ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อึ้ง.! พระพรหมรอดเงื้อมมือโจร ให้โชคทีมงานผู้สื่อข่าว  (อ่าน 917 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29384
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


อึ้ง.! พระพรหมรอดเงื้อมมือโจร ให้โชคทีมงานผู้สื่อข่าว

ฉะเชิงเทรา - พระพรหมวัดชมโพธยาราม ที่รอดพ้นจากเงื้อมมือโจรให้โชคทีมงานผู้สื่อข่าว หลังแสดงปาฏิหาริย์ให้ลาภเล็กๆ น้อยๆ แก่หนึ่งในทีมงานผู้สังเกตเห็นลวดลายบนแผ่นทองคำเปลวที่ถูกปิดไว้บนหน้าอกเป็นเลขเสี่ยงทายผลการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลเมื่อวันวาน ส่วนความคืบหน้าของคดียังไร้วี่แววในการติดตามทวงคืน 4 เทวรูปที่สูญหายไป
       
       วันนี้ (2 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์ 4 เทวรูปเก่าแก่ตามความเชื่อในศาสนาพราหมณ์ ประกอบด้วย ฤาษีตาไฟ 2 ตน พร้อมด้วยพระนารายณ์ทรงโค และพระนารายณ์ทรงนกยูง ได้ถูกโจรใจบาปลักษณะรูปร่างใหญ่อ้วนท้วม ได้เข้ามาขโมยไป จากวัดชมโพธยาราม ตั้งอยู่ริมถนนสาย ฉะเชิงเทรา-บางปะกง เลขที่ 94 ม.1 ต.โสธร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 19 ก.พ.58 ที่ผ่านมานั้น
       
       จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปทำข่าวอย่างต่อเนื่องและถ่ายภาพ พระพรหม และพระนารายณ์แผงศร ส่วนที่เหลือรอดพ้นจากการถูกขโมยไปมาด้วยนั้น ปรากฏว่า ทีมงานของผู้สื่อข่าว จ.ฉะเชิงเทรา ได้สังเกตเห็นในภาพถ่าย ซึ่งมีแผ่นทองคำเปลวที่ถูกปิดไว้บนหน้าอกของพระพรหมนั้น ได้ปรากฏร่องรอยซึ่งเป็นตัวเลขขึ้นมาให้ทีมงานผู้สื่อข่าวได้เห็น และได้นำไปใช้เป็นแนวทางในการเสี่ยงทายผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลเมื่อวันวานที่ผ่านมานั้น



        ปรากฏว่าทีมงานได้รับโชคลาภจากผลการเสี่ยงทายอย่างน่าอัศจรรย์ใจ ทั้งที่ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น ทีมงานผู้นี้เป็นบุคคลซึ่งไม่เคยมีลาภทางด้านนี้มากก่อนมากนัก จึงเชื่อว่าอาจเป็นเพราะความศักดิ์สิทธิ์ หรือปาฏิหาริย์ของพระพรหม จนเป็นเรื่องแปลกที่ไม่สามารถที่จะหาเหตุผลใดมาอธิบายได้มากนัก
       
       ขณะเดียวกัน พระมหาศุภกร ศรจันทึก อายุ 37 ปี พรรษา 13 พระลูกวัดชมโพธยาราม ยังกล่าวเปิดเผยด้วยว่า แผ่นทองที่ถูกปิดไว้บริเวณหน้าอกของพระพรหมนั้น เป็นแผ่นทองเก่าที่ไม่ทราบว่าถูกปิดไว้มาตั้งแต่เมื่อใด แต่หลังจากที่ประชาชนได้ทราบข่าวในการหายไปของเทวรูปโบราณเก่าแก่ทั้ง 4 องค์แล้ว ได้ทำให้ภายในวัดมีประชาชนและนักท่องเที่ยวพากันเดินทางเข้ามายังวัดชมโพธยารามเพิ่มมากขึ้นถึงกว่า 2 เท่าตัว
       
       โดยจากเดิมในวันปกติธรรมดาจะมีผู้คนเดินทางมาทำบุญ หรือสะเดาะเคราะห์น้อย แค่เพียงวันละประมาณ 5-6 ราย ปัจจุบันได้มีประชาชนเดินทางเพิ่มเข้ามามากขึ้นถึงว่า 10 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเดินทางมาท่องเที่ยวมากกว่าที่จะมาแสวงบุญ และมักจะเข้ามาสอบถามถึงความคืบหน้าของคดี และการติดตามทวงคืนเทวรูปทั้ง 4 ที่สูญหายไปนั้น ว่าได้กลับคืนมาหรือไม่อย่างไร



        ขณะที่ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ยังมีนักท่องเที่ยวที่พากันเดินทางมาจากต่างจังหวัด โดยมีทั้งเหมารถตู้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังที่วัดชมโพธยารามเพิ่มมากขึ้นอีกด้วยถึงกว่า 2 เท่าตัวเช่นเดียวกัน พระมหาศุภกร กล่าว
       
       ด้าน พระมหาประยอม กัลยาโณ อายุ 38 ปี พรรษา 12 เจ้าอาวาสวัดชมโพธยาราม กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อ หรือแจ้งกลับมายังทางวัด จากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด ซึ่งเชื่อว่าทางตำรวจน่าจะกำลังอยู่ระหว่างการติดตามสืบหาคนร้าย และเทวรูปทั้ง 4 องค์ ที่ถูกขโมยไปอยู่ ทางวัดจึงยังคงต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำงานต่อไปอีกสักระยะ ซึ่งถ้าหากได้เทวรูปกลับคืนมาเมื่อใด ทางวัดจะรีบแจ้งให้ทางผู้สื่อข่าวทราบในทันทีด้วยเช่นเดียวกัน


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000025007
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ