พิมพ์

[raponsan]

วอนรัฐ ทุ่มงบฯ สร้างสังเวชนียสถาน

"สมเด็จพระพุทธชินวงศ์" ทึ่งรัฐบาลเมียนมาทุ่มงบ 8.5.พันล้าน สร้างสังเวชนียสถาน 4 ตำบล ในเมืองหลวงใหม่เนปิดอว์ วอนรัฐบาลไทยสนับสนุนงบฯสร้างสังเวชนียสถาน ที่พุทธมณฑล หวังเป็นแหล่งเรียนรู้ชาวพุทธโลก

วันนี้ (20 ก.ค.) สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม) เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล ฝ่ายสงฆ์ กล่าวภายหลังศึกษาดูงานการจัดสร้างสังเวชนียสถาน 4 ตำบล ณ กรุงเนปิดอว์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ระหว่างวันที่18-20 ก.ค.ว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) และ มส. มีมติเห็นชอบตั้งคณะกรรมการอำนวยการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑลทั้งฝ่ายสงฆ์ และฝ่ายฆราวาสนั้น คณะกรรมการฯ ได้ดำเนินการจัดทำแผนแม่บทโครงการพุทธมณฑล ธรรมรัตนบูชา ศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลก ภายใต้โครงการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถแล้ว

ซึ่งหนึ่งในแผนดำเนินงาน คือ การจัดสร้างสังเวชนียสถาน 4 ตำบลจำลอง มาประดิษฐานยังพื้นที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม เพื่อเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนชาวไทยที่ไม่มีทุนทรัพย์ที่จะเดินทางไปยังสถานที่จริงในประเทศอินเดีย เนปาล ได้เห็นสถานที่เสมือนจริง รวมทั้งได้ศึกษาพุทธประวัติและหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจากสังเวชนียสถานจำลองดังกล่าว


 

สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ กล่าวต่อไปว่าเมียนมา ได้มีการจำลองสังเวชนียสถาน 4 ตำบลมาไว้ที่กรุงเนปิดอว์ อาตมาจึงได้มาศึกษาแนวทางการสร้าง เพื่อที่จะนำไปปรับใช้ในการจัดสร้างที่พุทธมณฑล ซึ่งพบว่า รัฐบาลเมียนมา มีความศรัทธาและให้ความสำคัญต่อพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก สนับสนุนงบประมาณในการจัดสร้างสังเวชนียสถาน 4 ตำบล อันได้แก่

สถานที่ประสูติ คือ ลุมพินีวัน สถานที่ตรัสรู้ คือ พุทธคยา แสดงปฐมเทศนา คือ สารนาท และปรินิพพาน คือ กุสินารา ถึง 8,500 ล้านบาท ได้ดำเนินการก่อสร้างเสร็จแล้วอย่างสมบูรณ์ภายในระยะเวลาประมาณ 2 ปี ที่สำคัญยังพบว่า ชาวเมียนมาเป็นจำนวนมากต่างรู้สึกภูมิใจ และเดินทางมาสักการะสังเวชนียสถานทั้ง 4 กันเป็นจำนวนมากด้วย

 

"อาตมาจะนำแนวทางที่ได้จากการมาศึกษาดูงานสังเวชนียสถานในเมียนมา มาเป็นต้นแบบการจัดสร้างสังเวชนียสถาน 4 ตำบล ที่พุทธมณฑล ประเทศไทย โดยในเบื้องต้นวางแผนไว้ว่า จะจัดสร้างเท่าของจริงที่อยู่ในอินเดียและเนปาล พร้อมสร้างโซนองค์ความรู้ตั้งแต่ พุทธประวัติ หลักคำสอน พุทธพจน์ วิธีการปฏิบัติ ที่เข้าใจง่าย ผสมผสานกับสื่อสมัยใหม่ ภายในสังเวชนียสถานทั้ง 4 ตำบล เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางพระพุทธศาสนาแบบครบวงจร เหมาะสมกับการเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลก

ส่วนระยะเวลาในการจัดสร้างนั้น ขึ้นอยู่กับงบประมาณของรัฐบาลไทยที่จะจัดสรรมาให้อาจจะ 2 ปี 5 ปี หรือ 10 ปี แต่อย่างไรก็ตาม อาตมาก็อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงของพุทธมณฑลที่จะกลับมาเป็นแหล่งรู้ทางพระพุทธศาสนาที่สำคัญของชาติให้เร็วที่สุด"ประธานคณะอำนวยการฯ กล่าว.

ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/education/336083