พิมพ์

[raponsan]

บุกจับพระนักพัฒนา อ.วังน้ำเขียว ขณะเลื่อยไม้สร้างกุฏิ-ชาวบ้านแห่ประท้วง

นครราชสีมา วันนี้ (19 มี.ค.) พ.ต.ต.กระจาย ทันตะคุ สารวัตรเวรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรอุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียวได้มีการนิมนต์พระสำเริง ฉันทะธัมโม อายุ 45 ปี เจ้าคณะสำนักสงฆ์ป่าเขาน้อย บ้านหนองแวง ม.2 ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ที่ตกเป็นผู้ต้องหา คดีแปรรูปไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลานที่ 2 (สวนห้อม) บุกเข้าจับกุมที่สำนักสงฆ์ดังกล่าว ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน

โดยสามารถจับกุมได้พร้อมของกลาง เป็นไม้ที่กำลังอยู่ในระหว่างการแปรรูปประเภทต่างๆ อาทิ ไม้เต็ง ไม้มะค่าแต้ ไม้มะม่วงป่า และไม้ชาด รวมจำนวนทั้งสิ้น 64 แผ่น รวมปริมาตร 1.60 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลานที่ 2 (สวนห้อม) ได้นิมนต์พระสำเริง มาส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอุดมทรัพย์ เพื่อให้ดำเนินคดีในข้อหา ทำไม้ แปรรูป เจาะ สับ เผาหรือทำด้วยประการใดๆ แก่ไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองเกิน 0.02 ลูกบาศก์เมตร ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นิมนต์ พระสำเริง มาเพื่อจะขอรับคำปรึกษาด้านการดำเนินการทางพระธรรมวินัยกับพระสำเริง โดยมีพระวินัยโมลี รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ฝ่ายธรรมยุต เป็นผู้รับเรื่องดังกล่าว

ทั้งนี้ พระสำเริง ฉันทะธัมโม เจ้าคณะสำนักสงฆ์ป่าเขาน้อย กล่าวว่า สำนักสงฆ์ป่าเขาน้อย มีพื้นที่อยู่ประมาณ 800 ไร่ โดยชาวบ้านได้นิมนต์ให้ตนได้เข้ามาจำวัดที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งภายในสำนักสงฆ์ ก็มีเพียงศาลาการเปรียญ 1 หลัง และกุฏิสงฆ์ จำนวน 4 หลัง โดยก่อนเกิดเหตุ ได้มีชาวบ้านนำต้นไม้มาถวายให้กับตน ตนกับชาวบ้านจึงได้ช่วยกันนำมาแปรรูปเพื่อเตรียมใช้สร้างกุฏิสงฆ์เพิ่มเติม แต่ยังไม่ทันทำเสร็จ ก็ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้ามาจับกุมดังกล่าว

ด้านพระวินัยโมลี รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ฝ่ายธรรมยุต กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนิมนต์ พระสำเริง มาเพื่อที่จะให้ทางผู้ปกครองฝ่ายสงฆ์ พิจารณาวินัยสงฆ์ หรือลาสิกขานั้น คงจะต้องมีการสอบสวนหาข้อเท็จจริงในส่วนคณะสงฆ์เสียก่อน รวมถึงต้องรอผลการสอบสวน จนถึงผลการดำเนินคดีกับพระสำเริง ให้แล้วเสร็จเสียก่อน จึงจะสามารถดำเนินการตามวินัยของสงฆ์ได้ หลังจากนี้ ก็คงจะมีการนำเรื่องดังกล่าวไปรายงานให้เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ฝ่ายธรรมยุต เพื่อดำเนินการตามวินัยสงฆ์ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากที่ชาวบ้านในพื้นที่ของสำนักสงฆ์ป่าเขาน้อย ทราบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นิมนต์พระสำเริง ซึ่งถือเป็นพระนักพัฒนา มาทำการลาสิกขา ชาวบ้านจำนวนกว่า 50 คน จึงได้นัดรวมตัวมาประท้วงที่บริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรอุดมทรัพย์ เพื่อกดดันไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำพระสำเริง ไปทำการลาสิกขา โดยชาวบ้านได้ยืนชุมนุมอยู่ที่หน้าสถานีตำรวจอยู่นานเกือบ 2 ชั่วโมง ก่อนจะทราบว่า พระสำเริง ยังไม่ได้มีการลาสิกขา จึงแยกย้ายกันกลับไปโดยไม่มีความรุนแรงแต่อย่างใด

ขณะที่สารวัตรเวรเจ้าของคดี กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากนี้ คงต้องปล่อยตัว พระสำเริง ไปชั่วคราว เนื่องจาก พระสำเริง ก็ยังไม่ยอมรับสารภาพข้อกล่าวหา รวมถึงเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดของชาวบ้าน ส่วนการดำเนินการตามกฎหมาย หลังจากนี้ ก็คงจะต้องมีการสอบสวน รวมถึงขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลานที่ 2 (สวนห้อม) ในการมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ก่อนสรุปสำนวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1426739325

[Hero]

นี่ไงละ ผลของการ สร้าง ไม่ทำหน้าที่ พระ เอาแต่ จะสร้างนั้่น สร้างนี่ สุดท้าย มันก็ต้องลงเอย แบบนี้ ผมจำได้ว่า ที่เว็บเคยโพสต์ เรื่องพระตัดต้นตะเคียน ข้างรั้ว แล้ว พระผูกคอตาย เพราะคนที่มาตัดให้ ถูกจองจำอยู่ในคุก 8 ปี ไม่มีอุทธรณ์ นะครับ ....

   นี่ก็เป็นตัวอย่าง อีกเช่นกัน การตัดไม้ ของพระสงฆ์ ผมไม่ได้เห็นครั้งแรก ผมเห็นหลายครั้ง บางทีก็เป็นต้นสัก ตัดเสร็จก็เลื่อย เป็นแผ่นกัน แต่ ถ้าไม่มีคนเอาเรื่อง ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามีคนเอาเรื่อง ก็ถูกแจ๊คพ็อต กัน

   มีพระนักสู้ คุ้มครองต้นไม้ รู้สึกจะเป็นสายสวนโมกข ต่อสู้ป้องกันนายทุนทำลายป่า แต่ พระนั้นก็ตาย ถูกทำร้ายจากอิทธิพล จนเป็นคดี สะเทือนใจ มาแล้ว หลายปี

  เรื่องเหล่านี้ มองดี ๆ มันไม่ใช่หน้าที่ของพระ แต่ พระท่านก็มีขอบเขตน์ แต่ ละรูป แต่ละองค์

  ก็คงต้องดูกันต่อไป ครับ