ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เทวดาตกสวรรค์  (อ่าน 1087 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29355
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
เทวดาตกสวรรค์
« เมื่อ: กันยายน 05, 2015, 07:43:27 pm »
0


เทวดาตกสวรรค์

ชื่อ...พระเจ้ามันธาตุราช เป็นตัวละครเอกในมันธาตุราชชาดก ติกนิบาต ในนิบาตชาดกครับ (นามานุกรมวรรณคดีไทย ชุดที่ 3 เล่ม 2 มูลนิธิสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ จัดพิมพ์ในวโรกาสเจริญพระชนมายุ 50 พรรษา พ.ศ.2548)

เอ่ยคำชาดก ก็พอประมวลความได้ เป็นนิทานที่พระภิกษุในพุทธศาสนาชอบเอามาเล่าประกอบการสอนธรรมะ
นิทานมักเริ่มด้วยกาลครั้งหนึ่ง...นานมาแล้ว...นานแค่ไหน...รู้ว่านานเท่านั้นก็น่าจะพอ เมื่อเป็นนิทาน...จึงอย่าเอาความจริง เรื่องอายุขัย...มาเป็นข้อกังขา


 ans1 ans1 ans1 ans1

พระเจ้ามันธาตุราชเป็นโอรสพระเจ้าวรอุโบสถ ครองราชย์เป็นพระเจ้าจักรพรรดิทั้ง 4 ทวีป พระองค์มีรัตน 7 ประการ ช้างแก้ว ม้าแก้ว ขุนพลแก้ว ขุนคลังแก้ว ฯลฯ กระทั่งจักรแก้ว จะต้องการอะไรก็ได้ดังใจปรารถนา แสดงถึงการมีบุญญาธิการเป็นอย่างยิ่ง

ว่ากันโดยอายุขัยพระชนม์พระเจ้ามันธาตุราช มีกำหนดได้อสงไขยหนึ่ง อสงไขยแปลตรงตัวว่า นับคำนวณไม่ได้ ผู้รู้บางท่านว่าอสงไขยหนึ่งเท่ากับโกฏิยกกำลัง 20 งานนี้อาจารย์บัญชา ธนบุญสมบัติ ท่านคงต้องใส่ศูนย์เติมไปหลายหน้ากระดาษ คิดเป็นตัวเลขเหนื่อยนักก็ลองประมาณกันว่า อสงไขย เริ่มนับแต่เกิดโลกขึ้นใหม่ จนเกิดมหาเมฆให้ฝนตกน้ำท่วมโลกอีกครั้งหนึ่ง...(ซึ่งก็คือวันสิ้นโลก) ก็คงได้


 :49: :49: :49: :49:

ได้ทุกอย่างดังใจในโลกมนุษย์ นานๆเข้าพระเจ้ามันธาตุราชท่านก็เบื่อ อยากได้สมบัติในเทวโลกขอเทวดา...หยิบจักรแก้วขึ้นมา จักรแก้วก็พาพระองค์เหาะขึ้นสวรรค์ ชั้นจาตุมหาราชิกา ท้าวจาตุมหาราชทั้งสี่ก็นอบน้อมยอมมอบทิพยสมบัติให้ครองอยู่เป็นนาน โรคเก่าคืออยากขึ้นสวรรค์ชั้นสูง ต่อไปก็กำเริบขึ้นอีก เมื่อท้าวจาตุมหาราช ทูลว่า “ยังมีสวรรค์อีกชั้นคือชั้นดาวดึงส์ เป็นสถานที่น่ายินดียิ่งกว่า”

ไม่ทรงรอช้าให้จักรแก้วพาไปถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พระอินทร์เสด็จมาต้อนรับ แบ่งทิพยสมบัติให้กึ่งหนึ่ง ครองทิพยสมบัตินับได้เวลา 3 โกฏิกับ 60 แสนปี พระอินทร์หมดบุญผลัดกันมาจุติใหม่ไปแล้ว ถึง 36 องค์ ท้าวมันธาตุราชก็ยังคงเป็นองค์เดิม



โรคเก่าก็กำเริบอีก ครั้งนี้ท้าวมันธาตุราชอยากได้สมบัติอีกกึ่งจากพระอินทร์ จะออกปากขอพระอินทร์ตรงๆก็คงไม่ได้ จึงวางแผนจะปลงพระชนม์พระอินทร์ แต่บุญญาธิการพระอินทร์ก็มีปลงพระชนม์พระอินทร์ไม่ได้

พระเจ้ามันธาตุราชเกิดความทุกข์ใจอย่างยิ่ง หากเทพองค์ใดเกิดความทุกข์ใจเพราะความปรารถนาไม่สิ้นสุด สังขารก็จะเริ่มเสื่อมทราม ความชราก็เริ่มเข้ามาเยือน แต่กติกาสวรรค์ เทวดาจะตายไม่ได้

ด้วยเหตุนี้ เมื่อใกล้เวลาตายพระเจ้ามันธาตุราชก็ให้มีอันต้องตกจากสวรรค์หล่นโครมลงไปโลกมนุษย์ จำเพาะให้นอนหายใจรวยรินอยู่ในอุทยานนครเก่าของพระองค์เอง


 :96: :96: :96: :96: :96:

ถึงเวลานั้น วันเวลายาวนานเสียจนเผ่าพงวงศาของพระเจ้ามันธาตุราช เปลี่ยนไปจนสืบเชื้อสายกันแทบไม่ได้...
    เมื่อพระราชาที่เป็นเชื้อสายมาถาม “ท่านผู้เฒ่าเป็นใคร”
    “เราคือพระเจ้ามันธาตุราช จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ 4 ทวีป” ตรัสแล้วก็สิ้นพระชนม์

สีสันของนิทานเรื่องนี้ ผมว่าอยู่ที่พระเจ้ามันธาตุราชเริ่มอิจฉาคิดแย่งสมบัติกึ่งหนึ่งจากพระอินทร์แล้วร่างกายก็เริ่มอับเฉาเศร้าหมอง ส่งสัญญาณว่าจะหมดบุญจนต้องหลุดจากสวรรค์ ตอนตายในโลกมนุษย์ก็ตายแบบคนแก่ไม่มีราศี ตายแบบคนไร้ญาติ ลูกหลานไม่เชื่อว่าเป็นต้นเชื้อสายเอาด้วยซ้ำ

มนุษย์สามัญอย่างเราๆ หากเริ่มเห็นว่า เทวดาที่เคยนับถือ...สักองค์ อากัปกิริยาที่เคยสง่าผ่าเผยเปลี่ยนไป วาจาส่อเสียดบอกเค้าลางความหวาดระแวงแคลงใจ ไม่เก็บอาการเอาไว้เลย แสดงว่าเป็นเทวดาหมดบุญ

น่าสงสารเทวดาตกสวรรค์ แต่สงสารแล้วก็เตรียมทำใจเผื่อเทวดาชุดใหม่ หากทำงานได้ไม่ถึงใจสะสมบุญไว้มากไม่พออีกไม่ช้าก็จะได้คิวเทวดาน่าสงสารรายต่อไป.


กิเลน ประลองเชิง



ที่มา http://www.thairath.co.th/content/520157
ขอบคุณภาพจาก http://i.ytimg.com/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ