พิมพ์

[raponsan]

 

'นักบวชรุ่นจิ๋ว' กับบทเรียน เมตตาธรรม-ไตรสิกขา

น้ำตาแม่-พ่อทั้ง 16 ครอบครัว หลั่งขณะลูกชาย-หญิงล้างเท้าขอขมาลาออกบวชสามเณรและแม่ชีน้อย  บ้างโอบกอด หอมแก้มฟอดใหญ่ บ้างอุ้มลูกขึ้นนั่งตัก เป็นภาพสะท้อนความผูกพันของครอบครัวอีกมุมหนึ่งในความปลื้มปีติที่ได้ส่งลูกๆ เข้าสู่ก้าวแรกแห่งการปฏิบัติธรรม ที่เหนือกว่าฆราวาส           

ไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่เด็กๆ อายุระหว่าง 7-10 ปี จะต้องมานุ่งขาว นุ่งเหลือง ถือศีลเหมือนกับนักบวชที่เป็นผู้ใหญ่ แต่ทั้ง 16 คนก็ผ่านเข้ารอบโครงการสามเณร ปลูกปัญญาธรรม ปี 4 เข้ามาได้ โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนโดยกลุ่มบริษัททรู นักธรรมรุ่นจิ๋ว เรียนทั้งธรรมะและทักษะการใช้ชีวิต ณ ศูนย์วิปัสสนาสากล ไร่เชิญตะวัน จ.เชียงราย โดยจะใช้เวลาในการศึกษาวิชาความรู้ต่างๆ นานประมาณ 1 เดือน ภายใต้กฎเกณฑ์ของนักบวชตามหลักพระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง

 

“ผมมีแค่พ่อกับพี่มาให้ส่งออกบวช เพราะแม่ของผมไม่มา แต่ผมเข้าใจแม่ เพราะแม่เป็นมุสลิม แม่รู้ว่าผมเป็นพุทธเหมือนพ่อ แม่ไม่ได้ว่าอะไรแต่แค่เขามาร่วมไม่ได้ แต่ผมจะบวชแล้วนั่งสมาธิอธิษฐานให้พ่อกับแม่แข็งแรง เพราะพระอาจารย์บอกว่า พ่อกับแม่เป็นเทวดาในบ้านของเราที่เราต้องเคารพ” ชิตะ หรือ ด.ช.ณพัศ อุนะรัตน์  แสดงทัศนะก่อนเข้าสู่ช่วงพิธีกรรมขอขมา ในวัยเพียง 8 ปี เท่านั้น

ชิตะ ค่อยๆ คลานเข่าเข้าหาพ่อ ล้างเท้าและกอดพ่อแน่น แต่ไม่ยอมนั่งตัก ด้วยเหตุผลส่วนตัวที่ว่า ต่อจากนี้ ชิตะ จะเป็นสามเณรน้อยที่ต้องไม่มีใครอุ้มหรือกอดแล้ว ฝ่าย กฤษชัช อุนะรัตน์ พ่อ ระบุว่า ชิตะเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงและมีความเป็นผู้ใหญ่ในตัว โตมากับโรงเรียนประจำในกรุงเทพมหานคร มีพี่สาวที่อายุห่างกันพอสมควร แม้ไม่ค่อยได้มีเวลาด้วยกันแต่ ชิตะ ปรับตัวเข้ากับสังคมอื่นได้ง่าย ยามว่าง ชิตะ เล่นเกม เรียนดนตรี และกีฬาเป็นปกติอยู่แล้ว  เพียงแค่ไม่เคยบวชระยะยาวเท่านั้น 1 เดือนครั้งนี้จึงเป็นครั้งที่นานที่สุด และจะมาเยี่ยมลูกทุกสัปดาห์ตามเงื่อนไขของโครงการ

 

“เหตุผลที่ตัดสินใจชวนลูกเข้าร่วมกิจกรรมนี้เพราะเห็นว่า เขามีโอกาสใกล้ชิดพระชั้นผู้ใหญ่ พระนักคิดที่มีชื่อเสียงและมีแนวคิดที่เป็นเอกลักษณ์ อย่างในโครงการที่พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ระบุไว้ คือ “เรียน เล่น เป็น เปลี่ยน" เป็นแนวคิดที่ช่วยคนรุ่นใหม่ได้เยอะ ยิ่งมาเห็นลูกมีความสุขกับการทำกิจกรรมด้วยแล้ว ผมก็สุขใจด้วย  ยอมรับครับว่าวันนี้ดีใจที่ลูกมีความสุขกับทุกอย่างที่ทำ แค่เขาไม่กดดันในทุกอย่างผมก็โอเคแล้ว เมื่อตอนล้างเท้า เขาขอผมอย่างหนึ่งบอกว่า เขาบวชให้แล้ว ขอให้ผมเลิกบุหรี่ เพราะไม่ดีต่อสุขภาพ ผมคิดว่าน่าจะทำให้ลูกได้นะ ข้อนี้ เพราะเขาเป็นสามเณรแล้ว เขาเป็นคนที่ถือศีลมากกว่าเรา” กฤษชัช อธิบายความรู้สึก

ในปีนี้กลุ่มทรูได้กำหนดแนวคิดเพิ่มเติมจากโครงการเดิมที่จัดบวชเฉพาะเด็กชาย มาเพิ่มเป็นเด็กหญิง เพื่อสร้างความเท่าเทียมในโอกาสการเรียนรู้ โดย ศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานบริษัททรูฯ กล่าวว่า โครงการในปีนี้เป็นการคัดเลือกเด็กจากทั่วประเทศให้เหลือ 16 คนจาก 2,700 คน และเปิดรับเด็กหญิงเข้ามาเป็นปีแรก เน้นที่การฝึกหลักสูตรธรรมะ ในแนวคิด เมตตาธรรม และไตรสิกขา (ศีล สมาธิ ปัญญา) เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในมหามงคลสมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 88 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2558 โดยหวังว่าเด็กๆ จะเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่สามารถเรียนธรรมะได้ตั้งแต่วัยเยาว์

 

เอม หรือ ด.ญ.เอมมีรี่ กฤษมณี อายุ 9 ขวบ หนึ่งในเด็กหญิงที่ร่วมบวชแม่ชีน้อย เล่าถึงความประทับใจในการบวชครั้งนี้ว่า อยากจะรู้ว่าชีวิตการบวชเป็นอย่างไร เพราะมีพี่ชายเคยบวชมาแล้ว และดีใจที่มีเพื่อนๆ เป็นผู้หญิงหลายคนเข้ามาเป็นแม่ชีน้อยร่วมด้วย

“น้องเขาไม่เคยห่างอกแม่ แต่ก่อนเข้าร่วมโครงการเขาบอกเราว่า เขาอยากเป็นแม่ชี และอยากใช้ชีวิตในวัดเหมือนพี่ชาย ทำยังไงก็ได้ให้เขาได้อยู่วัด วันแรกๆ เราใจหายนะกับความกังวลที่ต้องปล่อยเขาอยู่วัด แต่เรามองว่าเป็นความต้องการของเขา และเป็นเรื่องที่ดี เราต้องให้การสนับสนุนลูก” พิมพ์นิภา คำมีศิลป์ แม่ของแม่ชีน้อยเอม เพิ่มเติมเจตนารมณ์ของลูกสาว

 

หลังสิ้นพิธีขอขมาบุพการี เด็กๆ ออกไปสู่ช่วงเวลาการปลงผม โดยมีแม่กับพ่อถือใบบัวรองรับผมอยู่ข้างๆ กระทั่งกระบวนการเสร็จสิ้นเด็กกลายเป็นผู้ถือศีลอย่างสมบูรณ์ บรรดาผู้ปกครองและแขกที่ร่วมงานก้มกราบด้วยความศรัทธา นับเป็นก้าวเล็กๆ ของเยาวชนไทยที่ได้เข้าสู่ร่มพระธรรมของพุทธศาสนา ที่น่ายินดี

ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20150501/205580.html