ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พาไปดู ตักบาตรขนมครก! ประเพณีหนึ่งเดียวที่บางคนที  (อ่าน 880 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


พาไปดู ตักบาตรขนมครก! ประเพณีหนึ่งเดียวที่บางคนที

ชาว ต.บางพรม อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม สืบสานประเพณีที่มีเพียงหนึ่งเดียว ‘ตักบาตรขนมครกน้ำตาลทราย’ มีกิจกรรมสนุกๆมากมาย เผยเคยหยุดจัดไปช่วงหนึ่ง เพราะมีหนุ่มพาลูกสาวเจ้าภาพ บ้านที่จัดงานหนี ก่อนที่ ‘หลวงพ่อโห้’ จะรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ ...     

เมื่อตอนเช้าวันที่ 20 ก.ย.58 ที่วัดแก่นจันทร์เจริญ ต.บางพรม อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม นายปัญญา งานเลิศ ผวจ.สมุทรสงคราม พร้อมด้วยนางสุธานันทน์ งานเลิศ นายกเหล่ากาชาดจังหวัด เป็นประธานเปิดงานตักบาตรขนมครกน้ำตาลทราย ซึ่งเป็นประเพณีท้องถิ่นที่สืบสานกันมานานของชาว ต.บางพรม อ.บางคนที ในทุกวันขึ้น 8 ค่ำเดือน 10 ของทุกปี

สำหรับปีนี้ ทาง อบจ.สมุทรสงคราม ร่วมกับวัฒนธรรมจังหวัด สภาวัฒนธรรมจังหวัด สมุทรสงคราม สภาวัฒนธรรมอำเภอบางคนที สภาวัฒนธรรมตำบลบางพรม อบต.บางพรม และพระครูวิมล สมุทรกิจ เจ้าอาวาสวัดแก่นจันทร์เจริญ ประธานฝ่ายสงฆ์ ร่วมกันจัดงานสืบสานประเพณีตักบาตรขนมครกน้ำตาลทราย ขึ้นในวันที่ 20 กย.58 เริ่มตั้งแต่เวลา 08.00 น.เป็นต้นไป ณ วัดแก่นจันทร์เจริญ เพื่อสืบสานประเพณีท้องถิ่นที่มีแห่งเดียวในประเทศไทย ในงานมีการแข่งขันกินขนมครก ปิดตาป้อนขนมครก แข่งขันขูดมะพร้าว ฯลฯ


'ตักบาตรขนมครกน้ำตาลทราย' ประเพณีหนึ่งเดียวที่บางคนที

ทั้งนี้ ประเพณี ‘ตักบาตรขนมครกน้ำตาลทราย’ ได้สืบสานกันมารุ่นต่อรุ่น มีอายุ นับ 100 ปีแล้ว โดยท่านพระครูสุนธร สุตกิจ (หลวงพ่อโห้) อดีตเจ้าอาวาสวันแก่นจันทร์เจริญ (รูปที่ 7) เป็นผู้ฟื้นฟูประเพณีนี้ขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งแต่เดิมมีการตักบาตรขนมครกอย่างเดียว ทำตามบ้านผู้มีฐานะใน ต.บางพรม โดยพวกผู้หญิงจะมาหั่นต้นหอม ทำกับข้าว เจ้าภาพเลี้ยงเหล้ายาปลาปิ้งผู้ชายที่มาช่วยกันปอกมะพร้าว ขูดมะพร้าว โม่แป้งข้าวเจ้าที่หมักค้างทิ้งไว้ 1 คืน จนเกิดกรณีหนุ่มหล่อฐานะยากจน เกิดไปชอบลูกสาวคนสวยของบ้านที่เป็นเจ้าภาพ แล้วพากันหอบเสื้อผ้าหนีตามกันไป จนประเพณีหยุดชะงักไปพักหนึ่ง กระทั่งหลวงพ่อโห้ ท่านคิดฟื้นฟูขึ้นมาใหม่

"แม่ค้าพ่อค้าจะพายเรือมาจอดหน้าวัดแก่นจันทร์เจริญ แคะขนมครกขายผู้มาทำบุญ นำผลกำไรโดยไม่หักค่าใช้จ่าย ถวายวัดทั้งหมด แต่เนื่องจากขนมครกโบราณเป็นสูตรเค็ม ใส่กะทิผสมเกลือสมุทร หลวงพ่อโห้จึงคิดให้นำน้ำตาลทรายถวายพระด้วย" ผู้รู้ กล่าว.


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/526613
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ