ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สี่สังเวชนียสถาน สุวรรณภูมิพุทธชยันตี  (อ่าน 1841 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29338
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


สี่สังเวชนียสถาน สุวรรณภูมิพุทธชยันตี

พลังศรัทธา...แสวงบุญตามรอยสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายัง 4 สังเวชนียสถานในประเทศอินเดียและเนปาลประสบผลสำเร็จอย่างสูง สะท้อนได้จากพลังบุญผ่านโครงการต่างๆ และกรุ๊ปทัวร์ธรรมะแดนพุทธภูมิที่ได้รับความนิยมอย่างมาก

พระเทพโพธิวิเทศ (วีรยุทฺโธ) เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย หัวหน้าพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล จึงได้หันมารวบรวมบรรดาฆราวาสธรรมผู้มีจิตศรัทธาในประเทศไทย ร่วมกันดำเนินโครงการจัดสร้างพระมหาเจดีย์พุทธคยาและวัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี


 :25: :25: :25: :25:

โครงการนี้ตั้งอยู่ที่ถนนศรีวารีน้อย-บางนา ลาดกระบัง 54 อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อให้เป็นสถานที่จำลองสังเวชนียสถาน 4 แห่ง ขึ้นในประเทศไทย

“การจัดสร้างพระมหาเจดีย์พุทธคยาและวัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตีขึ้นในประเทศไทย ก็เพื่อให้พุทธศาสนิกชนชาวไทยที่ไม่มีโอกาสเดินทางไปกราบพระพุทธเจ้ายังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ สามารถเดินทางมายัง 4 สังเวชนียสถานที่สร้างขึ้นภายในประเทศได้”

สิ่งก่อสร้างทุกชิ้น แม้แต่ “ต้นศรีมหาโพธิ์” อันเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ และที่ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้นั้น บรรดาฆราวาสผู้ร่วมแรงร่วมใจทำโครงการนี้ จะเป็นผู้อัญเชิญจากต้นศรีมหาโพธิ์จริงที่ตั้งอยู่ ณ เมืองคยา มาปลูกยังสถานที่ก่อสร้าง

 :96: :96: :96: :96:

เช่นเดียวกัน พระมหาเจดีย์พุทธคยา ก็จะใช้หินทรายในเมืองคยา นำมาสลักตามรูปแบบของพระมหาเจดีย์จริง ครบทุกรายละเอียดโดยช่างฝีมือของไทย ซึ่งมีฝีมือและความสามารถไม่แพ้อินเดีย หากดูตามภาพประกอบจะเห็นว่าได้มีการวางผังโครงการก่อสร้างสังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่ง

บรรจุไว้ในพื้นที่กว่า 45 ไร่อย่างสวยงาม และครบถ้วนแล้ว

วันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา พระธรรมทูตจากอินเดีย...เนปาล ร่วมกันเปิดปฐมฤกษ์โครงการพระสงฆ์ 220 รูป ที่เดินทางไปบวช ณ วัดไทยพุทธคยา วัดไทยกุสินารา และวัดไทยลุมพินีวัน กลับมาประเทศไทย เดินธุดงค์ใน 4 สังเวชนียสถาน ณ ดินแดนพุทธภูมิมาแล้วก็จะเดินธุดงค์ต่ออีกครั้งไปยังสถานที่ก่อสร้างวัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี

ทำวัตรเช้า สวดมนต์ โดยพร้อมเพรียงกัน ร่วมกันปลูก “ต้นพระศรีมหาโพธิ์” ที่นำมาจากพุทธคยา


 st12 st12 st12 st12

ย้อนนึกถึงธรรมะของ ท่านเจ้าคุณพระเทพโพธิวิเทศ ที่บอกว่า สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในโลกที่เกี่ยวกับพุทธศาสนามี 4 แห่ง ที่ประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนา และนิพพาน...สี่แห่งนี้พระพุทธเจ้าตรัสว่า...

“ใครได้ทำให้สังเวคธรรมเกิดขึ้น จะมีความห้าวหาญ มีกำลังเพียงพอแก่การไม่ตกนรก สถานที่สี่แห่งนี้เสมือนที่นัดพบที่พระพุทธเจ้านัดว่ามีพลังที่สุด”

“ชาวโลกทั้งหลายที่เป็นชาวพุทธนับเป็นพันๆล้านทั่วโลกมีความหมายปองที่จะมาที่ทั้งสี่แห่งนี้ มาไหว้พระแล้วก็ไป แต่ที่ลุมพินีเคยรุ่งเรืองเมื่อครั้งพระพุทธเจ้า เป็นป่าใหญ่ แล้วก็ทรุดโทรม...ที่สำคัญในบรรดาที่ทั้งสี่แห่ง ถ้าไม่มีที่เกิด...ทั้งสามแห่งก็ไม่มี”

“แผ่นดินแม่” ที่ประสูติพระพุทธเจ้า พระเทพโพธิวิเทศ บอกว่า แผ่นดินนี้เป็นแผ่นดินที่พระพุทธเจ้าประสูติ บุคคลที่ให้กำเนิดคือพระนางสิริมหามายา พระนางเป็นพุทธมารดา เสด็จมาที่นี่แล้วให้การเกิด อยู่ได้เพียง 7 วัน ก็เสด็จทิวงคต

 st11 st11 st11 st11

แผ่นดินนี้จึงเป็นแผ่นดินที่พระพุทธเจ้าทรงเลือกเองว่าเป็นแผ่นดินที่ควรจะรองรับฝ่าพระบาท...ฉะนั้นที่ตรงนี้จึงมีคำว่าแม่ เป็นคำที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

ใครมาถึงที่ตรงนี้ก็มักมีความระลึกถึงสิ่ง 3 สิ่งที่เกี่ยวข้องกันกับการเกิด นั่นก็คือ การเกิดของเรา, การเกิดของบุคคลที่ท่านให้เราเกิดคือพ่อแม่ และการเกิดของบุคคลที่เราให้เขาเกิด ลูกเต้าเหล่ากอของเรา

ลุมพินีจึงมีพลังมากที่สุดเกี่ยวข้องกับการเกิด คนที่มาทำบุญที่นี่หรืออยากจะทำบุญที่นี่ ทำได้ 4 ทาง ทำกับพระที่บ้าน ใครมีแม่อยู่ที่บ้านก็ช่วยดูแลแม่ตัวเอง บุคคลที่ทำหน้าที่เป็นแม่ของลูก...ก็ดูแลเขาดีๆ นั่นคือการทำบุญอย่างที่หนึ่ง


 :25: :25: :25: :25:

ถัดมา...ทำบุญให้แม่ของประเทศ ทำคุณงามความดีให้กับประเทศไทย และสุดท้ายทำบุญให้กับแม่ของโลกกับพระนางสิริมหามายาในสถานที่ประสูติพระพุทธเจ้า

โครงการ “พระธรรมทูต พุทธภูมิ สู่สุวรรณภูมิ สร้างมหาเจดีย์พุทธคยา สัตมหาสถาน สังเวชนียสถาน 4” มีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ เพื่อเป็นพุทธานุสรณ์สถาน ร่วมการฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี

เพื่อเป็นอาวาสที่รับรองคณะพระธรรมทูตสายอินเดีย-เนปาล พระธรรมทูตไทยที่ปฏิบัติศาสนกิจในประเทศต่างๆ...พระสงฆ์นานาชาติที่มาร่วมกิจกรรมทางศาสนา ดูแลพระธรรมทูตอาพาธ

เพื่อเป็นศูนย์กลางการประสานและส่งเสริมการปฏิบัติธรรม ศึกษาเรียนรู้พุทธศาสนาในสังเวชนียสถานในกลุ่มสุวรรณภูมิ กลุ่มประชาคมอาเซียน

 st12 st12 st12 st12

เพื่อเป็นศูนย์ช่วยเหลือดูแลผู้ไปจาริกแสวงบุญอินเดีย...เนปาล เตรียมความพร้อมการบรรพชาอุปสมบท ฝึกซ้อมประสบการณ์พระธรรมทูต จิตอาสา นักศึกษามหาวิทยาลัยสงฆ์ สถาบันการศึกษาอื่นๆก่อนเดินทางไปปฏิบัติงาน

เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เป็นศูนย์พุทธภูมิศึกษา ส่งเสริมการเรียนรู้แบบครบวงจร ระดับปฐม มัธยม และมหาวิทยาลัยเสมือนมหาวิทยาลัยเปิด ให้ผู้ยังไม่ได้ไปแสวงบุญได้มานมัสการสักการะ และให้ผู้ที่ไปแสวงบุญมาแล้วมีสถานที่พบปะ สังสรรค์สนทนาธรรม บำเพ็ญประโยชน์

เพื่อเป็นศูนย์การศึกษาวิปัสสนาระดับสากลเผยแผ่พระพุทธศาสนานานาชาติกับศูนย์วิปัสสนาวัดไทยในอินเดีย-เนปาล หมุนเวียนพระวิปัสสนาจารย์ให้วัดต่างๆ และเป็นที่รับรองเตรียมความพร้อมของพระธุดงค์ที่จะไปสังเวชนียสถานทั้ง 4 และเดินทางกลับจากแสวงบุญแล้ว


 ans1 ans1 ans1 ans1

งบประมาณเบื้องต้นตั้งไว้ที่ 300 ล้านบาท จากผู้มีจิตศรัทธาทั้งบุคคล หมู่คณะ วัด สถาบัน องค์กร มูลนิธิ บริษัท...ภาคเอกชนและส่วนราชการที่เห็นคุณประโยชน์ ใครที่มีจิตศรัทธาอยากจะร่วมทำบุญใหญ่ครั้งนี้ ติดตาม...ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.watsuvarnabhumi.net หรือเฟซบุ๊ก “วัดสุวรรณภูมิพุทธ-ชยันตี”

“ศรัทธา”...เป็นเรื่องสำคัญ เราทำงานที่ใดก็ตามแต่ เราต้องมีศรัทธา ศรัทธาคือความเชื่อ

เชื่อในอะไร...เชื่อในพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นบุคคลต้นแบบ พระองค์เป็นบุคคลต้นแบบให้เราปฏิบัติ หน้าที่การงานได้สมบูรณ์ทั้งทางโลก ทางธรรม เราเป็นชาวพุทธ เราต้องทำงานเพื่อที่จะได้ประกาศถึงความเป็นผู้มีศาสนา...พระองค์เกิดมาจากท้องแม่ พระองค์ตรัสว่า... “เราเป็นผู้เลิศที่สุด เราประเสริฐที่สุด เราเจริญที่สุด”

 ask1 ans1 ask1 ans1

พระเทพโพธิวิเทศ (วีรยุทฺโธ) ย้ำว่า คำว่า “เรา” พระองค์ตรัสแทนมนุษย์ทั้งหลายว่ามนุษย์นี่แหละเป็นผู้ประเสริฐที่สุด ชีวิตมนุษย์ที่มีคุณธรรมเต็ม...มีความศรัทธาต่อตัวเราเอง ทุกอย่างจะสำเร็จด้วยมือเรา

“ศรัทธา” จะทำทุกอย่างได้อย่างไม่มีเงื่อนไข “ศรัทธา” เป็นสิ่งที่จับต้องได้ พิสูจน์ได้.

ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.thairath.co.th/content/491229
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

fasai

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 540
  • ทางสายกลาง
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: สี่สังเวชนียสถาน สุวรรณภูมิพุทธชยันตี
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 07, 2015, 07:46:09 am »
0
 st11 st12
บันทึกการเข้า
ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นไปตามกรรม
ใครสร้างกรรมอย่างไร ก็รับผลกรรมอย่างนั้น