« เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2015, 07:46:35 am »
0
รื้อแล้ว! "สะพานลูกบวบ" หลังสะพานมอญซ่อมเสร็จ เหลือเพียงคำขอบคุณและความทรงจำ
เมื่อวานนี้ (20 พฤศจิกายน 58) ทางวัดวังก์วิเวการาม ร่วมกับ หน่วยงานท้องถิ่น และชาวบ้านในพื้นที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ได้ร่วมกันรื้อ "สะพานแพลูกบวบ" ออก ภายหลังจากที่ พระมหาสุชาติ สิริปัญโญ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม ทหารชุดเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ ฝ่ายปกครองอำเภอสังขละบุรี ท้องถิ่น ชุมชน และชาวบ้านในพื้นที่ ได้ประชุมหารือกรณี "สะพานแพลูกบวบ" ซึ่งปัจจุบันมีสภาพผุพัง และชำรุดทรุดโทรมลงไปอย่างมาก จนเกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมได้ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลลอยกระทงที่จะมาถึงในวันที่ 25 พ.ย. 58
โดยทุกฝ่ายเกรงว่านักท่องเที่ยวจะขึ้นไปบนสะพานลูกบวบเพื่อลอยกระทงในช่วงเวลาเดียวกันเป็นจำนวนมากประกอบกับน้ำในแม่น้ำซองกาเรียมีปริมาณสูงขึ้นมาก ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดเหตุไม่คาดคิดได้ อันจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวของ อ.สังขละบุรี ได้ในที่สุด ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ประกอบกับวัตถุประสงค์ที่สร้างสะพานลูกบวบขึ้นมาเพื่อใช้เป็นการชั่วคราว ในขณะที่ สะพานอุตตมานุสรณ์ หรือ สะพานมอญ ยังบูรณะซ่อมแซมไม่แล้วเสร็จ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในการเดินทาง ซึ่งปัจจุบันสะพานมอญได้ถูกบูรณะซ่อมแซมด้วย ทหารช่าง กองพลทหารราบที่9 ค่ายสุรสีห์ ร่วมกับ ชาวไทยเชื้อสายมอญในพื้นที่ และเปิดใช้งานมาตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม 2557 ซึ่งเป็นระยะเวลากว่า 1 ปีแล้ว ทุกฝ่ายจึงเห็นพ้องต้องกันว่า ควรทำการรื้อถอนสะพานลูกบวบออก ซึ่งจะทำให้ทัศนียภาพบริเวณโดยรอบมีความงดงามมากขึ้น และสะพานมอญดูโดดเด่นงดงามมากขึ้นเหมือนในอดีตที่ผ่านมา
จึงได้ร่วมกันดำเนินการรื้อสะพานลูกบวบฝั่งมอญด้วยการตัดทอนเป็นท่อนๆ รวม 3 ท่อน และนำไปจัดเก็บไว้ที่บริเวณริมตลิ่งฝั่งมอญ บ้านวังกะ หมู่ 2 ต.หนองลู ส่วนสะพานลูกบวบฝั่งตัวอำเภอ บ้านไหล่น้ำ หมู่ 3 ต.หนองลู ยังไม่สามารถทำการรื้อถอนได้ เนื่องจากยังไม่มีพื้นที่ที่จะจัดเก็บ เพราะติดปัญหาเรือแพที่จอดกีดขวางอยู่บริเวณริมตลิ่งเป็นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้หาทางดำเนินการรื้อถอนต่อไป
สำหรับ "สะพานลูกบวบ" เป็นสะพานที่ใช้เวลาในการสร้างเพียงแค่ 6 วันเท่านั้น โดยเริ่มลงมือก่อสร้างวันแรกเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2556 นับเป็นสะพานแห่งแรงศรัทธาที่ถูกสร้างขึ้นจากความร่วมมือ ร่วมใจของหลายๆ ฝ่าย ทั้งชาวไทยเชื้อสายมอญ กำลังทหารจากกองพลทหารราบที่9 ค่ายสุรสีห์ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 134 อาสาสมัครรักษาดินแดน อ.สังขละบุรี รวมทั้งนักเรียนจากโรงเรียนวัดวังก์วิเวการาม และนักท่องเที่ยวที่มีจิตอาสา มาร่วมแรงร่วมใจกันคนละไม้ละมือ เพื่อให้ชาวสังขละบุรีทั้ง 2 ฝั่ง ได้ใช้ในการสัญจรไป-มา ข้ามแม่น้ำซองกาเรีย เป็นการชั่วคราว เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของชาวบ้าน เมื่อครั้งที่สะพานมอญถูกน้ำป่าพัดขาดลงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2556 โดยที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างเลยแม้แต่บาทเดียว ถือเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของอำเภอสังขละบุรี ที่ต้องบันทึกไว้เป็นความทรงจำ
แต่เมื่อสร้างเสร็จ สะพานลูกบวบ กลับไม่ได้ใช้ประโยชน์เพียงแค่ชาวบ้านสัญจรไป-มาเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือน อ.สังขละบุรี เพื่อสัมผัสกับสะพานลูกบวบที่น่าทึ่งและอัศจรรย์แห่งนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้การท่องเที่ยวของ อ.สังขละบุรี ซบเซาลงอย่างมาก ภายหลังจากที่สะพานมอญขาดลง สะพานลูกบวบจึงเหมือนเป็นการฟื้นชีวิตให้กับการท่องเที่ยวของ อ.สังขละบุรี ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
สำหรับ สะพานลูกบวบ สร้างขึ้นคู่ขนานกับ สะพานมอญ มีระยะทางประมาณ 250 เมตร ช่องทางเดินกว้าง 2 เมตร ทุ่นลูกบวบลอยน้ำกว้าง 7.5 เมตร ระยะห่างลูกบวบ 1.00-1.50 เมตร ทุ่นลูกบวบลอยน้ำ 120 ทุ่น ส่วนจุดศูนย์กลางบริเวณที่สะพานขาดและเป็นเส้นทางสำหรับเรือวิ่งผ่าน ใช้วิธียกสูงขึ้นเหนือน้ำประมาณ 2 เมตร ซึ่งเป็นรูปแบบของการสร้างสะพานตามแบบวิถีชีวิตของชาวบ้านอย่างแท้จริง ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1448080390