ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อวัดไร้หลวงพ่อคูณ ญาติเชื่อบารมีช่วยคุ้ม  (อ่าน 1050 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29496
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


เมื่อวัดไร้หลวงพ่อคูณ ญาติเชื่อบารมีช่วยคุ้ม

“ถ้าจะกินเนื้อ เวลาสับก็ต้องติดเขียงบ้าง”

หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ท่านสอนธรรมะด้วยความเปรียบง่ายๆ และยังปฏิบัติตนให้ดูตลอดชีวิตสมณเพศ คราวหนึ่งลูกศิษย์ถามหลวงพ่อว่า วัดบ้านไร่มีผลประโยชน์มากมาย แต่ละวันมีเงินไหลเข้ามหาศาล หลวงพ่อไม่เกรงรั่วไหลหรืออย่างไร

หลวงพ่อตอบทำนองว่า ถ้าเราจะกินเนื้อเวลาสับก็ต้องติดเขียงบ้าง ทำเอาศิษย์อึ้งไปตามๆกัน คำตอบของหลวงพ่อบอกให้รู้ว่าท่านรู้เส้นทางเงินในวัดว่าเป็นอย่างไร และเหนือกว่านั้นคือท่าน “เมตตา” ไม่ถือสาหาความผู้ได้ประโยชน์จาก “เนื้อติดเขียง”

พร้อมกับธรรมะที่สื่อออกมาง่ายๆ ท่านยังปฏิบัติตนให้ดู ท่านพูดอย่างไรก็ทำอย่างนั้น อย่างการสละเงินเพื่อสาธารณกุศล แต่ละปีท่านบริจาคไปจำนวนมหาศาล ใครถามเรื่องใช้เงินท่านก็ตอบว่า “เงินให้กูใช้ ไม่ใช่เงินใช้กู” คล้ายหลวงพ่อจะบอกว่า “เงินเป็นทาสกู กูไม่ได้เป็นทาสเงิน” นั่นเอง


 ans1 ans1 ans1 ans1

“ท่านเป็นกันเองกับทุกคน ไม่ถือตัว เมื่อก่อนใครไปมาหาสู่อย่างไรก็ได้ ผมโตขึ้นมาก็เห็นท่าน กุฏิท่านเป็นอาคารไม้ ผมได้มาบวชเณรอยู่กับท่านระยะหนึ่ง ได้เห็นการปฏิบัติตนของท่าน จำได้ว่าเมื่อเจอเด็กๆ ท่านมักจะถามว่า ปู่เป็นใคร ย่าเป็นใคร” นายอำนาจบอก

นายอำนาจ เสือสูงเนิน รองนายก อบต.กุดพิมาน ฉายภาพความทรงจำ ก่อนบอกว่าหลวงพ่อคูณห่วงเรื่องแหล่งน้ำมาก สมัยก่อนบ้านไร่แห้งแล้ง ชาวบ้านไม่ค่อยจะมีน้ำกินน้ำใช้ เมื่อมีโอกาสท่านจึงขุดบ่อในวัดบ้านไร่ เพื่อเก็บน้ำไว้ให้ชาวบ้านใช้ แถมปล่อยจระเข้ไว้ด้วย

ช่วงหลวงพ่อคูณมีคนมาหามาก เพราะท่านอยากช่วยชาวบ้านจึงให้ชาวบ้านนำพืชผักต่างๆมาขายในวัด แม้จะเป็นเงินเล็กๆน้อยๆ แต่ก็ช่วยผ่อนเพลาความยากแค้นไปได้บ้าง


 :25: :25: :25: :25:

นายอำนาจย้อนอดีตว่า ช่วงหลวงพ่อคูณมีชื่อเสียงเรื่องตะกรุด ผู้คนแห่แหนกันไปให้ท่านฝังตะกรุดกันคับคั่ง “ถ้ามีวันเสาร์ห้า วันศุกร์คนจะมาค้างคืนรอกันทั้งในวัดและใกล้วัด พอเช้าวันเสาร์ก็เข้าไปให้หลวงพ่อฝังตะกรุด”

พร้อมเสริมเรื่องการเสียสละของท่านว่า ท่านบริจาคเพื่อชาวบ้านไร่และชาวอำเภอด่านขุนทดมาก วัดไหน อนามัยใดต้องการงบประมาณช่วยเหลือท่านยินดีให้ ให้มาเอาเงินไปได้เลย ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นสถานีอนามัย วัด เมรุเผาศพ ท่านบริจาคให้เกือบทุกวัด และยังช่วยเรื่องวัสดุอุปกรณ์ต่างๆอีกด้วย

 st12 st12 st12 st12

แม้กระทั้งโรงเรียนหลวงพ่อก็สร้างให้ “อย่างโรงเรียนเทคนิค เมื่อก่อนคนในพื้นที่ชอบเรียนเทคนิคกันมาก ท่านอาจจะรำคาญที่มีคนมาขอให้ท่านนำไปฝากที่ตัวเมืองโคราชหรืออย่างไรไม่แน่ชัด ท่านเลยสร้างโรงเรียนให้เรียนเลย ขออย่างเดียวให้ตั้งใจเรียนกันจริงๆเท่านั้น”

สำหรับโรงเรียนเทคนิคหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ขั้นแรกหลวงพ่อดำริสร้างสถานศึกษาที่สามารถผลิตคนนำไปใช้ประกอบวิชาชีพได้ และไม่ต้องการให้เด็กๆเดินทางไปศึกษาที่อื่น คือช่วยให้เด็กได้เรียนในพื้นที่และยังประกอบอาชีพได้ด้วย ความฝันของหลวงพ่อเป็นจริงเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ.2537 กระทรวงศึกษาธิการได้จัดตั้งวิทยาลัยเทคนิคหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ สังกัดกองวิทยาลัยเทคนิค กรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ โดยมีหลวงพ่อคูณสนับสนุนการก่อสร้างรายใหญ่

อาทิ อาคารเรียน อาคารปฏิบัติการ อาคารหอสมุด อาคารพัสดุกลาง อาคารอำนวยการ บ้านพักครูและนักการภารโรงตลอดจนสาธารณูปโภคอื่นๆ ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้นตามโครงการในปีการศึกษา 2540 ใช้งบประมาณ ไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท

 st11 st11 st11 st11

นอกจากฉายความ “เมตตา” ของหลวงพ่อคูณแล้ว นายอำนาจบอกว่า หลวงพ่อคูณฝังตะกรุดให้ 2 ดอกบริเวณใต้ท้องแขน เมื่อถามว่ามีพุทธคุณอย่างไร เคยพบปาฏิหาริย์หรือไม่ ได้รับคำตอบว่า รู้สึกเหมือนมีของหลวงพ่ออยู่ในตัว แม้จะไม่เคยพบเรื่องปาฏิหาริย์อะไร แต่เชื่อว่ามีโชคลาภจากหลวงพ่อเสมอมา

เมื่อถามว่า เมื่อหลวงพ่อสิ้นแล้ว วัดบ้านไร่จะยังคึกคักหรือไม่ คำตอบคือ “อยู่ที่การสานต่อ ถ้าตามข่าวที่ว่าอาจารย์นุช รตนวิชโย จะมารักษาการเจ้าอาวาสนั้น ผมว่าชาวตำบลกุดพิมานเห็นด้วย เมื่อก่อนก็เห็นท่านเดินคู่กับหลวงพ่อมานาน ท่านเป็นคนวางแผนสร้างวัด แต่ต่อมามีเรื่องแวดล้อมไม่ดี ท่านก็ออกไป”

นายอำนาจฟันธงว่า “เรื่องนี้คณะกรรมการกับชาวบ้านเป็นเสียงเดียวกัน แต่คนภายนอกอาจจะมาจับเรื่องราว เข้ามาสัมภาษณ์ใครไปแล้วไม่ไตร่ตรอง อีกทั้งในวัดเองก็มีเรื่องซับซ้อนและมีผลประโยชน์มาก ทำให้เกิดเรื่องขึ้นมา”


 :25: :25: :25: :25: :25:

บรรยากาศวัดบ้านไร่ ตำบลกุดพิมาน อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา หลังหลวงพ่อคูณมรณภาพยังมีญาติโยมทยอยเข้าไปกราบนมัสการรูปปั้น และร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลสวดอุทิศถวายแด่หลวงพ่อ ซึ่งมีวันละ 2 ครั้งคือ ครั้งที่ 1 เวลา 14.30 น. และครั้งที่ 2 เวลา 19.00 น.

สถานที่ดึงดูดผู้คนในวัดบ้านไร่ปัจจุบัน นอกจากพระเครื่องหลวงพ่อแล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ ที่นำเรื่องราวของหลวงพ่อมาเล่าขานทั้งเป็นรูปภาพ วีดิโอ และจำลองบ้านหลวงพ่อคูณสมัยแรกเกิดไว้ด้วย พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เดิมเป็นกุฏิหลวงพ่อคูณ แต่ท่านต้องการให้ทำเป็นพิพิธภัณฑ์จึงย้ายออกไป

แรงดึงดูดอีกแห่งคือ วิหารเทพวิทยาคม ที่สร้างไว้อย่างสวยงาม ก่อนหลวงพ่อมรณภาพแต่ละวันมีคนเข้าไปเยี่ยมชมประมาณ 2,000 คน ปัจจุบันยังไม่มีตัวเลขยืนยันแน่ชัด คุณวาสนา ปรีชาญาณ ชาวบ้านหมู่ที่ 8 ตำบลกุดพิมาน ซึ่งเป็นเครือญาติของหลวงพ่อบอกว่า “ต้องดูอีกระยะหนึ่งว่าคนจะมาวัดบ้านไร่มากขึ้นหรือน้อยลง แต่เราหวังว่า ด้วยบารมีธรรมของหลวงพ่อ คนคงมาดูมรดกที่ท่านมอบไว้ ทั้งวิหารเทพวิทยาคมและพิพิธภัณฑ์”


 :sign0144: :sign0144: :sign0144: :sign0144:

หลวงพ่อท่าน “เป็นผู้สละ ไม่เอาอะไรเลย ตอนเด็กๆ แม้ท่านจะลำบากยากจน แต่ท่านไม่เคยคิดว่าเป็นปมด้อย ท่านช่วยเหลือผู้คน สอนธรรมะ และปฏิบัติให้ดูเป็นแบบอย่าง เราภูมิใจมากที่เกิดมาเป็นลูกหลานท่าน”

วาสนาบอกว่า เธอเห็นหลวงพ่อมาตั้งแต่เด็กๆ ท่านเป็นผู้สร้างความเจริญให้กับชาวบ้านไร่และใกล้เคียง การได้มาอยู่ใกล้ท่านทำให้เปลี่ยนความคิดเรื่องการทำบุญ เพราะเมื่อก่อนไม่ค่อยคิดเรื่องทำบุญ เมื่อมาเห็นท่านสละทุกสิ่งทุกอย่างแม้กระทั่งร่างกายก็เกิดความคิดใหม่ขึ้นมา

“แรกๆมาทำงานก่อสร้าง จากนั้นก็มาขายของให้วัด ท่านละสังขารไปยิ่งคิดว่าสิ่งที่ท่านมอบให้เราต้องรักต้องหวงแหนไว้ เมื่อก่อนคิดว่า ท่านนั่งยองๆ ก็สงสัยว่าทำไมท่านนั่งอย่างนั้น เมื่อมาดูมาเห็นท่าน ก็รู้ว่าเนื้อแท้ท่านเป็นอย่างไร รูปภายนอกจะเป็นอย่างไรก็ตามแต่เนื้อแท้ท่านดี”

 ans1 ans1 ans1 ans1

ข้อธรรมที่หลวงพ่อคูณพูดแล้วประทับใจคือ “ยิ่งเอามันยิ่งอด ยิ่งสละให้หมดมันยิ่งได้ มาสังเกตดูจากตัวเรา ทุกครั้งที่เราให้สิ่งดีๆ กับใคร เราก็จะได้สิ่งดีๆกลับมา ตัวท่านไม่ใช่แต่สอน ท่านมีอะไรก็ให้หมดเหมือนกัน ไม่มีเก็บ ท่านทำให้ดูเป็นแบบอย่าง และท่านสั่งสมบารมี เชื่อว่าที่ท่านให้สิ่งดีๆกับพวกเรา บารมีก็จะเกิดกับตัวท่าน อย่างคนที่ไปกราบศพท่านที่ขอนแก่นเห็นไหม มืดฟ้ามัวดินหมด ปรากฏการณ์แบบนี้เหมือนไม่เคยมีมาก่อน”

วัดบ้านไร่ยามไร้ร่างหลวงพ่อคูณจะเป็นอย่างไร ต้องรอเวลาพิสูจน์ต่อไป ส่วนบารมีธรรมของหลวงพ่อคูณนั้น ยิ่งกว่าชัดเจนแล้ว.

ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.thairath.co.th/content/502948
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ