ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อำนาจจิตรักษาโรค ของหลวงพ่อทองใส วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม นครราชสีมา  (อ่าน 5628 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29288
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

อำนาจจิตรักษาโรค ของ หลวงพ่อพระราชวิมลญาณ(หลวงพ่อทองใส) วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม
ประสบการณ์ของคุณ โจ นนทนาท ซึ่งเป็นลูกศิษย์ต่างประเทศ

ขออนุญาตเล่าเรื่องมหัศจรรย์ที่พลังสมาธิของหลวงพ่อทองใส ได้ช่วยเหลือศิษย์คนนี้ เมื่อสองปีที่แล้วข้าพเจ้าได้รับความช่วยเหลือจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อทองใสด้วยพลังสมาธิรักษาอาการโรคภูมิแพ้ที่เป็นโรคประจำตัว มีคืนหนึ่งข้าพเจ้ามีอาการของโรคAttacked แบบทนไม่ไหวแล้ว อาการหนักมากๆ ก็เข้าสมาธิวิปัสสนาระยะสั้นนึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทันที นึกถึงแบบหาที่พึ่งไม่ได้แล้ว ได้แต่รำพันในจิตว่า

    "ถ้าลูกจะตายเพราะโรคนี้ก็ขอให้อย่าทรมานอย่างนี้เลย สภาพร่างกายทนไม่ไหวแล้ว ไปหาหมอฝรั่ง ก็รักษาไม่หายขาด เพราะเป็นโรคของฤดูใบไม้ผลิที่ต้องเจอทุกปี แต่ปีนี้ทรมานเหลือเกิน ไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลย หมอก็จัดยาให้ตามโรคที่เป็น ก็แค่บรรเทาเท่านั้น ถ้าสภาพภายในร่างกายอ่อนแอ ก็จะส่งผลมายังร่างกายภายนอกดั่งที่เห็นนี้ เหนื่อยเหลือเกิน ไม่มีใครช่วยลูกได้ ถ้าจะตายก็ขอให้ตายเดี๋ยวนี้"

แล้วข้าพเจ้าก็ระลึกถึงบุญต่างๆ จิตระลึกถึงครูบาอาจารย์ต่างๆที่ในอดีตอยู่เมืองไทยได้ร่วมบุญกุศลกับวัดต่างๆและนึกถึงบุญปัจจุบันที่ด้ร่วมทำในวัดเทพพิทักษณ์ปุณณารามแห่งนี้ ระลึกถึงหลวงพ่อขาวทันที แต่ในจิตขณะนั้นข้าพเจ้าไม่ได้ระลึกถึงหลวงพ่อทองใสเลย เพราะทราบว่าหลวงพ่อยุ่งกับงานที่รับผิดชอบทุกด้านในวัด เป็นงานหนักมากๆ แล้วข้าพเจ้าก็ทำจิตสงบ คือทำจิตเตรียมตัวตายอย่างไรก็อย่างนั้น เพราะโรคกำเริบหนักมากๆ คือนอนไม่ได้แล้วนั่นเอง ต้องนั่งหลับและหายใจรวยริน คิดในเวลานั้นว่า ถ้าไปหาหมอ หมอก็ทำอย่างเดิม แค่บรรเทา แล้วก็จะมีอาการอย่างนี้อีก


     ask1 ans1 ask1 ans1

    ขณะที่จิตอยู่ในระยะที่นิ่งสงบจริงๆ จู่ๆก็ได้ยินเสียงแบบมีเมตตาจากหลวงพ่อทองใส พูดว่า
    "โยม......ถ้าอยากหายจากโรคที่กำลังเป็นอยู่นี้ ให้กำหนดจิตและภาวนาติดตามลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอว่า นิพ-พานไปเรื่อยๆ เดี๋ยวอาการจะหายไปเอง"

ข้าพเจ้าก็รีบทำตามเสียงของหลวงพ่อทองใสทันที สักพักหนึ่งอาการคัดจมูกก็ค่อยๆลดลง อาการคัดที่หน้าอก ก็ค่อยๆลดลง จมูกว่างทันทีหายใจสะดวกมากๆ อาการครั่นเนื้อครั่นตัวในขณะนั้นก็ค่อยจางลง จนกระทั่งหายใจได้เป็นปกติ ซึ่งไม่เคยเป็นมาก่อนตั้งแต่ร่างกายได้รับโรคภูมิแพ้เข้าไปอยู่อาศัยด้วย (แถมอยู่ถาวรอีกต่างหาก เชิญก็ไม่ออก)

แล้วคืนนั้นเป็นคืนแรกที่ข้าพเจ้าได้ล้มลงนอนอย่างสบาย โรคก็ค่อยๆจางไป แต่ยังไม่หาย จะเป็นอีกถ้าฤดูใบไม่ผลิมาปีหน้า ทีนี้ข้าพเจ้ารุ้แล้วว่าควรทำอย่างไร กับการรักษาภายในก่อน พลังสมาธิจากพระอริยสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจะถึงลูกศิษย์ทุกๆคนไม่ว่าจะอยู่แห่งหนใดในโลกนี้


     st12 st12 st12 st12

     ดั่งเหตุการณ์ชีวิตของข้าพเจ้าได้เล่าสู่กันฟังอย่างนี้ ข้าพเจ้ารู้สึกปลื้มประทับใจในตัวหลวงพ่อทองใสเป็นอย่างยิ่ง เพราะหลวงพ่อส่งพลังจิตไปให้ลูกศิษย์ทุกๆคนในโลกนี้ ก็แล้วแต่ว่า เรานั้นสามารถรับพลังจากหลวงพ่อได้แค่ไหน อยู่ที่การฝึกจิต พระคุณเจ้าไม่เคยทอดทิ้งลูกศิษย์

     ศิษย์ขอกราบแทบเท้าผ่านเว็ปนี้ถึงหลวงพ่อทองใสด้วยที่ได้มีเมตตาช่วยชีวิตของลูก
     นมัสการข้ามแดนมาด้วยความเคารพอย่างสูง



หมายเหตุ : หลวงพ่อพระราชวิมลญาณ(หลวงพ่อทองใส) ปัจจุปันได้มรณภาพแล้ว ท่านเป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และเป็นเจ้าคณะอำเภอปากช่อง ฝ่ายธรรมยุต

โพสต์โดย : คุณ Severus
ที่มา : http://www.romphosai.com/forums/index.php?topic=11075.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 16, 2015, 09:21:50 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29288
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
หลวงพ่อทองใส (ภาพจากเฟซบุ้ควัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม-วัดพระขาว)

การรู้วาระจิต ของหลวงพ่อพระราชวิมลญาณ(หลวงพ่อทองใส) วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม
ประสบการณ์ของลูกศิษย์คนหนึ่งที่ได้ประสพกับวาระจิตของหลวงพ่อ

เธอเล่าว่า เคยคิดถึงเรื่องวันวิสาขบูชาในห้องพักอยู่คนเดียวว่า "เบื่อวันศาสนาที่มีงานสังสรรค์ต่างๆ เบื่อเสียงดังของเพลงต่างๆ งานรื่นเริงต่างๆ เบื่อจังเลย อยู่บนกุฎิปฏิบัติธรรมอ่านธรรมะดีกว่า" เธอว่า แค่คิดเท่านั้นเอง หลวงพ่อก็ประกาศไมค์ออกว่า
    "วัดนี้ไม่มีการจัดงานรื่นเริงอะไร ผิดหลักพุทธศาสนา ตามหลักพุทธศาสนาวัดไม่สมควรจัดงานรื่นเริงใดๆทั้งสิ้น วัดนี้ไม่มี"

    เธอเล่าให้พวกเราฟังว่า "ฉันนี่สะดุ้งโหยงอยู่ในกุฎิ"
    แต่ก็ไม่วายที่จะทดสอบอีกนะ ทีแรกคิดว่า คิดไปเองช่วงที่บวชชีพราหมณ์นั้น ก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปเรื่อยๆ ก็คิดเหมือนกันว่า "เป็นหลวงพ่อไม่ดีเนอะ งานหนักมากๆ"

    จู่ๆเธอก็ได้ยินเสียงหลวงพ่อประกาศออกไมค์ว่า
    "ใครว่าเป็นเจ้าอาวาสแล้วสบายล่ะ ต้องรับภาระหนักทุกอย่าง"
    เธอหัวเราะก้ากคนเดียวในกุฎิที่พัก คิดอะไรหลวงพ่อรู้หมด แล้วเธอก็แนะนำพวกเราให้ทดสอบดูเอาเอง ถ้ามีโอกาสมาวัดเทพพิทักษณ์ร่วมสร้างบุญบารมีกับหลวงพ่อทองใส ไม่เชื่อก็ลองดู แล้วอีกสิ่งหนึ่งสุดท้ายที่เธอต้องยอมสยมบารมีของหลวงพ่อเป็นเอกฉันท์ สิงห์ได้สยบเสือราบคาบ......


 :25: :25: :25: :25:

ในครั้งสุดท้ายที่เธอยอมสยบบารมีของหลวงพ่อ เพราะตัวเธอเองนั้นเป็นคนดื้อรั้นมากๆ ไม่ค่อยยอมใคร แล้วเธอฝึกพลังจิตมาตั้งแต่เล็กแล้ว มีคนสอนเธอก็เลยทำให้เธอเป็นง่าย พอได้ไปเจอพระอริสงฆ์ที่พลังจิตเหนือกว่าเธอมากนัก

เธอเล่าว่า มีเย็นวันหนึ่งทำวัตรเย็นตามปกติ สวดมนต์อะไรเสร็จแล้ว แผ่เมตตาเสร็จแล้ว ก็มีการนั่งสมาธิวิปัสสนา เหมือนกับว่าเป็นการชำระจิตใจให้ใสสะอาดบริสุทธิ์ แล้วคนส่วนมากที่ไม่รู้จุดประสงค์ในการนั่งสมาธิช่วงหลังๆนี้ ก่อนที่จะสิ้นสุดทำวัตรเช้าเย็นน่ะ เธอบอกว่า ได้เห็นญาติโยมที่ร่วมทำวัตรเช้าเย็นช่วงที่เธอถือศีลบวชชีพราหมณ์นั้น พวกเขานั่งกันเป็นชั่วโมงๆ แต่เธอทำไม่ได้ เธอก็เลยคุยทางจิตกับหลวงพ่อว่า


    "หลวงพ่อเจ้าขา โยมน่ะนั่งเป็นชั่วโมงๆอย่างหลวงพ่อและพระหรือแม่ชีหรือญาติโยมที่เห็นนี้ไม่ได้เลย โยมชินกับการสอนที่ว่า ให้นั่งเท่าที่พลังบุญในเวลานั้นของตัวเองนั่งได้ บางคนนั่งนานแต่ไม่เป็นผลอะไร สำหรับตัวโยมเองนั้น ขอนั่งทำแค่จิตสงบนิ่งดิ่งลึกเท่านั้น ไม่ขอนั่งเป็นชั่วโมงๆนะเจ้าคะ เพราะจิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนนั่งระยะสั้นแต่ผลที่ได้รับมหาศาล โยมมีบุญในการนั่งแค่นี้เอง"

     st12 st12 st12 st12

    เธอบอกว่า พอนั่งเสร็จแล้วก็เกิดอาการเหน็บชา ก็ไปเดินจงกลม แล้วก็ไปนั่งข้างนอกรับลม มองไปยังหลวงพ่อขาว แล้วก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
    เธอบอกว่าไม่ได้ใส่ใจว่าหลวงพ่อพูดอะไร

    หลังจากนั้นเพราะเธออยู่ข้างนอกห้อง กำลังชมบรรยากาศรอบๆวัด และเธอชอบมองหลวงพ่อขาวแสงไฟที่ปะทะหลวงพ่อขาวในเวลากลางคืนช่างงามจริงๆ ตามที่เธอบอกให้พวกเราฟัง แล้วจู่ๆแม่ชีท่านหนึ่งก็บอกเธอว่า   
    "เมื่อกี้หลวงพ่อพูดว่า ไม่จำเป็นต้องนั่งนานเป็นชั่วโมงๆก็ได้ แล้วแต่กำลังบุญที่เรามีในเวลานี้ว่าจะนั่งได้นานเท่าใด"

    พอเธอได้ยินเช่นนั้นเกิดอาการขนลุกซู่ทั้งตัวเลยโดยเฉพาะที่ผม แล้วเธอก็คิดอยู่คนเดียวว่า
    "ก็เพิ่งจะคุยกับหลวงพ่อทางจิตนี่เอง"
    เธอบอกว่า คิดอยู่ในใจว่า ยอมแพ้หลวงพ่อแล้ว



หมายเหตุ : หลวงพ่อพระราชวิมลญาณ(หลวงพ่อทองใส) ปัจจุปันได้มรณภาพแล้ว ท่านเป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และเป็นเจ้าคณะอำเภอปากช่อง ฝ่ายธรรมยุต

โพสต์โดย : คุณ Severus
ที่มา : http://www.romphosai.com/forums/index.php?topic=11075.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 16, 2015, 09:21:25 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29288
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

หลวงพ่อทองใส (ภาพจากเฟซบุ้ควัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม-วัดพระขาว)

ศีล 227 ไม่ยอมขาด แม้ตาย
โดย คุณอดีตพระนักข่าว ได้กรุณาเล่าปฏิปทาหลวงพ่อทองใส ซึ่งน่าฟังมาก มีบทความดังต่อไปนึ้

ผมได้มีโอกาสไปบวชที่วัดนี้ได้มีโอกาสเข้าไปอุปัถฐากหลวงพ่อทองใสด้วยการนวดให้ท่านอยู่หลายครั้ง ท่านเป็นพระที่ผมเคารพเลื่อมใสมากรูปตลอดเวลาที่ได้อยู่ในวัดหลวงพ่อก็ทำงานตลอดแม้สุขภาพจะไม่ค่อยแข็งแรงตามภาวะสังขารก็ตามแต่ท่านไม่ย่อท้อต่อการทำงานหนักและไม่ลืมปฎิบัติวิปัสสนาด้วย

อย่างที่กล่าวตอนแรกผมมีโอกาสไปนวดขาให้ท่านตอนกลางคืนหลายครั้งกับพระที่บวชไล่เรี่ยกันอีกรูปนึงไม่ว่าจะดึกแค่ไหนเวลาที่เข้าไปหาท่านจะเห็นท่านอ่านหนังสือธรรมมะของพระอาจารย์ต่างๆรวมไปถึงการนั่งสมาธิไปด้วย แต่ที่รู้แน่นอนคือกำลังสมาธิของท่านสูงมากๆคือคนที่เคยนวดเท้าหลายๆคนจคงจะรู้ว่า เวลาที่เส้นตึงแล้วโดนกดจะเจ็บมากแต่ตลอดเวลาที่กดนวดให้ท่านนั้น ท่านก็นั่งสมาธิกำหนดจิตตลอดเหมือนกับว่า ไม่รู้สึกอะไรเลย บางคนก็คิดว่าท่านหลับแต่จิงๆแล้วไม่ว่าใครทำอะไรท่านก็รู้


 :25: :25: :25: :25:

มีวันนึงหลังจากนวดท่านเสร็จก็ได้มีโอกาสถามท่านว่า ท่านอาพาธอย่างนี้มานานรึยัง ท่านก็เล่าให้ฟังค่อนข้างยาวถึงเรื่องราวในอดีตแต่ผมประทับใจอยู่คำนึง
     ท่านบอกว่าไปหาหมอหมอให้ท่านฉันยาหลังอาหารตอนเย็น
     ท่านบอกว่า ตอนเย็นหลังเพลท่านฉันไม่ได้ หมอก็บอกว่า ต้องฉันได้เพราะท่านอาพาธอยู่
     ท่านก็บอกว่า ตามพระวินัยถ้าฉันได้คือ ถ้าไม่ฉันวันนี้พรุ่งนี้จะมรณะ หมอก็ยังบอกให้ท่านต้องเชื่อหมอสิ
     ท่านก็ไม่ได้พูดอะไร พอรับยามาออกมานอกโรงพยาบาล ท่านก็ทิ้งยาห่อนั้น
     ท่านบอกว่า "ถึงจะต้องตายก็ยอมดีกว่า ทำให้ศีลขาดทั้งที่รู้ตัว"
     ท่านบอกว่า "ถ้าจะให้เชื่อ ท่านขอเชื่อพระธรรมที่พระพุทธเจ้าท่านเทศนาสอนดีกว่า"

    คืนนั้นท่านก็ทนกับความทรมานของโรคที่รุมกันเข้ามา
    ท่านบอกว่า ตอนนั้นคิดว่าจะตายก็ช่างมันขอรักษาศีลให้ครบแล้วท่านก็นั่งภาวนากัมฐาน
    ท่านบอกว่า พอตัดสินใจเด็ดขาด ท่านก็ฝืนสังขารนั่งสมาธิ
    ท่านบอกว่า พอนั่งได้สักพักอาการก็หายไปเหมือนไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ท่านบอกมันก็ผ่านมานานหลายปีพอมาตอนนี้สังขารมันก็เริ่มเสื่อมเป็นของธรรมดา พอท่านพูดจบผมก็ลาท่านกลับไปจำวัด แต่เรื่องราวที่ท่านพูดถึงเหมือนท่านได้เทศน์ให้ฟังก็ทำให้ผมประทับใจไม่เคยลืม



หมายเหตุ : หลวงพ่อพระราชวิมลญาณ(หลวงพ่อทองใส) ปัจจุปันได้มรณภาพแล้ว ท่านเป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และเป็นเจ้าคณะอำเภอปากช่อง ฝ่ายธรรมยุต

โพสต์โดย : คุณ Severus
ที่มา : http://www.romphosai.com/forums/index.php?topic=11075.0
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ