วิศวกร เผย โบสถ์วัดต้นเชือก มีการยกไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดการถล่ม
ผู้รับเหมายกโบสถ์ เข้าพบพนักงานสอบสวนให้ปากคำขั้นตอนในการยกโบสถ์ ด้าน ตร. รอปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหาผู้รับเหมา รองเลขาธิการสภาวิศวกร ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบไม่ได้มาตราฐาน ไม่มีคานรอง รับน้ำหนักไม่ไหว...
เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 58 บรรยากาศการประชุมขั้นตอนการรื้อถอนที่วัดต้นเชือก ม.4 ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พระครูเกษม จริยคุณ เจ้าอาวาสวัดต้นเชือก, นายประเสริฐ วัดผลัด นายกเทศบาลตำบลบางใหญ่, พ.ต.ท.บรรเทิง รุ่งมณี สวป.บางแม่นาง จ.นนทบุรี, นายวิชิต อรุณมานะกุล นายช่างใหญ่กรมโยธาธิการและผังเมือง, นายบรรเจิด เพชรรัตน์ วิศวกรโยธา เทศบาลตำบลบางใหญ่, นายจีระศักดิ์ วัฒนะสุวรรณ อดีตกำนัน ต.บางใหญ่ และคณะกรรมการวัดร่วม 30 คน ได้ร่วมประชุมหาทางออกในขั้นตอนการรื้อถอน โครงสร้างพระอุโบสถวัดต้นเชือกให้ปลอดภัย และมีระบบระเบียบ ตามแบบแผน โดยทางคณะกรรมการวัดลงความเห็นว่า ควรให้ทางเทศบาลบางใหญ่ พิจารณาเป็นแม่งานในการรื้อถอน ผ่านทางหน่วยงานโยธาของทางเทศบาล จะถูกขั้นตอนและปลอดภัยกว่าทางวัดที่จะรื้อถอนเอง เพราะตอนนี้ทางเทศบาลออกคำสั่งห้ามรื้อถอน ฉะนั้นจะต้องยื่นขอการรื้อถอนก่อน โดยมีบริษัทผู้รับเหมาที่ถูกต้องตามขั้นตอนในการรื้อถอน
การประชุมขั้นตอนการรื้อถอนที่วัดต้นเชือก
ด้าน นายประเสริฐ วัดผลัด นายกเทศบาลตำบลบางใหญ่ หลังจากที่ได้ประชุมกัน ได้ความว่า จะทำการล้อมรั้วด้วยสังกะสี เพื่อที่จะไม่ให้เกิดอันตรายแก่ผู้ที่สัญจรไปมาหรือเดินทางมาดูที่เกิดเหตุ โดยที่ประชุมให้นายจีระศักดิ์ วัฒนะสุวรรณ อดีตกำนัน ต.บางใหญ่ ยื่นเรื่องขอรื้อถอนโบสถ์ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
ขณะที่ พ.ต.อ.กองสรร ควรระงับกมน ผกก.สภ.บางแม่นาง กล่าวว่า เมื่อเวลา 11.00 น. นายณรงค์ฤิทธิ์ หลักทอง อายุ 31 ปี ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำขั้นตอนการปฏิบัติงานยกโบสถ์ โดยจะนำขั้นตอนการทำงานมาเปรียบเทียบกับวิศวกร ว่าขั้นตอนการทำงานถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ถูกต้องตามขั้นตอนก็จะแจ้งข้อหาต่อไปศ.ดร.อมร พิมานมาศ ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างอาคารคอนกรีต เดินทางมาดูซากโบสถ์ถล่ม
ต่อมา เมื่อเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน ศ.ดร.อมร พิมานมาศ อายุ 43 ปี นักวิจัย สกว.รองเลขาธิการสภาวิศวกร ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างอาคารคอนกรีต เดินทางมาดูซากโบสถ์ถล่มที่ วัดต้นเชือก ม.4 ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี กล่าวว่าจากการตรวจสอบพบว่า อุปกรณ์การยกไม่ได้มาตรฐาน รับน้ำหนักตัวโบสถ์ไม่ไหว และไม่มีอะไรรองรับน้ำหนักตัวโบสถ์ จากการตรวจสอบพบว่า ใช้เพียงดึงขึ้นไว้ลอยๆ อย่างเดียว ทำให้รับน้ำหนักไม่ไหว และไม่มีคานคอยรองจึงทำให้โบสถ์หล่นลงมาทั้งหลัง ต่อไปนี้ถ้ามีการยกโบสถ์ต้องมีวิศวกรควบคุมการยกโบสถ์ คำนวณน้ำหนักและมีขั้นตอนอย่างถูกต้อง
ส่วน ฝั่งชาวบ้านต่างเดินทางมานำอัฐิของบรรพบุรุษ และญาติ ที่อยู่บริเวณรอบโบสถ์ ไปบรรจุในสถานที่แห่งใหม่กันอย่างต่อเนื่อง.ผู้เชี่ยวชาญชี้ การยกทำโดยมีอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน รับน้ำหนักตัวโบสถ์ไม่ไหว จนเป็นเหตุให้ถล่มลงมา
ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/521242