโล

"มีตัวอย่างมากมาย คนที่ได้โชคมาแล้ว ชีวิตไม่ได้ดีขึ้น กลับตกต่ำลำบากกว่าเดิม ทั้งนี้ก็เพราะชีวิตของคนเราจะดีหรือสุข ไม่ได้อยู่ที่ว่ามีโชคลาภหรือสิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับเรา แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราเกี่ยวข้องกับมันอย่างไร"
 
เมื่อหลายปีก่อนมีสามีภรรยาคู่หนึ่งได้รางวัลที่หนึ่งสลากกินรวบ ได้เงินประมาณร้อยล้านเหรียญ ประมาณสามพันกว่าล้านบาท ลองนึกดูซิว่าถ้าเราได้ลาภขนาดนี้ ชีวิตจะมีความสุขมากแค่ไหน ใครๆ ก็นึกว่าผัวเมียคู่นี้จะมีชีวิตผาสุกไปจนตาย 
 
๕ ปีผ่านไป นักข่าวคนหนึ่งได้ติดตามชีวิตของสามีคู่นี้ เพราะอยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ปรากฏว่าทั้งสองแยกทางกัน สามีกลายเป็นคนติดเหล้าและตายเพราะโรคที่เกี่ยวกับเหล้า ส่วนภรรยาก็แยกไปอยู่ในคฤหาสน์ที่ใหญ่โตแต่ก็ตายเหมือนกัน  ตายคนเดียวโดยไม่มีเพื่อน

 
 :49: :49: :49: :49: :49:

เพียงแค่ ๕ ปีเท่านั้น ชีวิตแทนที่จะมีความสุขกลับตกต่ำยิ่งกว่าเดิม ตกต่ำตอนกว่าตอนที่ยังไม่ถูกสลากกินรวบนี้ด้วยซ้ำ สองคนนี้มีเงินมากมายมหาศาล แต่กลับอายุสั้น และกลายเป็นคนไม่มีเพื่อน ชีวิตแบบนี้มีความสุขหรือเปล่า ที่เป็นอย่างนี้เพราะอะไร ก็เพราะว่าเจอลาภก้อนใหญ่ใช่ไหม คนเราเวลาเจอลาภก้อนใหญ่ อย่าคิดว่าจะมีความสุขเสมอไป อาจจะทุกข์ก็ได้ เหมือนสามล้อถูกหวย หรือชาวนาที่ขายที่ดินได้เงินเป็นสิบล้าน ผ่านไปไม่กี่ปีกลายเป็นคนจน เพราะพอได้เงินมาก็ใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย ทั้งเที่ยวทั้งเล่น เที่ยวก็คือเที่ยวกลางคืน เที่ยวผู้หญิง เล่นก็คือเล่นการพนัน ใช้จ่ายกันทีละล้านสองล้านกันก็มี พอเงินหมดก็ไม่รู้ว่าจะทำมาหากินอะไรเพราะว่าที่ดินก็ขายไปแล้ว กลายเป็นกรรมกร ขายแรงงาน ชีวิตตกต่ำย่ำแย่กว่าเดิม
 
ที่อเมริกามีคนหนึ่งถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ ๑ เขาจึงเลิกงานเก่า มาเปิดร้านเช่าวิดีโอ ทำงานแบบสบายๆ วันๆ ก็เอาแต่กิน กินอย่างเดียวไม่ทำอะไรมาก ใครจะมาเช่าหรือไม่มาเช่าก็ไม่สนใจเพราะมีเงินเยอะ พอกินมากๆ ไม่เขยื้อนขยับ ก็กลายเป็นคนอ้วน น้ำหนักนับร้อยกิโล จนต้องเข้าโรงพยาบาล ไปไหนมาไหนลำบาก เงินที่สะสมไว้ในที่สุดก็หมด เพราะไม่ได้ตั้งใจทำมาหากิน สุดท้ายนี้กลายเป็นคนยากจน ต้องพึ่งเงินสงเคราะห์ของรัฐ เพราะว่าเจ็บป่วยมากทำมาหากินไม่ได้ แล้วก็ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่แพง
 
 :s_hi: :s_hi: :s_hi: :s_hi: :s_hi:

มีตัวอย่างมากมาย คนที่ได้โชคมาแล้ว ชีวิตไม่ได้ดีขึ้น กลับตกต่ำลำบากกว่าเดิม ทั้งนี้ก็เพราะชีวิตของคนเราจะดีหรือสุข ไม่ได้อยู่ที่ว่ามีโชคลาภหรือสิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับเรา แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราเกี่ยวข้องกับมันอย่างไร ได้โชคแต่ประมาทหลงระเริงใช้เงินไม่เป็น ชีวิตก็ตกต่ำเหมือนกับนักมวยโอลิมปิกเหรียญทอง เหรียญเงิน หลายคนของไทย ชีวิตตกต่ำไม่นานหลังจากได้เงินรางวัล ๒๐ ล้าน หลายคนเป็นหนี้เป็นสิน บางคนเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง บางคนครอบครัวแตกแยก
 
ในทางตรงข้าม บางคนมีชีวิตที่ลำบาก ยากจน อับโชค แต่เขาอาจมีความสุขใจก็ได้ สุขหรือทุกข์อยู่ที่ใจ เมื่อยอมรับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นตระหนักว่าป่วยการที่จะบ่นตีโพยตีพาย หากป่วยกายแล้วยังตีโพยตีพายอีก ใจก็ป่วยตามไปด้วย แต่ถ้ากายป่วย แต่รักษาใจให้ดี  ก็เป็นสุขได้

 
 :sign0144: :sign0144: :sign0144: :sign0144: :sign0144:

มีฝรั่งคนหนึ่งชื่อ ฌอง โดมินิค โบบี้ เขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ผลก็คือร่างกายกระดิกกระเดี้ยไม่ได้ ขยับเนื้อขยับตัวไม่ได้เลย สื่อสารด้วยการกะพริบตา ว่าใช่ หรือไม่ใช่ แต่ปรากฏว่าเขาใช้วิธีนี้เขียนหนังสือได้ ๑ เล่ม หนังสือนั้นชื่อว่า “ชุดประดาน้ำกับผีเสื้อ” เป็นหนังสือที่ขายดีและสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆ มาก มีการแปลเป็นไทยและก็มีการทำเป็นหนัง ใครที่ได้อ่านก็รู้สึกประทับใจและมีกำลังใจมาก ขนาดพิการอย่างนี้ยังมีความหวังและมีอารมณ์ขัน เขาตั้งชื่อหนังสือเล่มนี้ว่า ชุดประดาน้ำกับผีเสื้อ เพราะว่ามันแทนตัวเขาได้ดี คือ ร่างกายของเขามีสภาพเหมือนคนที่ถูกขังอยู่ในชุดประดาน้ำ ชุดประดาน้ำทำด้วยเหล็กทั้งชุด หนักมาก เพื่อให้จมลงไปในน้ำได้ ใครที่อยู่ในชุดประดาน้ำจะขยับเขยื้อนได้ลำบากมาก   
 
ส่วนผีเสื้อหมายถึงจิตใจของเขา คือ แม้ร่างกายจะถูกพันธนาการ แต่จิตใจมีอิสระ เหมือนผีเสื้อที่สามารถบินไปดูดน้ำหวาน จากดอกไม้สวยๆ หรือจะบินไปตามทุ่งหญ้าที่งดงาม อันนี้ก็คือความรู้สึกนึกคิดของคนคนนี้  ถ้าเราเป็นอย่างนั้นบ้าง คงทุกข์ทรมานมาก อยากตายมากกว่า เพราะทำอะไรไม่ได้เลย พูดก็ไม่ได้ ไม่สามารถจะบอกความเจ็บความปวดได้ ทำได้แต่เพียงกะพริบตากับอยู่ไปวันๆ แต่เขาไม่คิดอย่างนั้น เขาคิดว่าชีวิตในแต่ละวันมีคุณค่ามีความหมาย และเขาสามารถถ่ายทอดความรู้สึกนี้ออกมาได้อย่างดี ทำให้คนอ่านมีกำลังใจได้

 

อาตมาจึงอยากจะเน้นว่าสุขและทุกข์ของคนเราไม่ได้อยู่ที่ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเรา แต่อยู่ที่ว่าเราวางใจหรือเกี่ยวข้องกับมันอย่างไรต่างหาก  ทุกวันนี้คนเรามักอยากให้มีแต่สิ่งดีๆ เกิดขึ้นในชีวิตเรา เวลาเราทำบุญก็อยากให้มี อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อยากให้มีเงินอยากให้อายุยืน เราปรารถนาหรือหวังให้มีแต่สิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับชีวิตของเรา แต่เราไม่ค่อยได้คิดเท่าไหร่ว่าถ้ามันเกิดขึ้นกับเราจริงๆ เราจะรับมือกับมันไหวหรือเปล่า ผู้คนไม่ค่อยได้คิดตรงนี้ หากเกิดลาภ เกิดโชคกับเราจริงๆ ประเภทราชรถมาเกย หรือเกิดส้มหล่น เราแน่ใจหรือเปล่าว่าเราจะรับมือกับมันได้  ผู้คนเป็นอันมากรับมือกับมันไม่ได้เพราะไม่ได้เตรียมใจ ไม่ได้ฝึกใจที่จะเกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านี้เลย 
 
คนเราถ้าเกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆ ไม่เป็นแม้จะเป็นสิ่งดีๆ ก็เป็นทุกข์หรือเกิดโทษได้  ในทางตรงข้าม แม้เจอสิ่งแย่ๆ แต่รู้จักเกี่ยวข้องกับมัน ก็เป็นสุขหรือเกิดประโยชน์ได้ นี่คือความจริงที่พึงตระหนักในการดำเนินชีวิต แม้เจอเคราะห์ซ้ำกรรมซัด แต่หากวางใจเป็น เพราะฝึกมาดีแล้ว  ใจก็ไม่ทุกข์  สุขหรือทุกข์จึงอยู่ที่ใจเป็นสำคัญ

 
 ans1 ans1 ans1 ans1 ans1

ดังนั้นจึงอย่ามัวแต่ตั้งจิตปรารถนาว่า ขอให้มีสิ่งที่ดีๆ เกิดขึ้นกับฉัน แต่ควรสนใจว่า ทำอย่างไรเราจึงจะมองหรือเกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆ ให้ถูกต้อง จะดีกว่า หรือตั้งจิตปรารถนาว่า ทำอย่างไรจึงจะมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นในใจเรา อันนี้สำคัญกว่า
 
ถ้าเราสามารถสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นในใจได้ อย่างที่พระพุทธเจ้าเรียกว่าอริยทรัพย์ มีศรัทธา มีปัญญา มีศีล มีสติ มีสมาธิ มีเมตตา มีจิตใจที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รู้จักเกื้อกูล สิ่งเหล่านี้จะทำให้จิตใจเรามีคุณภาพใหม่ เรียกว่าเป็นจิตใจที่เปี่ยมไปด้วยบุญด้วยกุศล
 
 :96: :96: :96: :96: :96:

บุญเป็นชื่อของความสุข บุญเป็นชื่อของความดี ถ้าเรามีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในใจ ก็เท่ากับว่าเราพร้อมที่จะเผชิญกับสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น เราจะไม่กลัวว่าจะมีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นกับเรา เพราะว่าเราเตรียมตัวไว้แล้ว ไม่ว่าความเจ็บความป่วย ความล้มเหลวในการทำงาน คำต่อว่าด่าทอ เจอสิ่งเหล่านี้เราก็ไม่ทุกข์เพราะว่าเรามีใจที่ฝึกไว้ดีแล้ว
 
สิ่งนี้สำคัญกว่าโชค สำคัญกว่าลาภ สำคัญกว่าชื่อเสียงเกียรติยศ เป็นหลักประกันว่าเราจะมีชีวิตที่ดีกว่า และนำไปสู่การมีชีวิตที่ดีที่สุดด้วย เพราะฉะนั้นเวลาเราปรารถนาจะให้มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับเรา อย่าหวังเพียงแค่ว่า ขอให้รวย ขอให้มีชื่อเสียง แต่ว่าควรจะหวังมากกว่านั้น และลงมือทำด้วย

 
 :25: :25: :25: :25: :25:

ระยะหลังอาตมาสังเกตว่า เวลารับบาตรหรือรับสังฆทาน นับวันผู้คนจะอธิษฐานนานขึ้นเรื่อยๆ บางคนอธิษฐานนานเป็นนาทีก่อนจะถวาย เช่น ขอให้รวย ขอให้หายป่วย ขอให้ถูกหวย ขอให้ขายที่ได้ ขอให้ได้บ้านหลังใหญ่ ขอให้ประสบความสำเร็จ ขอให้สมัครงานได้ ขอให้ลูกสอบติดมหาวิทยาลัย ขอให้สอบเข้าได้ ฯลฯ อธิษฐานยาวเหยียดเลย

ผิดกับชาวบ้านสมัยก่อน เวลาทำบุญใส่บาตรเขาอธิษฐานสั้นมาก คือ อธิษฐานว่า 'นิพพานัง ปัจจโย โหตุ'  ขอให้เป็นปัจจัยไปสู่พระนิพพาน อย่างอื่นเขาไม่สนใจ ไม่ว่า เงินทอง ชื่อเสียง ความสำเร็จ เพราะเขารู้ว่า มันเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย  ถึงได้มาก็ยังมีความทุกข์อยู่ มันไม่ใช่ชีวิตที่ประเสริฐที่สุด ชีวิตที่ประเสริฐคือชีวิตที่เข้าถึงนิพพาน จึงอธิษฐานสั้นๆ ตรงประเด็น ถ้าเราฉลาด เราก็จะมุ่งที่ตรงนี้ คือชีวิตที่ดีที่สุด ไม่ใช่ชีวิตที่แค่ดีเฉยๆ


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20150104/198749.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: วิปัสสนาบนหน้าข่าว : สิ่งที่ประเสริฐกว่าโชค
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มกราคม 07, 2015, 09:02:14 pm »
0
 

     เห็นพระใหญ่ ครั้งใด......รู้สึกในใจ ว่าเป็นที่พึ่งพิงของเรา

                 
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา