ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: วัน(หยุด)เกิด : ธรรมะยู-เทิร์น  (อ่าน 2269 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29299
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
วัน(หยุด)เกิด : ธรรมะยู-เทิร์น
« เมื่อ: มิถุนายน 09, 2015, 08:26:07 pm »
0


วัน(หยุด)เกิด : ธรรมะยู-เทิร์น
โดยอิทธิโชโต

เกิดคนเราพอถึงวันเกิดกันที ก็อยากสร้างกุศลกันที ทำบุญที  ถามว่าดีไหม ก็ดีเฉพาะวันเกิดวันเดียวนั่นแหละ แต่วันอื่นๆ ไม่รู้ทำอะไร สำมะเลเทเมา ใช้ชีวิตไปตามใจชอบ ทางพระพุทธศาสนาบอกว่า ยังประมาทมากเหลือเกิน แต่สำหรับนักภาวนา หรือผู้ปฏิบัติธรรม ไม่ว่าวันไหนก็คือวันทำความเพียร วันที่ต้องมีสติ วันที่ต้องสร้างความดีกันอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าพอถึงวันเกิดทีค่อยมาระลึกถึงพระคุณพ่อแม่ก็ไม่ใช่ ต้องระลึกทุกวันด้วยการทำความดีนั่นแหละ คือการตอบแทนบุญคุณของผู้มีพระคุณไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ระลึกถึงพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ระลึกถึงประเทศชาติบ้านเมืองก็เหมือนกัน มันลงหลักการเดียวกันหมดอีก

บางคนถามว่า แล้ววันเกิดเราควรจะระลึกถึงความตายไหม ? 

ไม่ว่าวันไหน สำหรับนักภาวนา ก็ต้องระลึกถึงความตายทุกวัน ว่ามันไม่แน่ ก็ให้เราทำความเพียร สร้างสติต่อไป วันนี้ยังไม่แข็งแกร่ง ไม่ค่อยแข็งแรงทางสมาธิ สติ ปัญญาก็ค่อยๆ ทำไป  บางคนบอกว่า ปฏิบัติธรรมทุกวันนะ แต่ว่ายังกลัวความตาย มันก็เป็นเรื่องธรรมดาของแต่ละคน แต่ถ้าเมื่อไหร่ เขาสร้างกุศล เจริญภาวนาไปเรื่อยๆ จนกว่าสติเข้มแข็ง เขาก็จะเจริญเติบโตไปในทางนี้อยู่ดี เมื่อถึงวันนั้น อย่าว่าแต่การพิจารณาความตายเลย เมื่อความตายมาถึงก็ไม่กลัวอีกต่อไป


 ans1 ans1 ans1 ans1

ดังนั้นการมีศีล การทำความดี การภาวนาจำเป็นทุกวัน อย่ารอไปทำให้มากเฉพาะวันเกิด หรือทำอยู่วันเดียว นั่นยังประมาทอยู่ จะสูงต่ำดำขาว ทุกคนเหมือนกันหมด อย่ามีข้ออ้างในการที่จะไม่ภาวนา เพราะทุกคนมีเวลา ๒๔ ชั่วโมงเท่ากัน

นอกจากวันเกิด ก็คือวันเทศกาล ไม่ว่าจะเป็นวันวิสาขบูชาที่ผ่านมา หรือวันสำคัญอื่นๆ บางคนมีหน้าที่ต้องดูแลแม่พ่อ ทำกิจการงานต่างๆ แล้วก็เสียดายที่ไม่ได้ไปวัดในวันพระใหญ่อย่างคนอื่นเขา ก็มาบ่นให้ฟัง จริงๆ แล้ว การทำกุศล การทำความดี หรือการเจริญจิตตภาวนาทำได้ทุกที่ ไม่จำเป็นต้องไปวัด เพราะกิเลสมันกลัววัดหรือ มันไม่ได้กลัว กิเลสมันไปทุกที่ ถ้าไปวัดแล้ว ความโลภ ความโกรธ ความหลงไม่ติดตามตัวเราไปด้วย อย่างนี้ก็เห็นด้วยว่าควรจะไปวัด


 st11 st11 st11 st11 st11

การไปวัดขึ้นอยู่กับเวลาของแต่ละคน บางคนไปสร้างกุศลจริงๆ บางคนก็ไปตามประเพณี ไปทำบุญใส่บาตร ใช้เวลาไม่ถึง ๓๐ นาทีหรือ ๑ ชั่วโมงก็เสร็จแล้ว บางคนก็เลือกไปถวายสังฆทาน รักษาศีล ภาวนา อยู่อุโบสถศีลก็ว่าไป แล้วก็จบ

ลองนึกดูว่า เทศกาล ปีหนึ่งๆ มีสักกี่ครั้งที่จะทำความดี ยังน้อยเกินไปในการทำกุศล แต่การภาวนา การสร้างความดี อยู่ที่ไหนก็ทำได้ มันขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนเห็นภัยในสังสารวัฏแค่ไหน ถ้าเราไม่เห็นภัยก็จะห่างจากศีลธรรม ห่างจากการทำความดีไปเรื่อยๆ แล้วอะไรเล่าจะเข้ามาแทนที่ในใจเรา ก็ลองติดพิจารณาดู

 
ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20150609/207676.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ