
ท่าน aaaa ที่มาแนะนำครับ
แต่ในเมื่อกรรมฐาน มุ่งตรงที่ ความหลุดพ้น ทำไมต้องมีข้อจำกัดด้วยเรื่อง หยุมหยิม แบบนี้ ทั้ง ๆ ที่ดูแล้วเป็นเพียงแค่เปลือก การไม่ขึ้นกรรมฐาน ก็ไม่ได้บ่งบอกว่า ผู้เรียนกรรมฐาน ไม่ได้มีความเคารพไม่ใช่หรือครับ หรือ การขึ้นกรรมฐาน ก็ไม่ได้บอกว่า ผู้เรียนกรรมฐาน จะเคารพผู้สอนเสมอไป ไม่ใช่หรือครับ
ดังนั้นเรื่องการขึ้นกรรมฐาน หรือ ไม่ขึ้นกรรมฐาน ทำไม ต้องกำหนดกฏเกณฑ์ ให้เป็นเครื่องขวางธรรม ดูเหมือน สีลัพตปรามาส มากกว่า
เหมือนคนไหว้พระพุทธรูป แล้วไป ยึดอยู่แค่ ปูน หิน ทองเหลือง ธาตุต่าง ๆ
หรือเหมือนคน ที่ทำใจ ว่ากระถางต้นไม้ เป็น ดั่งพระพุทธรูป อย่างนี้ นะครับ
ความหมายที่แท้ของการเรียนกรรมฐาน ก็เพื่อขจัดขัดเกลากิเลส ไม่ใช่หรือครับ ดังนั้นผมมีความปรารถนา ที่จะดำเนินตามวิธีการของกรรมฐาน ข้อปฏิบัติ ต่อการละกิเลส ไม่ใช่ เรื่องการขึ้นกรรมฐาน
ผมมองว่า การขึ้นกรรมฐาน เหมือนการครอบครู มีไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เรียนกรรมฐาน จากครูท่านนี้ไป เคารพเรียนกับครูท่านอื่น
ถ้าหากวาสนา ผมได้ลองเรียนแล้ว ไม่สามารถไปได้ในสายนี้ ผมก็ต้องหาครูอาจารย์เพิ่ม แต่ ก็จะมาติดเรื่องการขึ้นกรรมฐานที่ไม่สามารถให้เราไปเรียนกรรมฐาน สายอื่น ๆ ใช่หรือไม่ ครับ
ที่จริงผมอยากให้ทาง กรรมฐานสายนี้ ยกเลิก การขึ้นกรรมฐานที่ เป็นระบบ การขึ้นถาด แต่ให้เปลี่ยนเป็นการแสดงออกถึงการถึงพระรัตนตรัย เป็นทางการ คือ เมื่อเคารพพระรัตนตรัย ก็แค่สาม ไม่ต้องเป็นห้า เพราะวิชากรรมฐาน ก้๕ือ พระธรรม และ ครูผู้บอกพระกรรมฐาน ก็คือพระสงฆ์ ดังนั้น ความผูกพันของการถึงพระรัตนตรัย อย่างนี้ ก็จะครอบคลุมระบบของกรรมฐาน ทั้งหมดทุกสาย ในพุทธศาสนา ไม่ต้องแบ่งว่าเป็นสำนักนี้ สำนักนั้น แต่เป็นกลาง ๆ เหมือนกันทุกสำนัก ใช่หรือไม่ ครับ
ผมคิดว่า การเลิกระบบ การขึ้นกรรมฐานนั้น น่าจะดีกว่า สำหรับท่านที่มาเรียนกรรมฐาน เพราะว่า ถ้าเกิดผมไม่อยากเรียน ก็เท่ากับไม่ต้องมา ทรยศ ทรพี เนรคุณ ต่อครูผู้บอกกรรมฐานใช่หรือไม่ ครับ
ถ้าเป็นอย่างนี้ ความผูกพัน ไม่มีตั้งแต่ต้น น่าจะดีกว่า เพราะว่า แท้จริงแล้ว ความผูกพัน เป็นการสร้างตัณหา ที่เรียกว่า เปมัง ( ความรัก ) อันนำไปสู่ความลำเอียง ผมมองว่าครูผู้สอนกรรมฐาน ไม่สอนกรรมฐาน คนที่ไม่ขึ้นกรรมฐาน เป็นการลำเอียง ด้วย ฉันทาคติ และ โมหาคติ ครับ ซึ่งไม่น่าจะนำมาสู่การสิ้นกิเลส เพราะมันทำให้เกิดความ มานะ ว่า นี้ ครูฉัน นั้นอาจารย์เรา ใช่หรือไม่ ครับ
( เอาเท่านี้ก่อน นะครับ อยากฟังความเห็น ของศิษย์นี้ คิดกันอย่างไง )