พิมพ์

[raponsan]

คาดใบเสมาโบราณ ขุดเจอหลังวัดที่อุดรฯ อายุกว่าพันปี

กรมศิลป์ คาด พระพุทรูปโบราณ-ใบเสมา ที่ขุดพบบริเวณ ป่าสาธารณะ หลังวัดป่าหนองเป่ง จ.อุดรฯ อยู่ในศตวรรษที่ 12-16 เป็นยุคทวารวดี มีอายุ 1,000-1,400 ปี โดยพบทั่วไปที่อุทยานภูพระบาท สันนิษฐานบริเวณดังกล่าวเคยเป็นวัด ...

กรณีมีชาวบ้านพบใบเสมาและพระพุทธรูปโบราณ ฝังดินบริเวณป่าสาธารณะหลังวัดป่าหนองเป่ง บ้านใหม่ หมู่ 14 ต.เมืองพาน อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี จำนวนมาก หลังช่างปั้นสัตว์ป่าหิมพานต์ ที่มาก่อสร้างศาลาวัด ฝันเห็นชายโบราณพาเดินเข้าไปในป่า และชี้จุดใบเสมา จึงชวนเจ้าอาวาสวัดไปดู และขุดพบใบเสมาและพระพุทธรูปโบราณจำนวนมาก ก่อนนำมาไว้ในศาลาวัด รอให้กรมศิลปากรมาตรวจสอบ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 ก.ย. ที่ศาลาวัดป่าหนองเป่ง บ้านใหม่ หมู่ 14 ต.เมืองพาน อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี นายสมคิด กุตัน ผญบ.บ้านใหม่ หมู่ 14 ต.เมืองพาน ได้เรียกประชุมชาวบ้านกว่า 300 คน เพื่อรับฟังการชี้แจง และแสดงความคิดเห็น โดยมี นายนวดล ป่าผึ้ง ปลัดเทศบาลตำบลเมืองพาน นายบัณฑิต ทองอร่าม หัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท ต.เมืองพาน อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี และเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร เข้าร่วมประชุมด้วย โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

ใบเสมาโบราณที่ขุดพบ หลังวัดที่อุดรฯ คาดอายุประมาณ 1,000-1,400 ปี

นายนวดล ป่าผึ้ง ปลัดเทศบาลตำบลเมืองพาน เปิดเผยว่า จากการประชุมชี้แจง และรับฟังความคิดเห็นชาวบ้าน เบื้องต้นสรุปว่า เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร ได้มีการให้ยุติการค้นหาวัตถุโบราณ เนื่องจากเจ้าหน้าที่จะเข้าสำรวจพื้นที่และตรวจสอบวัตถุโบราณที่ค้นพบ พร้อมทั้งลงทะเบียนวัตถุโบราณชนิดต่างๆ ที่ค้นพบ และการจัดเวรยามรักษาวัตถุโบราณและสถานที่ เพื่อป้องกันการลักขโมย พร้อมทั้งหารือการเก็บรักษาวัตถุโบราณ ซึ่งทางเทศบาลจะได้ทำหนังสือถึงกรมศิลปากรเพื่อขอวัตถุโบราณทั้งหมด เก็บรักษาไว้ในบริเวณวัดป่าหนองเป่ง เพื่อให้ชาวบ้าน ลูกหลาน ได้ศึกษา และพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยว โดยจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมสภา เสนอของบประมาณในการสร้างสถานที่เก็บรักษาวัตถุโบราณต่อไป

นายเสดียง คันธี อายุ 68 ปี อดีต ผญบ.บ้านใหม่ หมู่ 14 เล่าว่า เมื่อประมาณ 60 ปีที่ผ่านมา ได้มีชาวบ้านพบใบเสมา 3 ใบบริเวณดังกล่าว ต่อมามีเจ้าหน้าที่อำเภอบ้านผือเดินทางเข้ามาตรวจสอบ และนำใบเสมาโบราณ 1 ใบ ไปไว้ที่ศาลหลักเมืองจังหวัดอุดรธานี ใบเสมา 2 ใบได้ถูกคนร้ายลักไป แต่หลังจากนั้นประมาณ 20 ปี ก็มีคนนำใบเสมาที่ลักไปมาคืนไว้ที่ศาลเจ้าปู่ตา ประจำหมู่บ้าน โดยมีการเล่าลือกันว่า ผู้ที่ลักใบเสมาไป ประสบอุบัติเหตุ จึงนำใบเสมามาคืน

 

นายบัญฑิต ทองอร่าม หัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท กรมศิลปากร เปิดเผยว่า วัตถุโบราณที่ชาวบ้านพบ ลักษณะเป็นใบเสมาหินทราย สมัยทวารวดี พุทธศตวรรษที่ 12-16 อายุระหว่าง 1,000-1,400 ปี ซึ่งสามารถพบได้โดยทั่วไปในอุทยานภูพระบาท การปักใบเสมาในลักษณะเป็นการปักใบเสมาในพุทธศาสนา เป็นการกำหนดพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์เพื่อประกอบศาสนกิจในสมัยโบราณ รูปแบบใบเสมา คล้ายคลึงกับที่ขุดพบที่พุทธบาทบัวบาน และบริเวณอุทยานภูพระบาท ต.เมืองพาน บริเวณที่ขุดพบสันนิษฐานว่าเป็นวัด คำว่าพัทธสีมา หมายถึงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ หรือวัดในสมัยโบราณ ขณะนี้ได้ตรวจสอบวัตถุโบราณ บันทึก แจ้งไปยัง ผอ.สำนักศิลปากรที่ 9 ขอนแก่น เพื่อเสนออธิบดีกรมศิลปากรต่อไป.

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/528750