ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ชนทั้งหลายผู้แสวงหาทาง ไม่ฉลาดในธรรม ย่อมไม่รู้แจ้งนิพพานที่อยู่ใกล้  (อ่าน 1566 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28562
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
 

ชนทั้งหลายผู้แสวงหาทาง ไม่ฉลาดในธรรม ย่อมไม่รู้แจ้งนิพพานที่อยู่ใกล้
ผู้เลือกวิธี : ธรรมะยู-เทิร์น โดยอิทธิโชโต

    ชนทั้งหลายผู้แสวงหาทาง ไม่ฉลาดในธรรม ย่อมไม่รู้แจ้งนิพพานที่อยู่ใกล้
    (พุทธพจน์ : ปัคคัยหสูตร ๑๘/๑๔๒)

หลังจากลูกศิษย์คนหนึ่งแสวงหาแนวทางปฏิบัติมายาวนาน เธอเที่ยววิ่งเข้าวิ่งออกสำนักโน้น สำนักนี้ ไปหาอาจารย์ท่านนั้นท่านนี้ที่มีคนแนะนำว่าเก่งว่าดี หรือแม้กระทั่งตามหาพระอรหันต์ จนกระทั่งเริ่มค้นพบว่า แท้จริงแล้วการปฏิบัติทั้งหมดที่พระพุทธเจ้าสอน ต้องย้อนกลับเข้ามาดูตนเองเป็นสำคัญ เธอจึงหยุด และตั้งคำถามกับตัวเองว่า จะใช้วิธีไหนดีในการปฏิบัติอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะเห็นผล คือ ความทุกข์น้อยลง เกิดความสงบเย็นใจ ลดความขี้กังวล ความกลัวได้บ้างก็พอแล้ว

เราได้แต่บอกว่า ให้เลือกวิธีใดวิธีหนึ่ง เช่น อานาปานสติ (การกำหนดสติไว้กับลมหายใจเข้า-หายใจออก) บริกรรม พุทโธ (บริกรรมว่า ‘พุท’ ตอนหายใจเข้า และบริกรรม ‘โธ’ ตอนหายใจออก หรือบริกรรมพุทโธไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องคำนึงถึงลมหายใจ) ไม่ก็ มีสติระลึกรู้ทุกการเคลื่อนไหว ก็ได้


 :96: :96: :96: :96: :96:

เหล่านี้คืออุบายในการทำจิตให้นิ่ง เมื่อเลือกแล้วก็ขอให้ใช้วิธีใดวิธีหนึ่งอย่างต่อเนื่องไปก่อน ถ้ายังภาวนาไม่เก่ง ไม่ควรเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เพราะมันมีผลกับการภาวนาที่จะทำให้ไม่ก้าวหน้า เหมือนการทำอะไรสักอย่าง ยังทำไม่เสร็จก็เริ่มใหม่อีกแล้ว ถ้าเป็นหลักการภาวนา ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ถ้าจะเปลี่ยนก็ต่อเมื่อเข้าใจวิธีการภาวนานั้นแล้วจะไปลองวิธีอื่นๆ บ้าง ไม่เป็นปัญหา       

เพราะความเข้าใจในธรรมเป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตน หน้าที่ของนักภาวนาคือการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง โดยไม่คาดหวัง และระลึกให้ได้ว่า เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตที่ต้องทำ จนกว่าเราจะได้เรียนรู้และเข้าใจมันอย่างแท้จริง


 st12 st12 st12 st12 st12

ขออย่าไปเที่ยวเปลี่ยนอะไรบ่อยๆ อดทน พยายามทำอยู่อย่างเดียวเท่านั้น ถ้าปฏิบัติจนช่ำชองแล้ว เก่งแล้ว จะเปลี่ยนวิธีการภาวนาไม่มีปัญหา หรือจะไปเรียนรู้ว่าการภาวนาอย่างอื่นๆ เขาปฏิบัติกันอย่างไร ก็ไปเรียนรู้ได้ เพราะถึงที่สุดแล้วจะใช้เทคนิกการภาวนาแบบไหนก็ตาม สุดท้ายก็ลงมาสู่จุดเดียวกันทั้งหมด ถ้าเข้าใจหลักการภาวนาอย่างแท้จริง

แต่ถ้ายังไม่เข้าใจในการปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งจนทะลุปุโปร่ง ก็ไม่เกิดประโยชน์ ครูบาอาจารย์ท่านบอกว่า คนไม่เข้าใจเปรียบเหมือนคนไม่มีความรู้ และโอกาสที่จะเดินผิดมันร้อยเปอร์เซ็นต์เลยนะ ไม่ใช่เปอร์เซ็นต์เดียว

แล้วถ้าเดินผิด ก็อย่าโทษการปฏิบัติวิธีนั้นๆ อย่าโทษครูบาอาจารย์ หรืออย่าโทษสิ่งใดๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นงานยุ่ง ต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัวทำให้ปฏิบัติได้น้อย กรุณาอย่าโทษอย่างอื่น เพราะการโทษอย่างนั้น อย่างนี้ มันไม่ใช่วิถีของนักปฏิบัติที่เขาจะคิดกัน


 st11 st11 st11 st11

วิถีของนักปฏิบัติก็คือ อะไรที่เป็นคุณ เป็นประโยชน์ เป็นคุณงามความดี ก็จะยิ่งทำ ยิ่งปฏิบัติ แต่ถ้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตามความพอใจของตัวเอง นั่นยังไม่ใช่ ถ้าไม่ใช่แสดงว่าไม่ถูก โอกาสที่จะเดินผิด ไปไม่ถึงเป้าหมายนั้นแน่นอน

ก็ต้องกลับมาคิดใหม่ คิดให้ถูก แล้วอาศัยกุศโลบายอย่างใดอย่างหนึ่งในการเดินอย่างต่อเนื่อง แล้วจะพบคำตอบด้วยตนเอง


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20151027/215840.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0

          อานาปานสติ กรรมฐานของ มหาบุรุษ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา