ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สุดยอดสมุนไพรจากข้าวก่ำแก้โรคหัวใจ-ยับยั้งมะเร็ง  (อ่าน 4039 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

หมวยจ้า

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +40/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1336
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0



จาก ที่คนไทยบริโภคข้าวเป็นอาหารหลักมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ทำให้ในประเทศมีข้าวหลายสายพันธุ์ ทั้งที่ข้าวใหม่ๆ ที่นักวิชาการได้พัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมา และมีข้าวพันธุ์พื้นเมืองอีกมายมาย ซึ่งหลายสายพันธุ์กำลังจะสูญพันธุ์ไป ทั้งที่ข้าวพื้นเมืองมีคุณค่าทางโภชนาการที่ควรจะอนุรักษ์

อย่างข้าว เหนียวเมล็ดสีแดง หรือที่รู้จักในนาม "ข้าวก่ำ" ที่เคยปลูกมากในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และน่าน ก็เป็นข้าวพื้นเมืองโบราณอีกชนิด ที่คนสมัยก่อนนิยมนำไปทำขนมไทย จำพวกข้าวหลาม ขนมเทียน ซึ่งทีมคณะวิจัยของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่พบว่ามีคุณประโยชน์เชิงโภชนศาสตร์ เกษตร คือ สารต้านอนุมูลอิสระอย่างแอนโทไซยานิน และแกรมมาโอซานอล เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีผลที่ดีต่อสุขภาพ

เดิมคนโบราณเชื่อว่าเป็น ข้าวเพื่อพิธีกรรม และการบำบัดรักษาเบื้องต้น ใช้เป็นยารักษาโรคที่น่าเชื่อถือ คือเรื่องการตกเลือดของหญิงคลอดลูก แก้ท้องร่วง ให้นำข้าวก่ำมาทำเป็นข้าวหลามรับประทานจะช่วยให้ทุเลาได้ ขณะที่ภาคใต้ใช้รักษาโรคผิวหนัง โดยเฉพาะโรคหิด จึงนิยมปลูกบริเวณเล็กๆ ซึ่งนอกจากความเชื่อในเรื่องสมุนไพรและคุณค่าทางอาหารของข้าวก่ำแล้ว สีของข้าวก่ำที่ออกแดงม่วงยังเป็นปรากฏการณ์ของธรรมชาติที่เป็นประโยชน์ต่อ พืช เป็นการป้องกันโรคและแมลง โดยถือว่าข้าวก่ำเป็นพญาข้าวที่สามารถสังเคราะห์และปล่อยสารที่จะช่วย ป้องกันแมลงและโรคให้แก่ข้าวอื่นๆ ได้ ซึ่งจะเห็นได้จากการนิยมปลูกข้าวก่ำแทรกกับข้าวขาว เป็นต้น

ดร.ดำเนิน กาละดี หัวหน้าหน่วยวิจัยข้าวก่ำ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบุว่า ผลงานวิจัยสำคัญที่คณะวิจัยของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้นำเสนอ เป็นความก้าวหน้าทางวิชาการคือ คุณประโยชน์เชิงโภชนศาสตร์เกษตร คือ ข้าวก่ำมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างแอนโทไซยานิน และแกรมมาโอซานอล ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระมีผลที่ดีต่อสุขภาพ ในการช่วยป้องกันโรคหัวใจ ลดคอเลสเตอรอล ลดน้ำตาลในเลือด ยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็งกระเพาะ ยับยั้งการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร และยับยั้งการรวมตัวของเกล็ดเลือด

อย่าง ไรก็ตาม ข้าวเหนียวดำหรือข้าวก่ำถือเป็นแหล่งพันธุกรรมข้าวที่สำคัญชนิดหนึ่ง แต่ปัจจุบันถูกลดความสนใจ มีการเพาะปลูกลดลง และกำลังจะสูญหายไปจากพื้นที่นา ทางคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงเริ่มรวบรวมและอนุรักษ์พันธุกรรมข้าวก่ำพื้นเมืองของไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2539 ได้ทำงานวิจัยในเชิงวิทยาศาสตร์เกษตรตลอดมา และประสบผลสำเร็จ มีผลงานวิจัยเผยแพร่เป็นองค์ความรู้ใหม่ทางวิทยาศาสตร์เกษตรเป็นที่น่าสนใจ

กระทั่ง ได้รับอนุมัติจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้จัดตั้งเป็น "หน่วยวิจัยข้าวก่ำ" หรือชื่อภาษาอังกฤษ "Purple Rice Research Unit" ชื่อย่อ "พีอาร์อาร์ยู" (PRRU) อยู่ภายใต้การดูแลของสถาบันวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งคณะผู้วิจัยได้เพียรพยายามรวบรวมพันธุ์ข้าวก่ำพื้นเมืองได้ถึง 42 พันธุกรรม จากแหล่งปลูกข้าวทั่วประเทศ ซึ่งพันธุ์ข้าวก่ำที่ได้รับการขึ้นทะเบียนพันธุ์เป็นข้าวเหนียวก่ำ ได้แก่ พันธุ์ก่ำดอยสะเก็ด และก่ำอมก๋อย และผลงานการวิจัยในครั้งนี้ได้จัดให้ผู้สนใจชมมาแล้วในงานวันเกษตรภาคเหนือ ครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 26 พฤศจิกายน - 3 ธันวาคม 2552 ที่ผ่านมา ณ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ส่วนในอนาคตมหาวิทยาลัย เชียงใหม่เชื่อว่าจะสามารถผลิตพันธุ์ข้าวเจ้าก่ำที่ มีคุณภาพทั้งทางด้านโภชนศาสตร์เกษตร และด้านโภชนศาสตร์สุขภาพ จึงมีการพัฒนาพันธุ์ข้าวก่ำให้สามารถแข่งขันกับตลาดเสรีได้

ที่มาข้อมูล :
คมชัดลึก วันที่ 7 มกราคม 25
บันทึกการเข้า
ถึงเป็นผู้หญิง ตัวเล็ก แต่ก็ยังสู้ได้อยู่ด้วยตัวคนเดียว
พุทโธ พุทโธ พุทโธ ขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ที่ระลึกถึง

หมวยจ้า

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +40/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1336
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ข้ า ว ลื ม ผั ว . . . แก้โรคหัวใจ-ยับยั้งมะเร็ง
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2010, 04:39:56 am »
0
ข้ า ว ลื ม ผั ว . . .



ศูนย์วิจัยข้าวพิษณุโลก...ได้รับความสำเร็จในการคัดเลือกพันธุ์ข้าวเหนียวดำ ชื่อ...ลืมผัว

นาม นี้ดึงดูดใจพอสมควร...หลังจากชุดโครงการวิจัยข้าวนาน้ำฝนคัดเลือกได้สาย พันธุ์บริสุทธิ์ จึงนำไปขึ้น ทะเบียนรับรองจากกรมวิชาการเกษตร ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ สถาบันค้นคว้าและ พัฒนาผลิตภัณฑ์ อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กับ ศูนย์วิจัยข้าวปทุมธานี วิเคราะห์ คุณค่า ทางโภชนาการ...และได้รับการการันตีว่า มีคุณค่าสูงเหมาะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ

คุณ สำลี บุญญาวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการข้าว แจงข้อมูลดั้งเดิมว่าข้าวเหนียวดำ พันธุ์ลืมผัว เป็นข้าวนาปีพื้น เมืองเดิม ปลูกในสภาพไร่ บนภูเขาที่อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ต้น สูงประมาณ 137 เซนติเมตร ออกดอกประมาณวันที่ 15 กันยายน เมล็ดค่อนข้างอ้วน จำนวนเมล็ดดีต่อรวง เฉลี่ย 130 เมล็ด น้ำหนักข้าวเปลือก 1,000 เมล็ดประมาณ 37.9 กรัม

สถิติ ผลผลิตสูงสุด เมื่อปลูกสภาพไร่และอากาศที่เหมาะสม 490 กิโลกรัมต่อไร่ เมื่อนำมาปลูกในพื้นราบจะได้อยู่ราวๆ 200 ถึง 350 กิโลกรัมต่อไร่...

การปลูกต้องดูแลอย่างใกล้ชิดเนื่องจากค่อนข้างอ่อนแอต่อโรค และ แมลงศัตรูข้าว

ข้าว เหนียวดำลืมผัว มีกลิ่นหอม รสชาติอร่อย เมื่อเคี้ยวจะรู้สึกมันและนุ่มแบบหนุบๆ (คง จะมาจากประเด็นนี้ แม่บ้านได้เปิบแล้วอร่อยจนลืมผัว)

นอกจากจะรับประทานแบบข้าวเหนียว นึ่ง โดยทั่วไปแล้ว ยังแปรรูปได้หลายชนิด เช่น ผสมกับข้าวขาว ต้มเป็นสีม่วงอ่อน ทำข้าวเหนียวเปียก ชาข้าวคั่ว แบบ pearl barley หรือเครื่องดื่มทั้งมีแอลกอฮอล์และ ปราศจากแอลกอฮอล์ซึ่งจะมีสีคล้ายทับทิมสวยงาม ชวนเปิบ

รองอธิบดีกรมการข้าว ยังอธิบายต่อถึงคุณค่าทางอาหารและโอสถสารของข้าวลืมผัวว่ามี

- สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) โดยรวมปริมาณสูงถึง 833.77 มิลลิกรัม
- กรด แอสคอร์บิก ต่อ 100 กรัม วิตามินอี (อัลฟ่า-โทโคฟีรอล) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยลดคอเลสเท อรอล 16.83 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
- กรดช่วยบำรุง สมอง ป้องกันภาวะเสื่อมและช่วยความจำ ได้แก่ โอเมก้า-3 ปริมาณ 33.94 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม
- โอเมก้า-6 (ช่วยบรรเทาอาการขาดภาวะเอสโตรเจนของวัยทองและช่วยให้ผิวพรรณ เปล่งปลั่ง) 1,160.08 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม และ โอเมก้า-9 ซึ่งช่วยลดคอเลสเทอรอลในเส้นเลือด ทำให้เส้นเลือดไม่อุดตัน ไม่เป็นโรคหัวใจ โรคพากินสันส์
- และช่วยลดความอ้วน 1,146.41 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม

นอก จากนี้ยังมีแอนโทไซยานิน 46.56 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม โปรตีน 10.63% มีธาตุเหล็กสูงมากถึง 84.18 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม แคลเซียม สังกะสี และ แมงกานีส 169.75 23.60 และ 35.38 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมตามลำดับและที่สำคัญอีกตัวคือ แกมม่าโอไรซานอล ซึ่งช่วยลดคอเลสเทอรอล และไตรกลีเซอไรด์ ตลอดจนช่วยลดการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ปริมาณ 508.09 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมเฉพาะ ปัจจัยตัวหลัง คุณผู้ชายวัยทองอย่าให้พลาดเพราะอาจเป็นอย่างชื่อข้าว..!!

คนภาค เหนือโดยเฉพาะภาคเหนือตอนล่างจะรู้จัก ข้าวเหนียว "ลืมผัว"เป็นอย่างดี คนโบราณตั้งชื่อว่าข้าวเหนียวดำ "ลืมผัว" นั้นมีการบอกเล่าจากคนเก่าคนแก่ว่าเป็นคำเปรียบเทียบหรืออุปมาอุปไมย บอกถึงความอร่อยของรสชาติ มีกลิ่นหอมเวลาเคี้ยวจะรู้สึกมันและ นุ่มละมุนปากแบบหนุบๆ กินแล้วหลงใหลในรสชาติจนลืมสามีนั่นเอง

แถม นิดว่า ในรายการข่าวของสรยุทธ์บอกว่า ข้าวเหนียวดำนี้ ในอดีตเมียที่ทำกับข้าวกินแล้วรู้สึกติดใจในความนุ่ม เหนียวอร่อย จนกระทั่งกินหมดลืมเหลือเผื่อไว้ให่สามี จนตั้งชื่อว่า ข้าวลืมผัว

ที่มา
- บล๊อกโอเคเนชั่น
- jedsadan.googlepages.com
บันทึกการเข้า
ถึงเป็นผู้หญิง ตัวเล็ก แต่ก็ยังสู้ได้อยู่ด้วยตัวคนเดียว
พุทโธ พุทโธ พุทโธ ขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ที่ระลึกถึง