ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สนพ. หนุนมหาเถรฯ ห้ามบวชภิกษุณีในไทย  (อ่าน 925 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29351
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


สนพ.หนุนมหาเถรฯ ห้ามบวชภิกษุณีในไทย

สมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา ยื่นหนังสือถึงมหาเถรสมาคมและสำนักพุทธฯ หนุนมหาเถรฯไม่ให้ทบทวนมติห้ามบวชภิกษุณีในไทย ย้ำต้องยึดพระไตรปิฎกเป็นสำคัญ พร้อมเดินหน้าเข้าพบประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 13 ก.ค.นี้

วันนี้(10 ก.ค.) ที่อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม สมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา(สนพ.)ร่วมกับเครือข่ายสตรีในพระพุทธศาสนาประมาณ 10 คนได้มายื่นหนังสือต่อมหาเถรสมาคม(มส.)และนายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.)เพื่อคัดค้านกรณีคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) จะเสนอให้มส.ทบทวนมติเกี่ยวกับการห้ามบวชภิกษุณีในประเทศไทย โดยผศ.ดร.เสถียร วิพรมหา นายกสนพ. กล่าวภายหลังยื่นหนังสือว่า

ตนได้กราบถวายรายงานต่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชว่า สนพ.และเครือข่ายชาวพุทธ ได้มายื่นหนังสือคัดค้านกสม.และขอให้มส.ยืนยันมติเดิม เนื่องจากการบวชภิกษุณีในประเทศไทยทำไม่ได้ เพราะภิกษุณีได้หมดไปและขาดการสืบเชื้อสายนานแล้ว ซึ่งสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ได้กล่าวกับตนว่า เขามีสิทธิอ้างรัฐธรรมนูญ แต่เราต้องยึดพระไตรปิฎกและคณะสงฆ์เป็นหลัก พร้อมทั้งได้กล่าวอนุโทนาต่อการถวายรายงานครั้งนี้ด้วย


 :96: :96: :96: :96: :96:

ผศ.ดร.เสถียร กล่าวต่อไปว่า ส่วนที่กสม.อ้างสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีการบวชภิกษุณีในไทยนั้นเป็นการอ้างที่ไม่ถูกต้อง เพราะสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญจะต้องไม่ไปกระทบหรือขัดต่อหลักพระพุทธศาสนาทั้งพระธรรมวินัยและกฎหมายของคณะสงฆ์ และที่ผ่านมามีประกาศรับรองชัดเจนให้คณะสงฆ์ฝ่ายเถรวาทซึ่งถือปฏิบัติสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน ในเรื่องการห้ามบวชหญิงเป็นเณรและภิกษุณีในไทย

โดยมีประกาศในพ.ศ.2471 ห้ามพระเณรไม่ให้บวชหญิงเป็นบรรพชิตของกรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า รวมทั้งพระวรธรรมคติเรื่องพระเณรบวชหญิงเป็นบรรพชิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2544 และมส.ได้มีมติห้ามบวชภิกษุณีในประเทศไทยเมื่อพ.ศ. 2531 จากนั้นได้มีมติครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ.2557


 :41: :41: :41: :41:

"การบวชภิกษุณีในประเทศไทยได้หมดไปแล้ว ตามข้อบัญญัติในภิกขุขันธกะแห่งวินัยปิฎกจุลวรรคว่าด้วยหญิงทั่วไปอายุยังไม่ครบ 20 ปี สามารถเข้ารับบรรพชาเป็นสามเณรี และเมื่ออายุได้ 18 ปีให้บวชเป็นสิขมานาผู้รักษาศีล 6 ซึ่งขาดไม่ได้แม้แต่ข้อเดียวเป็นเวลา 2 ปี จนครบ 20 ปี จึงอุปสมบทเป็นภิกษุณีจากอุปัชฌาย์ คณะสงฆ์ 2 ฝ่าย คือ
       ภิกษุณีสงฆ์ และภิกษุสงฆ์ โดยพระวินัยไม่อนุญาตให้ภิกษุเพียงฝ่ายเดียวทำการอุปสมบทให้แก่สามเณรี สิกขมานา ภิกษุณี แต่อย่างใด เมื่อภิกษุณีสงฆ์ในพระพุทธศาสนาเถรวาทได้ขาดสูญไป การบวชภิกษุณีจึงเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่มีภิกษุณีนิกายเถรวาท เป็นอุปัชฌาย์

อย่างไรก็ตามขั้นตอนจากนี้ไปสนพ.และเครือข่ายสตรีฯจะไปยื่นหนังสือต่อศ.ดร.อมรา พงศาพิชญ์ ประธานกสม.วันที่ 13 กรกฎาคมนี้ เวลา 10.00 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ จ.นนทบุรี" ผศ.ดร.เสถียร กล่าว


ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/education/333990
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ