ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สิ้น 'หลวงพ่อเอียด' เกจิดังเมืองกรุงเก่า สิริอายุ 87 ปี  (อ่าน 1866 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29387
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


สิ้น 'หลวงพ่อเอียด' เกจิดังเมืองกรุงเก่า สิริอายุ 87 ปี

ศิษยานุศิษย์เศร้า "หลวงพ่อเอียด" เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เกจิดังเมืองกรุงเก่า ที่โด่งดังทางเมตตาค้าขาย แหวนเงินลงยา มรณภาพอย่างสงบ ที่รพ.พระมงกุฎเกล้า หลังอาพาธเป็นเวลานาน สิริรวมอายุ 87 ปี...

เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระมหาเชิดชัยกตปุณโญ รองเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และรองเจ้าอาวาส วัดพนัญเชิงวรวิหาร ได้แจ้งว่า พระสุนทรธรรมานุวัตร หรือหลวงพ่อเอียด อินฺทํโส เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ต.สะพานไทย อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และเจ้าคณะอำเภอบางบาล พระเกจิชื่อดัง ที่โด่งดังทางเมตตาค้าขาย กำไลข้อมือ แหวนเงินลงยา ได้มรณภาพอย่างสงบ ที่รพ.พระมงกุฎเกล้า กรุงเทพมหานคร ด้วยโรคไต ทั้งนี้ หลวงพ่อเอียด เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2471 ชาวต.สะพานไทย อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา สิริรวมอายุ 87 ปี

ด้านพระใกล้ชิดหลวงพ่อเอียด ระบุว่า หลวงพ่อเอียด อาพาธด้วยโรคไต มาเป็นเวลานานแล้ว โดยเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลบ่อยครั้ง รวมทั้งร่างกายที่ชราภาพ และมีโรคประจำตัว แต่ยังคงปฏิบัติกิจสงฆ์เผยแผ่ศาสนาให้กับเหล่าลูกศิษย์ลูกหาที่มาตลอดทั้งวัน และมีงานพิธีพุทธาภิเษก ซึ่งต้องมีหลวงพ่อเอียด ไปร่วมปลุกเสกบ่อยครั้ง ช่วงหลังอาการหลวงพ่อเอียด ทรุดหนัก ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทางวัดนำส่ง รพ.พระมงกุฎ แพทย์ระบุว่า เส้นเลือดหัวใจตีบต้องทำบอลลูนนอนพักที่รพ. จนกระทั่งช่วงบ่ายที่ผ่านมาโรคไตกำเริบ ทางแพทย์จึงนำเข้าห้องไอซียูเป็นการด่วน แต่ไม่สามารถช่วยได้ทัน โดยหลวงพ่อเอียด ได้มรณภาพอย่างสงบเมื่อเวลา 21.50 น.ของวันที่ 29 ม.ค. ซึ่งจะได้มีการนำศพหลวงพ่อกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดไผ่ล้อมในวันที่ 30 ม.ค.ต่อไป.


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/477986
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7292
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
การมรณภาพ ของ คนทั่วไป  เราคงต้องกล่าว คำไว้ อาลัย ว่า
 "ขอแสดงความเสียใจด้วยนะจ๊ะ" แก่ญาติพี่น้องของเขา
และกระทำในใจว่า "ตัวเราก็ไม่ต่างจากตัวคนที่ตาย เราต้องแน่นอนเช่นกัน"


การมรณภาพ ของ พระทั่วไป เราคงต้องกล่าว คำไว้ อาลัย ว่า
 "สมศักดิ์ศรีของท่านแล้ว ที่ได้เสียชีิวิต ในผ้ากาวสาวพัตร์นี้" แก่เพื่อน สหธรรมิกด้วยกัน
และกระทำไว้ในใจว่า "อันตัวเราไซร้นี้ ก็จะไม่น้อยหน้าท่าน จะตายให้สมศักดิ์ศรีเช่นท่านให้ได้"

การมรณภาพ ของ พระที่เป็น ครูอาจารย์ เราคงต้องกล่าว คำไว้ อาลัย ว่า
 "หลวงพ่อ หลวงปู่ พระอาจารย์ ท่านเป็นพระเนื้อนาบุญโดยแท้ การจากไปของท่าน เท่ากับเนื้อนาบุญที่หายไป" แก่ เพื่อน สหธรรมิกด้วยกันทั้งปวง
และ กระทำไว้ในใจว่า "อันตัวกระผม ได้ ดูครูอาจารย์เป็นตัวอย่าง จักใช้ชีิวิตเป็นเนื้อนาบุญเยี่ยงท่าน และจากไป อันความไม่มีกายนี้ กระผมก็เป็นอย่างท่านเช่นกัน"

   ถึงแม้ การจากไป ของครูอาจารย์ ไม่ว่า จะเก่งขนาดไหน มีผลงาน ระดับไหนก็ตาม สิ่งที่เราต้องนำมาไว้เป็น สิ่งที่คิดถึงท่าน ก็คือ คุณงามความดี ของท่านเป็นแบบอย่าง และ เราก็นำมาตั้งเป็น มรณัสสติ เตือนตนไว้อย่าได้ประมาท เช่นกัน

  เจริญธรรม / เจริญพร


 
 

บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

bajang

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 325
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า