ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: แจง.."พระไหว้แม่ต้องอาบัติ" บรรพชิตไม่กราบคฤหัสถ์  (อ่าน 1683 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29297
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


แจง.."พระไหว้แม่ต้องอาบัติ" บรรพชิตไม่กราบคฤหัสถ์

"โฆษกสำนักพุทธ" ยกพระธรรมวินัยแจง กรณีพระสงฆ์กราบฆราวาส แม้เป็นแม่ก็ต้องอาบัติทุกกฎ ชี้ผู้ออกบวชได้สละ เพื่อขัดเกลากิเลสตัณหา จึงถือว่าเพศบรรพชิตสูงกว่าเพศคฤหัสถ์

เมื่อวันที่ 14ส.ค. ดร.สมชาย สุรชาตรี โฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวว่า ตามที่เมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา มีการเผยแพร่ภาพพระสงฆ์กราบฆราวาสผู้หญิง โดยมีการบรรยายภาพว่าเป็นภาพพระสงฆ์กราบแม่ของตัวเองเนื่องในวันแม่ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าพระสงฆ์สามารถกราบแม่ได้หรือไม่ ซึ่งตนอยากชี้แจงว่า ตามพระธรรมวินัยอธิบายถึงความแตกต่างกันไว้ว่า "เพศบรรพชิต" หรือ เพศนักบวช เป็นเพศที่สูงยิ่ง กล่าวคือ การออกบวชเป็นพระ แสดงถึงความเป็นผู้จริงใจปรารถนาในการที่จะขัดเกลา ละ คลายกิเ ลส จึงสละอาคารบ้านเรือน ทรัพย์สมบัติ วงศาคณาญาติ ออกบวช เพื่ออบรมเจริญปัญญา ขัดเกลากิเลสของตนเอง จนกว่าจะสามารถดับได้จนหมดสิ้นไป

ดร.สมชาย กล่าวต่อไปว่า สำหรับ "เพศคฤหัสถ์" ไม่ได้ปรารถนาสละถึงอย่างนั้น อยู่ครองเรือน ยังเต็มไปด้วยกิเลสตัณหา ยังมีความติดข้อง ต้องการในรูป เสียง กลิ่น รส เป็นต้น ไม่ปลดปลงปลอดโปร่ง เหมือนกับเพศบรรพชิต ดังนั้นเพศบรรพชิต จึงเป็นเพศที่ควรเคารพสักการะกราบไหว้ ในฐานะที่เป็นผู้ที่สละอาคาร บ้านเรือน ออกบวชเพื่อขัดเกลากิเลสตัณหาของตนจริงๆ ยิ่งกว่าคฤหัสถ์ ดังนั้นบรรพชิต จึงไม่มีการกราบไหว้ผู้ที่เป็นคฤหัสถ์ แม้จะเป็นบิดา มารดา ของตนเองก็ตาม มีแต่คฤหัสถ์เท่านั้น ที่ควรเคารพสักการะกราบไหว้บรรพชิต



โฆษกพศ.กล่าวอีกว่า ในพระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม 7 ภาค 2 หน้าที่ 136 ระบุถึงบุคคลที่พระไม่ควรไหว้ มี 10 จำพวก ได้แก่
    1. อันภิกษุผู้อุปสมบทก่อน ไม่ควรไหว้ภิกษุผู้อุปสมบทภายหลัง
    2. ไม่ควรไหว้ อนุปสัมบัน (ผู้ที่ไม่ได้เป็นภิกษุ หมายถึง สามเณรและคฤหัสถ์)
    3.ไม่ควรไหว้ภิกษุนานาสังวาส (ความต่างกันของศีล) ผู้แก่กว่า แต่ไม่ใช่ธรรมวาที
    4.ไม่ควรไหว้มาตุคาม (ผู้หญิง เพศหญิง)
    5. ไม่ควรไหว้บัณเฑาะก์ (กระเทย)
    6. ไม่ควรไหว้ภิกษุผู้อยู่ปริวาส
    7. ไม่ควรไหว้ภิกษุ ผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม
    8. ไม่ควรไหว้ภิกษุผู้ควรมานัต (วินัยกรรมที่สงฆ์ทําแก่ภิกษุผู้ต้องอาบัติสังฆาทิเสสให้เป็นภิกษุที่นับเข้าในหมู่สงฆ์ได้) 9. ไม่ควรไหว้ภิกษุผู้ประพฤติมานัต และ
  10. ไม่ควรไหว้ภิกษุผู้ควรอัพภาน (การชักกลับมา ในวินัยหมายถึง การรับภิกษุผู้ต้องอาบัติสังฆาทิเสส และได้ถูกทําโทษคือ อยู่ปริวาสแล้วให้กลับคืนเป็นผู้บริสุทธิ์ การสวดประกาศเรื่องนี้ เรียกว่า สวดอัพภาน)

   ซึ่งหากพระสงฆ์ไหว้บุคคลดังกล่าวทั้ง 10 ประเภท ตามพระวินัย ถือว่าเข้าข่ายอาบัติทุกกฎ.

ขอบคุณภาพประกอบจากเฟซบุ๊ก "Tanongsak Srimoung" , "พี่กื๊ด จัดให้ ตามกำลังทรัพย์"“
ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/education/341665
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

DANAPOL

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-1
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 332
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เห็นแว๊บ ๆ ว่าไปตั้งคำถาม พระอาจารย์
  ส่วนตัว เชื่อ พระวินัย ว่า ไม่สมควร แต่ไหว้ ได้ไหม ? ก็ตอบว่า ไหว้ได้ แต่เพื่ออะไร ?
  โดยปกติ คนเป็น พ่อแม่ นับถือพระพุทธศาสนา นั้น จะ รู้ดีอยู่แล้ว เรื่องนี้ ลูกบวชเสร็จ ก็กราบลูก 95 เปอร์เซ็นต์ เป็นอย่างนั้น คงมีส่วนน้อย

   แต่สำหรับ กรณีภาพ นั้น พระท่านอ่อนการศึกษา ก็อยากจะทำการนอบน้อม พระคุณแม่ มันก็ดีอย่างแต่ก็เสียอย่าง หนึ่ง แสดงถึงความนับถือ เชื่อมั่นในธรรม ของพ่อแม่ ส่วนเสีย ก็คือ ผิดวินัย

    แต่ที่นี้ มาพิจาณา ที่วินัย ปรับอาบัติ ทุกกฏ ซึ่งเป็นอาบัติ ภาษาพระ เบา หรือ ค่อนข้างจะเบา พอ ๆ กับ ถุลลัจจัย นั่นแหละ เบา อย่างยิ่งยวด สามารถ ปลงอาบัติ แล้วก็พ้นจากอาบัติ

     ที่นี้ พอภาพออกมาอย่างนี้ คน ก็ตั้งคำถาม และไป ประนาม พระ อย่างนี้ไม่ถูก กล่าวว่าเป็นเรื่องร้ายแรง คนที่กล่าว ต้องระวังตัว นะครับ พระดำรัสของพระพุทธเจ้า ตรัสไว้ว่า ผู้แสดง วินัย เบา ว่าเป็น หนัก หรือ หนัก ว่า เป็น เบา ผู้นั้นชื่อว่า ทำลายพุทธศาสนา มีกระทู้ในเว็บนี้ อ่านแล้วต้องระวัง

     ตอนนี้ มส. ก็กระทำเยี่ยงนี้ ปรับอาบัติ เบา ให้เป็น อาบัติ หนัก เช่นพระ ดื่มสุรา ขับรถ อาบัติปรับเพียง ปาจิตตีย์ แต่ คณะ มส. ตีความว่า เป็นหนัก ให้ลาสิกขาบถ ขาดจากความเป็นพร ( แม่งม่ว มากขอบอก )

     ส่วนอาบัติ หนัก เช่น การฉ้อโกง ติดสินบน โกงภาษี ยักยอกเงินวัด บงการฆ่ามนุษย์ ทำธูรกิจซอ่งโลเภณี เสพเมถุน กลับตีวความ เป็นอาบัติ ที่ต้องวินิจฉัย บางครั้่งพิจาณาโทษ แค่ ปลดยศ ปลดตำแหน่ง เท่านั้น ( โคตรขี้โกง วินัจฉัย บ้าบอคอแตก แบบ นี้ )

      เรื่องอย่างนี้ โปรดใช้ วิจารณญาณ ผม ฟังในรายการ พระอาจารย์ ท่านพูดดี ว่าสมัยนี้ พระสงฆ์ฝ่ายปกครอง ล้วนแล้วกำลัง ทำผิด พระดำรัสพระพุทธเจ้า ผมเห็นด้วย

    thk56 like1 st12
บันทึกการเข้า
รหัสธรรม ต้องใช้ปัญญาคือความรู้ ผู้ถือกุญแจคือใครหนอ...

DANAPOL

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-1
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 332
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0

ลิงก์ที่พระอาจารย์โพสต์ ไว้นะครับ
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=16227
บันทึกการเข้า
รหัสธรรม ต้องใช้ปัญญาคือความรู้ ผู้ถือกุญแจคือใครหนอ...