ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ยลเสน่ห์วิถีชาวมอญ-สืบสานวัฒนธรรมแก่เก่า งานบุญเดือนสิบ "ลอยเรือสะเดาะเคราะห์"  (อ่าน 936 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

ยลเสน่ห์วิถีชาวมอญ-สืบสานวัฒนธรรมแก่เก่า
งานบุญเดือนสิบ "ลอยเรือสะเดาะเคราะห์" รับสิ่งดีงาม
   
สังขละบุรี อำเภอสุดแดนภาคตะวันตกของจังหวัดกาญจนบุรี  มีมนต์เสน่ห์ที่ทำให้หลายคนหลงไหล ที่มีทิวเขาเขียวชอุ่มเรียงรายสลับซับซ้อนยาวจนสุดลูกหูลูกตา สร้างธรรมชาติให้มีความสวยงาม  ท่ามกลางวิถีชีวิตของชาวไทย เชื้อสายมอญ ที่ดำรงชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย และยังคงรักษาขนบธรรม ประเพณีวัฒนธรรมอันแก่ของบรรพบุรุษ สืบทอดรักษาไว้จนถึงลูกหลานในปัจจุบัน  นอกจากสะพานไม้อุตตะมาณุสรณ์หรือสะพานมอญ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศและทั่วโลกแล้ว  อำเภอสังขละบุรี ยังมีประเพณีดั้งเดิมของชุมชนชาวไทยเชื้อสายมอญ ที่สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบันนี้นั่นคือ ประเพณีงานบุญเดือนสิบลอยเรือสะเดาะเคราะห์

 st12 st12 st12 st12

นางสาวอรัญญา เจริญหงษ์ษา  เลขานุการวัฒนธรรมตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี  กล่าวถึงประเพณีลอยเรือสะเดาะเคราะห์ ชาวไทยรามัญ อำเภอสังขละบุรีนี้ กำหนดจัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน ในวันขึ้น 14-15 ค่ำ และแรม 1 ค่ำ เดือน10ของทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการบูชาเทวดาที่อยู่ในน้ำ ในป่าและบนบก อีกทั้งเป็นการสืบสานประเพณีดั๋งเดิมของบรรพบุรุษ ตลอดทั้งเป็นการเผยแพร่ประเพณีลอยเรือสะเดาะเคราะห์ให้แก่ชุมชน ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ศึกษาเรียนรู้

โดยประเพณีดังกล่าว ซึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิเช่น การเจริญพระพุทธมนต์โดยพระสงฆ์ การบูชาเรือนำธงกระดาษและอาหารคาวหวาน 9 อย่าง ไปบูชาเรือ การสะเดาะเคราะห์ต่ออายุ โดยการนำธูป เทียน ตามกำลังวันเกิดไปไหว้และสะเดาะเคราะห์ ซึ่งจะมีการเผาธูปเทียนในวันสุดท้ายของงาน มีการเล่นโคม ปล่อยโคม การตักบาตรน้ำตาลทราย น้ำผึ้ง การเลี้ยงอาหารคาวหวานแก่ผู้มาร่วมงาน จากนั้นนำเรือไปลอยในแม่น้ำ บริเวณที่มีแม่น้ำสามสาย คือ แม่น้ำซองกาเรีย  แม่น้ำบิคลี่และแม่น้ำรันตี ไหลมาบรรจบกัน บริเวณนี้เรียกว่า"สามประสบ"

โดยใช้เรือยนต์ลากเรือไมไผ่ที่ใช้ทำพิธีลอยเรือสะเดาะเคราะห์นี้ ออกไปกลางอ่างน้ำ จากนั้นก็ผูกเรือไว้กับขอนใหญ่กลางอ่างเก็บน้ำ ถวายเรือและเครื่องเซ่นไหว้ให้กับเทวดาผู้ปกปักรักษาชาวมอญ เป็นอันเสร็จพิธีลอยเรือสะเดาะเคราะห์ของชาวมอญ ซึ่งประเพณีลอยเรือสะเดาะเคราะห์นี้ ยังคงมีไว้ให้เห็นที่อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรีนี้เท่านั้น



ประเพณีลอยเรือสะเดาะเคราะห์ของชาวมอญ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรีนี้..เริ่มจากบรรพบุรุษชาวมอญที่เมืองสังขละบุรี สืบทอดกันมา เมื่อครั้งพระเจ้าธรรมเจดีย์ ขึ้นครองราชย์ปกครองอาณาจักรมอญ เมืองหงสาวดี พระองค์ทรงเห็นพระภิกษุสามเณรในเมืองหงสาวดีมีความประพฤติย่อหย่อนต่อพระธรรมวินัย พระพุทธศาสนาในเมืองมอญเกิดมลทินด่างพร้อย

จึงมีพระราชประสงค์จะสังคายนาพระพุทธศาสนาในเมืองมอญเสียใหม่ เพื่อชำระหมู่พระภิกษุสงฆ์ในเมืองมอญให้มีความบริสุทธิ์ จึงมีพระราชโองการรับสั่งให้พระภิกษุสามเณรในเมืองมอญลาสิกขาเสียหมดทั้งประเทศ แล้วส่งชีปะขาวถือศีล8คณะหนึ่ง ซึ่งก็คืออดีตพระเถระผู้ทรงพระไตรปิฏก ทรงความรู้ ตั้งมั่นในศีล เดินทางไปยังประเทศศรีลังกา เพื่อให้ไปถือการอุปสมบทเป็นพระภิกษุใหม่จากคณะสงฆ์ในประเทศศรีลังกา เสร็จแล้วจึงเดินทางกลับมาเป็นอุปัชฌาย์ให้แก่คนมอญในเมืองหงสาวดี ประเทศมอญใหม่อีก


 :25: :25: :25: :25:

คณะของปะขาวนี้ เมื่อเดินทางไปถึงประเทศศรีลังกา ได้รับการอุปสมบทแล้ว ก็เดินทางกลับ ระหว่างทาง มีเรือสำเภาลำหนึ่งในจำนวน 2 ลำ โดนพายุพัดให้หลงทิศทาง ส่วนอีกลำหนึ่งเดินทางกลับถึงเมืองหงสาวดีโดยปลอดภัย เมื่อทราบถึงพระกรรณของพระเจ้าธรรมเจดีย์ พระองค์จึงมีรับสั่งให้ทำเรือจำลองขึ้นมา พร้อมบรรจุของเซ่นไหว้บวงสรวงเหล่าเทวดา

ประกอบด้วย ข้าวตอก ดอกไม้ ธูป เทียน ฉัตร ธง ผลไม้ ขนมชนิดต่างๆอย่างละ 1,000 ชิ้น ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ โดยทรงระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย บวงสรวง บูชาเหล่าเทวดาทุกหมู่เหล่า ช่วยปัดเป่าให้เรือสำเภาลำที่หลงทิศนั้น กลับมาอย่างปลอดภัย หลังจากที่พระองค์ทรงทำพิธีสะเดาะเคราะห์แล้ว อีกไม่กี่วันเรือสำเภาที่พลัดหลงก็เดินทางกลับมาถึงเมืองหงสาวดีอย่างปลอดภัย ตั้งแต่บัดนั้นมา คนชาวมอญจึงถือเอาเหตุการณ์นี้ ทำพิธีลอยเรือสะเดาะเคราะห์ โดยถือในกลางเดือนสอบของทุกๆปี มาตราบเท่าปัจจุบัน



สำหรับในปีนี้ วันจัดงานกับวันที่ 26-27-28 กันยายน 2558  จังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกับอำเภอสังขละบุรีและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกาญจนบุรี จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวและผู้สนใจ เดินทางไปเที่ยวชมงานประเพณีลอยเรือสะเดาะเคราะห์นี้ ณ บริเวณลานหน้าเจดีย์พุทธคยา วัดวังก์วิเวการาม ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรีในวันดังกล่าว เพื่อได้มีโอกาสได้สัมผัสกับประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวมอญที่ได้อนุรักษ์รักษาและสืบทอดกันต่อๆมาเป็นเวลานับร้อยปีแล้ว นอกจากจะได้อิ่มบุญกันแล้ว ยังได้ซึมซับวัฒนธรรมและความศรัทธาได้ไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว

ขอบตุณภาพข่าวจาก
http://www.banmuang.co.th/news/region/26908
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ