พิมพ์

[raponsan]

สมเด็จวัดปากน้ำมั่นใจ ศีล 5 ทำให้เกิดปรองดอง

ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช กำชับสำนักพุทธทำงานประสานสามัคคีกับคณะสงฆ์ ช่วยกันผลักดันศีล 5 สู่การปฏิบัติเพื่อสนองนโยบายรัฐบาล มั่นใจศีล 5 จะช่วยสร้างสังคมปรองดองสมานฉันท์

วันนี้(23 เม.ย.) ที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ นายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ได้นำคณะผู้บริหาร และผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด(พศจ.)ทั้ง 76 จังหวัด เข้าถวายสักการะและสรงน้ำสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์(ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เนื่องในประเพณีสงกรานต์ขึ้นปีใหม่ไทย โดยสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ กล่าวให้โอวาทว่า

คณะสงฆ์และรัฐบาล ต้องการสร้างความสุขแห่งประชาชน สันติสุขของประเทศชาติ รวมทั้งต้องการความปรองดอง สมานฉันท์ โดยคณะสงฆ์ได้ช่วยรัฐบาลในการสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ ด้วยการใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ก็คือ หลักของศีล 5 มาสู่การปฏิบัติของประชาชน ได้แก่ การไม่มุ่งร้ายผู้อื่น ไม่ทุจริตคดโกง ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่หลอกลวงกล่าวเท็จผู้อื่น และไม่เสพสิ่งเสพติด เชื่อว่า ศีล 5 จะเป็นเครื่องมือที่ทำให้เกิดความปรองดอง สมานฉันท์ขึ้นได้

 

สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ โครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 เป็นนโยบายของมหาเถรสมาคม(มส.) จึงเป็นหน้าที่โดยตรงของพศ.และพศจ.ทั่วประเทศ ที่จะต้องปฏิบัติและสนองงานคณะสงฆ์ ซึ่งต้องอาศัยกำลังของพศจ.จึงจะทำให้งานของคณะสงฆ์เดินหน้าไปได้ รวมทั้งหากติดปัญหาเรื่องใดให้ประสานมายังพศ.ส่วนกลาง เพื่อที่จะได้ร่วมกันแก้ไขปัญหา ที่สำคัญบุคลากรของพศ.ต้องรักงานที่ทำ หากไม่รักงานที่ทำทุกอย่างก็จะไม่ประสบความสำเร็จ ในขณะเดียวกัน พศจ.ต้องประสานงานกับเจ้าคณะจังหวัด ในขณะที่คณะสงฆ์ในพื้นที่ก็ต้องประสานกับพศจ.เพื่อให้งานคณะสงฆ์เกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

“การทำงานพระพุทธศาสนาหากเพียงแค่ทำไปวันๆ ไม่ได้รักงานที่ทำ งานก็จะไม่สำเร็จผล ซึ่งการที่จะทำให้งานออกมาได้ผลดี ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกัน ทั้งคณะสงฆ์และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งเปรียบเสมือนขาสองข้าง หากขาดข้างใดข้างหนึ่งไป การเดินไปข้างหน้าก็จะสะดุด ที่สำคัญควรลดการถือตัวถือตน ละทิฐิมานะ หากไม่เข้าใจกันเรื่องใด ก็ควรที่จะพูดคุยกัน มิฉะนั้นงานพระพุทธศาสนาก็จะไม่เดินหน้า จึงอยากฝากทั้งเจ้าคณะปกครอง คณะสงฆ์ และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติให้สามัคคีการทำงานร่วมกัน เพื่อให้งานพระพุทธศาสนาเดินหน้าไปได้และเกิดผลสู่การปฏิบัติต่อไป”ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช กล่าว

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.dailynews.co.th/education/316456