พิมพ์

[raponsan]

แนะพระธรรมทูต "ยึดแนวพระเจ้าตาก ทุบหม้อข้าวตีเมือง" ร่วมสร้างสันติภาพโลก

สำราญ สมพงษ์ รายงาน

จบอีก 1 รุ่นแล้วโครงการอบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศเป็นรุ่นที่ 21 ประจำปี 2558 เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพิธีมอบวุฒิบัตรและปิดโครงการเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.2558ที่ผ่านมา  โดยสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช มีบัญชาให้พระพรหมบัณฑิต กรรมการมหาเถรสมาคม อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรราชวิทยาลัย (มจร)  เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน ที่ มจร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา  จำนวน 98 รูป

ภายใต้การดำเนินการของวิทยาลัยพระธรรมทูต มจร ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงบประมาณ  สำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มูลนิธพรรัตนสุวรรณ และองค์กรร่วมมือตลอดจนการบริจาคทั่วไป

 

พระพรหมบัณฑิต กล่าวให้โอวาทว่า ตามที่พระธรรรมทูตได้รับมอบวุฒิบัตรครั้งนี้และปฏิญญาณตนถือว่าเป็นพระธรรมทูตอย่างสมบูรณ์ พร้อมที่จะออกไปปฏิบัติศาสนกิจเพื่อประโยชน์ แก่บุคคลอื่น แม้ว่าจะเหนื่อยแล้วก็เหนื่อยหายแต่ความดียังมีอยู่ เท่ากับว่าเป็นประโยชน์ที่ยั่งยืนทั้งผู้จัดและผู้เข้ารับการอบรม เพราะจะได้นำความรู้นำไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาโดยไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อยตามที่ได้ปฏิญาณตนและอธิฏฐานจิตไว้  นับเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นพระธรรมทูตอย่างเต็มภาคภูมิ เป็นการทำอย่างทุ่มเทไม่ยอมแพ้อุปสรรคใดๆ เพื่อให้ถึงฝั่งฝัน

"เท่ากับเป็นการยึดแนวคิดของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่ทรงใช้วิธี "ทุบหม้อข้าวตีเมือง"  เพราะพระธรรมทูตที่ออกไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศนั้นเท่ากับเป็นการไปมือเปล่าแต่ได้ผลดียิ่งให้เหมือนกับรุ่นที่ผ่านมาที่สร้างประโยชน์อย่างมหาศาลทั้งศาสนิกและศาสนสถาน  เหมือนกับเราได้ดวงตาเห็นธรรมแล้วออกไปเผยแผ่ให้บุคคอื่นมีดวงตาเห็นธรรมด้วย" พระ พรหมบัณฑิต กล่าวและว่า

สำรับแนวทางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศยุคปัจจุบันนั้น 
   1. ต้องรู้จักใช้สื่อเข้ามาช่วยทุกรูปแบบ ควรแปลคำสอนให้เป็นภาษาของประเทศนั้นๆ อย่างน้อยได้ปีละ 1  เล่มก็ยิ่งดีจะให้ลูกศิษย์ช่วยแปลให้ก็ได้
   2.ต้องรู้จักนำความรู้เกี่ยวกับหลักวิปัสสนากัมมัฏฐาน พุทธจิต พุทธปรัชญา และจิตบำบัดเชิงพุทธ มอบให้แก่ประชาชนในประเทศนั้นๆ โดยไม่จำเป็นจะต้องมุ่งให้เขาเปลี่ยนศาสนาแต่มุ่งให้เขามีความรู้ในพระพุทธศาสนาเป็นสำคัญ เพราะเมื่อเขามีความรู้แล้วก็จะเปลี่ยนมานับถือพระพุทธศาสนาเอง และ
   3.มุ่งอนุเคราะห์ต่อชาวโลก ทั้งนี้พระธรรมทูตควรมีส่วนร่วมแก้ปัญหาความขัดแย้งสร้างสันติภาพโลก แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมประชาธิปไตย  เพราะพระพุทธศาสนาไม่ควรปลีกออกจากปัญหาของโลก พร้อมกับมุ่งพัฒนาในระดับหมู่บ้านตามความสามารถของแต่ละรูป อย่างเช่นการจัดงานวันวิสาขบูชาโลกที่ผ่านมาก็มีเป้าหมายร่วมกับต่างศาสนาต่างๆสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นกับชาวโลกให้ได้

 

พระโสภณวชิราภรณ์ รองอธิการบดี มจร ฝ่ายกิจกการต่างประเทศ และรักษาการผู้อำนวยการวิทยาลัยพระธรมทูต และประธานคณะกรรมการดำเนินการ ในนามคณะกรรมการโครงการ อบรมพระธรรทูตสายต่างประเทศรุ่นที่ 21 ประจำปี 2558 เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  กล่าวว่า  มจร ร่วมกับสำนักงานกำกับดูแลพระธรรรทูตไปต่างประเทศ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา พระธรรมทูตไทยสายอินเดีย-เนปาล กรรมการศาสนา และองค์กรพระธรราทูตไทยในต่างประเทศได้ดำเนินการจัดโครงการอบรมพระธรรรทูตสายต่างประเทศขึ้นในปี 2538 เป็นต้นมา โดยการรับการมอบหมายกำกับดูแลและให้แนวทางปฏิบัติจากสมเด็จพระพุฒาจารย์(เกี่ยว อุปเสฯมหาเถร) และผู้เกี่ยวข้องโดยลำดับ สำเร็จไปแล้ว 20 รุ่น มีผู้ผ่านการอบรมจำนวน 1,548 รูป และได้ออกไปปฏิบัติหน้าที่เป็นธรรมทูตสายต่างประเทศอยู่ทั่วโลก 

และในปี 2558 นี้ได้ดำเนินการโครงการอบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศประจำปีขึ้นอีกเป็นรุ่นที่ 21 กำหนดอบรมระหว่างวันที่ 1 มี.ค.- 3 มิ.ย. พ.ศ.2558 โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้  1.เพื่อเฉลิมพระเกียรติในโอกาส 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 2.เพื่อผลิตพระธรรมทูตที่มีความรู้มีความสามารถด้านพระพุทธศาสนาและด้านวิปัสสนากัมมัฏฐาน  ให้มีจริยาวัตรงดงาม มีปฏิปทาน่าเคารพเลื่อมใส มีความพร้อมและมั่นใจในการเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจในต่างประเทศ 3.เพื่อสนองงานการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศของมหาเถรสมาคม

 

การจัดอบรมครั้งนี้มหาวิทยาลัยได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินการ มีผู้สัครเข้ารับการอบรมจำนวน 139 รูป ผ่านการสอบคัดเลือก 102 รูป โดยการอบรมตลอดหลักสูตรเป็นการบูรณาการระหว่างภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ผ่านกระบวนการกิจกรรมเป็นระยะเวลา 93 วัน แบ่งเป็น 2 ภาค นับได้ 5 กิจกรรมคือ
   1. ภาควิชาการ 1 กิจกรรมเป็นกิจกรรมการบรรยาย อภิปราย ชักถาม  การมอบหมายงานให้ศึกษาค้นคว้า การฝึกปฏิบัติ และประเมินผลตามสภาพจริง โดยจัดอบรม ที่ มจร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
   2.ภาคปฏิบัติ 4 กิจกรรมคือ
    1) กิจกรรมสาธารณูปการ ฝึกปฏิบึติงาน ช่วยเหลือการก่อสร้าง และงานอาสาสาธรณูปการ เพื่อฝึกการทำงานเป็นทีม การวางแผน การตัดสินใจ และจิตอาสา ปฏิบัติที่วัดไทยพุทธคยาและวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ประเทศอินเดีย และวัดไทยลุมพินี ประเทศเนปาล
    2)กิจกรรมวิปัสสนากัมมัฏฐาน ฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐานตามหลักสติปัฏฐาน 4  ที่ฝ่ายพัฒนาศาสนา(แคมป์สน) จ.เพชรบูรณ์
    3)กิจกรรมฝึกทักษาและประสบการณ์พิเศษ เพื่อการทำงานเป็นทีม การบริหารปฏิบัติงานปฏิคม งานปฏิคมต่างประเทศในพิธีประสาทปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัย และงานวิสาขบูชาโลกประจำปีพ.ศ.2558
    4)กิจกรรมฝึกปฏิบัติและศึกษาดูงาน การปฏิบัติศาสนกิจของพระธรรมทูตสายต่างประเทศ ณ แดนพุทธภูมิ และนมัสการสังเวชนียสถาน ณ ประเทศอินเดีย-เนปาล

ผลของการอบรมคือ จากผู้ผ่านการคัดเลือกเข้ารับการอบรมจำนวน 102 รูป มารายงานตัวและเข้ารับการอบรมจำนวน 100 รูป คณะกรรมการดำเนินการฯมีมติให้ไม่ผ่านการอบรม  2 รูป และให้ผ่านการอบรมตามหลักสูตรจำนวน 98 รูป  สำหรับพระธรรมทูตที่ผ่านการอบรมครั้งนี้มีผู้ที่มีความรู้ระดับปริญญาโทมากถึง 48 รูป ปริญญาเอก 3 รูป ป.ธ.9 จำนวน 5 รูป โดยหัวหน้าพระ ธรรมทูตสายต่างๆ ส่งเข้ารับการอบรมอย่างเช่นสายประเทศอินเดีย-เนปาล 13 รูป  ประเทศอาร์เจนติน่า 5 รูป

ทั้งนี้พระเทพโพธิวิเทศ  เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา หัวพระธรรมทูตไทยสายประเทศอินเดีย-เนปาล  กล่าวว่า สาเหตุส่งพระธรรมทูตเข้ารับการอบรมที่ มจร แห่งนี้ เพราะเห็นว่าเป็นสถานการศึกษาของคณะสงฆ์ที่มีมาตรฐาน อีกทั้งเป็นการสร้างเครือข่ายเป็นการได้พวกมาร่วมกันทำงาน ทั้งนี้สิ่งของที่นำออกขายนั้นหากแบรนด์ไม่ดังการบรรจุหีบห่อไม่ดีก็ยากที่จะขายได้

 

อย่างไรก็ตามอาจจะมีคำถามว่า พระธรรมทูตไทยที่เดินทางไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศนั้นมุ่งที่จะรักษาฐานหรือศรัทธาได้เฉพาะคนไทยที่อยู่ในต่างประเทศและมุ่งที่จะสร้าง ศาสนาวัตถุมากเกินไปหรือไม่ หรือสามารถสร้างความรู้ให้กับชาวโลกได้มากน้อยเพียงใด

แต่จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาลทำให้ภาพของการทำงานของพระธรรมทูตไทยในต่างประเทศมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายประเทศอินเดีย-เนปาลภายใต้ การนำของพระเทพโพธิวิเทศ จะเห็นได้ว่านั้นจะเดินทางไปกลับประเทศไทยและเนปาลบ่อยครั้ง ทั้งนี้เพื่อให้ชาวเนปาลได้รับการช่วยเหลืออย่างทั่วถึงทุกพื้นที่แม้ถิ่นทุรกันดารเดินทางลำบากก็ต้องไป

อย่างเช่นล่าสุดพระเทพโพธิวิเทศได้เดินทางมาร่วมงานวันวิสาขบูชาโลกที่จัดเฉลิมฉลองที่ศูนย์ประชุมสหประชาชาติเมื่อวันที่ 30 พ.ค. วันที่ 31 พ.ค.ปฏิบัติศาสนกิจที่ประเทศไทย วันที่ 1 มิ.ย.เป็นประธานนำคณะพระสงฆ์นานาชาติเดินเวียนเทียนวันวิสาขบูชาโลก รอบมหาเจดีย์โพธินาถ มหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเนปาล วันที่ 2 มิ.ย.ให้การตอนรับสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์พร้อมคณะที่เดินทางไปให้กำลังใจชาวเนปาล วันที่ 3 มิ.ย.เดินทางมาร่วมพิธีปิดโครงการอบรมพระธรรมทูตและรับพระธรรมทูตเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจที่ประเทศอินเดียต่อ จะเห็นได้ว่าการปฏิบัติหน้าที่ของพระเทพโพธิวิเทศแถบไม่ได้หยุดพักและเหมือนกับจะเหาะได้ไปปรากฏในสถานที่ต่างเพราะความสะดวกในการเดินทาง

 

ขณะเดียวกันในพื้นที่ห่างไกลอย่างเช่นที่ประเทศอาเจนติน่าพระธรรมทูตไทยก็สามารถลงหลักปักฐานที่มั่นเป็นที่เรียบร้อยแล้วมาหลายปีแล้วภายใต้การนำของพระกิตติโสภณวิเทศ  (หลวงพ่อเศรษฐี) หัวหน้าคณะพระธรรมทูตไทยในทวีปออสเตรเลีย-โอเชียเนีย เจ้าอาวาสวัดนาคปรก ที่ส่งพระมหาชัยพิชิต ฐานุตฺตโร พระธรรมทูตสายต่างประเทศ รุ่นที่ 9   ไปประกาศพระพุทธ ศาสนาได้ผลจนสามารถสร้างวัดชื่อวัดหลวงอาร์เจนติน่า ขณะนี้กำลังก่อสร้างศาสนสถานให้สมบูรณ์แบบอยู่ จนสามารถได้รับรางวัลผู้นำพุทธโลกจากองค์การยุวพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก และ ครั้งนี้ก็ได้พระธรรมทูตไปช่วยงานอีก 5 รูปแม้ว่าหนทางจะแสนไกลค่าเครื่องบินเป็นแสนบาทก็ตาม อีกทั้งยังประสบปัญหาโจรชุมยิ่งกว่ายุงเสียอีก เสี่ยงต่อภัยในชีวิตและทรัพย์สินแต่ก็ไม่ย้อท้อเพราะถือว่าได้ถวายอกให้กับพระพุทธเจ้าแล้ว

 

ผลงานของพระธรรมทูตไทยในต่างประเทศดังกล่าวนับได้ว่าเป็นพระดี ตามที่"น้องแป้ง"เปรม บุญพัตร์ ผู้ชนะเลิศการแหล่ช่วง "ดันดารา" ทางรายการตีสิบที่บอกว่า "พระดีนั้นอยู่มากดังนั้นจึงไม่สนใจพระที่ประพฤติไม่ดี"  ในโอกาสที่ได้เดินทางไปร่วมร้องเพลงประกอบธรรมะที่วัดนายโรง กทม.ที่มีพระครูรัตนโสภณเป็นเจ้าอาวาสและผู้อำนวยการสถานีวิทยุเพื่อพระพุทธศาสนาคลื่อเอฟเอ็ม  94.75 ที่จัดงานวันครบรอบ 9 ปีของการก่อตั้งสถานีและงาน 1 ปี 1 ครั้งรวมพลังสร้างสรรค์สังคมให้อุดมด้วยปัญญา และพระสงฆ์ไทยที่ทำงานบริการสังคมนั้นมีอยู่จำนวนมาก แต่สังคมไทยไม่ค่อยมองเห็นซึ่งจะมองเห็นในสิ่งที่ไม่ดีเสียมาก

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20150605/207492.html