ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ไฟไหม้ศาลาการเปรียญ ไม้สักทอง วัดดังอ่างทอง วอดทั้งหลัง สูญกว่า 10 ล.  (อ่าน 944 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29346
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ไฟไหม้ศาลาการเปรียญ ไม้สักทอง วัดดังอ่างทอง วอดทั้งหลัง สูญกว่า 10 ล.

เพลิงไหม้ศาลาการเปรียญ ทำด้วยไม้สักทอง วัดราชสกุณา(นก) จ.อ่างทอง วอดทั้งหลัง เสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท คาดไฟฟ้าลัดวงจร ...

เมื่อเวลาประมาณ 00.05 น. วันที่ 9 ส.ค. ร.ต.ท.บรรจบ จ้อยศรีเกตุ ร้อยเวร สภ.วิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ศาลาการเปรียญ วัดราชสกุณา(นก) ตั้งอยู่ที่ หมู่ 5 ตำบลไผ่จำศีล อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง หลังได้รับแจ้งจึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตำบลวิเศษชัยชาญ พร้อมด้วย รถดับเพลิงในเทศบาลใกล้เคียงกว่า 10 คัน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลวิเศษชัยชาญ สมาคมวีอาร์กู้ภัยอ่างทอง รุดไปตรวจสอบ และระงับเหตุ


ไฟไหม้ศาลาการเปรียญรุนแรง

ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กำลังระดมฉีดน้ำดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้บริเวณศาลาการเปรียญของวัดราชสกุณา(นก) โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบลง

พระวิรัตน ธมฺธโร (ทำมะธะโร) พระลูกวัดที่เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ตนได้นั่งกรรมฐานอยู่แล้วได้ยินเสียงดังคล้ายเสียงระเบิด ตนจึงวิ่งออกมาดูได้เห็นเพลิงกำลังลุกไหม้อยู่บริเวณห้องพระพุทธของศาลาการเปรียญวัด จึงได้วิ่งไปตีระฆังให้พระที่อยู่ในวัดรับทราบ เพื่อให้มาช่วยกันดับไฟ แล้วได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง


เจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำสกัดเพลิง

ด้าน ร.ต.ท.บรรจบ กล่าวว่า สอบสวนเบื้องต้น คาดว่าอาจเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนค่าเสียหายนั้นไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เนื่องจากศาลาหลังนี้ได้ทำจากไม้สักทองทั้งหลัง และเพลิงได้ไหม้ไปหมดจนใช้การอะไรไม่ได้เลย ส่วนสาเหตุไฟไหม้ที่แท้จริง ต้องรอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดอ่างทองเข้าตรวจสาเหตุ และจะเรียกพยานมาสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมตรวจพยานแวดล้อมเพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป.

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/517096
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ