หนึ่ง นับถือศาสนา
สอง รักษาคำให้มั่น
สาม เชื่อพ่อแม่ครูอาจารย์
สึ่ วาจานั้นต้องสุภาพอ่อนหวาน
ห้า ยึดมั่นกตัญญู
หก เป็นผู้รู้รักการงาน
เจ็ด ต้องศึกษาให้เชี่ยญชาญ ต้องมานะบากบั่นไม่เกียจไม่คร้าน
แปด รู้จักออมประหยัด
เก้า ต้องซื่อสัตย์ตลอดกาญ น้ำใจนักกีฬากล้าหาญ ให้เหมาะแก่กาลสมัยชาติพัฒนา
สิบ ทำตนให้เป็นประโยชน์ รู้บาปบุญคุณโทษ สมบัติชาติต้องรักษา เด็กสมัยชาติพัฒนา จะเป็นเด็กที่พาชาติไทยเจริญ
คนแต่ง เข้าใจแต่ง ดีคะ
หนึ่ง นับถือศาสนา ต้องเลือกศาสนามาอยู่ในหัวใจ เพื่อเป็นคนดี
สอง รักษาสัจจะ คำปฏิญญา ที่ให้ไว้
สาม เทิดทูน พ่อ และ แม่ ครูอาจารย์
สี่ ประกอบสัมมาวาจา อ่อนน้อมถ่อมตน
ห้่า กตัญญูต่อ บุพพการีทุกคนทุกท่าน
หก เป็นคนที่ไม่เกียจคร้าน
เจ็ด ต้องใฝ่รู้ ใฝ่เรียน ให้้เกิดความชำนาญในวิชาที่เรียน
แปด รู้จักมัธยัสถ์ เก็บสะสม สินทรัพย์ให้เกิดประโยชน์
เก้า ต้องมีคุณธรรม คือ ความซื่อสัตย์ รู้จักแพ้ รู้จักชนะ ให้ถูกกาละเทศะ ในยามที่ชาติต้องการ
สิบ สร้างสรรค์ แต่สิ่งมีประโยชน์ สำนึกในบาป บุญ คุณ โทษ ปกป้องชาติ
อ่านแล้วรำลึก ถึงวันเก่า ๆ ตอนเป็นเด็ก ที่อยากไปวิ่งเล่นแบบเด็กคนอื่น แต่เพราะพ่อ แม่ เข้มงวดในเชื้อชาติ
ต้องไปขายของแทนในวันเด็ก ทุกวันเด็ก จะไม่เคยได้ไปเที่ยวแบบเด็ก ๆ ในปัจจุบัน นึกแล้วก็อดจะดีใจกับ
เด็ก ๆ ที่คุณพ่อ คุณแม่ สมัยใหม่ ให้ความสำคัญกับลูกจริง ๆ มานึกถึงสมัยเด็กอยากมีทีวีกับเขาสักเครื่อง เพราะ
ต้องวิ่งไปดูที่บ้านอื่น ๆ สมัยนั้น ทีวีเป็นขาวดำ เครื่องหนึ่งแพงมาก ระดับครึ่งหมื่น คิดดูสิคะ เงิน 2 บาทกินข้าว
ราดแกงได้จานหนึ่งคะ สมัยนี้อยู่ที่กรุงเทพ จะกิน จะทานให้อิ่ม 50 บาทยังไม่พอเลยคะ
ขอบคุณกับเจ้าของเรื่อง ทำให้รำลึกถึง วัยเด็ก... ได้คร้า...