ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: จี้ตรวจมูลนิธิประหลาด! อ้างพระเจ้าอโศกกลับชาติ แต่ขายของเหมือนแชร์ลูกโซ่  (อ่าน 964 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



จี้ตรวจมูลนิธิประหลาด! อ้างพระเจ้าอโศกกลับชาติ แต่ขายของเหมือนแชร์ลูกโซ่

ชาวบ้านที่ลำพูน แจ้งความพร้อมขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ มูลนิธิประหลาด ตัวประธานมีพฤติกรรมเหมือนเจ้าลัทธิ อ้างเป็นพระเจ้าอโศกกลับชาติ แตกฉานพระไตรปิฎก ครอบครองพระอรหันต์โบราณ 28 องค์ แต่ระดมหุ้นให้ซื้อสินค้าเหมือนแชร์ลูกโซ่

จากกรณี วันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมา สภ.เหมืองจี้ อ.เมือง จ.ลำพูน นายอภินันท์ พิงคะสัน ผู้ใหญ่บ้านบ้านหนองไซ หมู่ 14 ต.ป่าสัก อ.เมืองลำพูน พร้อมด้วย นายเลิศฤทธิ์ มะโน ทนายความ และชาวบ้านกว่า 20 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ ทิพยผลาผลกุล รอง ผกก.สส.สภ.เหมืองจี้ เพื่อแจ้งความให้ตรวจสอบมูลนิธิอโศกมุนีแสงธรรม ตั้งอยู่เลขที่ 158 บ้านหนองไซ หมู่ 14 ต.ป่าสัก อ.เมืองลำพูน โดยเฉพาะนายสินธพ ทรวงแก้ว ที่อ้างว่าเป็นผู้ดูแลมูลนิธิ และอ้างเป็นผู้สะสมโบราณวัตถุจำนวนมาก ทั้งยังเขียนตำนานพระพุทธประวัติฉบับพิเศษพิสดาร มีการโน้มน้าวให้ผู้มาเยือนเกิดความศรัทธา แล้วบริจาคเงินใส่ในบาตรพระ ที่เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่อายุนานพันกว่าปี โดยพระพุทธรูปดังกล่าวเป็นพระอรหันต์ 28 องค์จากอินเดีย ไม่ได้สร้างเองเป็นพระพุทธรูปที่อยู่บนดอยไซแห่งนี้มานาน และอ้างว่าตนเองมีบุญบารมีเป็นผู้เก็บพระพุทธรูปไว้ได้เพียงผู้เดียว ซึ่งชาวบ้านไม่เชื่อว่าเป็นจริง


 :96: :96: :96: :96:

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อตอนบ่ายวันที่ 9 ธ.ค. นายเลิศฤทธิ์ มะโน ทนายความ เปิดเผยว่า ตนจะเดินหน้าจี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นทางอำเภอหรือสำนักพุทธศาสนาที่มีหน้าที่โดยตรงเข้าตรวจสอบมูลนิธินี้แห่งให้ได้ เพราะเป็นเรื่องที่ชาวพุทธรับไม่ได้ โดยที่ผ่านมาได้ยื่นเรื่องไปที่ศูนย์ดำรงธรรมลำพูนไปแล้ว ทราบว่านายณรงค์ อ่อนสอาด ผวจ.ลำพูน มอบหมายให้กับทางอำเภอเมืองลำพูนเข้าดำเนินการแล้ว

"ที่เราร้องขอให้ตรวจสอบนั้น มี 4 ประเด็นด้วยกัน ที่เกี่ยวกับนายสินธพ ทรวงแก้ว ประธานมูลนิธิอโศกมุนีแสงธรรม เช่น อวดอ้างเปรียบเทียบตนเป็นพระเจ้าอโศกมหาราชกลับชาติมาเกิด สามารถอ่านคัมภีร์พระไตรปิฎกจบ 6 รอบ จนเป็นโสดาบันเหนือพระสงฆ์ ประเด็นที่ 2 โจมตีใส่ร้ายพระภิกษุสงฆ์พระเถระในพุทธศาสนาว่าเป็นพระปลอม พระประธานในพระวิหารต่างๆ เป็นเพียงแค่อนุสาวรีย์ ไม่ต้องกราบพระสงฆ์ ไม่ให้เข้าวัดฟังเทศน์ฟังธรรมบิดเบือนทำลายพระธรรม ประเด็นที่ 3 ประกาศเชิญชวน เรี่ยไร ให้ประชาชนเข้านับถือลัทธิ และระดมทุนเพื่อจัดซื้อที่ดินสร้างกู่พระอรหันต์ อันมีลักษณะเป็นการหลอกลวงและฉ้อโกงประชาชน และประเด็นที่ 4 ดำเนินธุรกิจแบบบอกรับสมาชิกโดยให้สมาชิกนั้นเปิดบัญชี และให้ซื้อหุ้น หุ้นละ 3,500 บาทแล้วทำบัตรเอทีเอ็มและมอบบัตรเอทีเอ็มพร้อมรหัสให้กับมูลนิธิฯ จากนั้นสมาชิกจะได้อาหารเสริมบำรุงร่างกายคนละ 1 ชุด/หุ้น ทุกวันอาทิตย์สมาชิกจะต้องไปลงลายมือชื่อเพื่อเข้ารับฟังการบรรยาย เพื่อขอรับเงินสดครั้งแรกหลังจากเป็นสมาชิกแล้ว 1,000 บาท และหากสมาชิกคนไหนไม่ชักชวนคนอื่นมาร่วมเป็นสมาชิกคนต่อไปหรือไม่เพิ่มหุ้นมูลนิธิจะงดเงินปันผลทันที สมาชิกบางรายไม่สามารถที่จะดำเนินการได้หรือปฏิบัติตามเงื่อนไขได้ จึงเกิดความเดือดร้อนขึ้นดังกล่าว"

 :73: :73: :73: :73:

นายเลิศฤทธิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตรวจสอบที่ตั้งของมูลนิธิฯ ว่า บุกรุกป่าด้วยหรือไม่ เพราะในโฉนดที่ดิน อนุญาตถูกต้องที่ 5 ไร่ 2 งาน กับอีก 73 ตารางวา แต่ทางมูลนิธิให้คนงานไปล้อมรั้วไว้กว่า 7 ไร่ ที่อยู่บริเวณป่าดังกล่าว มูลนิธิฯ ล้อมรั้วเท่ากับฮุบที่ดินด้วยหรือไม่ขอให้ตรวจสอบด้วย ซึ่งการที่ตนเป็นตัวแทนชาวบ้านออกมาเคลื่อนไหวเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นชาวพุทธคนหนึ่ง ไม่อยากให้ศาสนาถูกบิดเบือนและเสื่อมไป โดยเฉพาะอ้างว่าตัวเองอยู่เหนือพระสงฆ์ มันไม่ถูกต้อง

ทางด้าน นายอุบลพันธ์ ขันผนึก ผู้อำนวยการสำนักพุทธศาสนาจังหวัดลำพูน ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า เรื่องนี้ตนจะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันเข้าไปตรวจสอบ แต่ว่าภายในเดือนนี้คงไม่ทัน เพราะว่าตนติดราชการยาวไปถึงสิ้นเดือน ส่วนกรณีที่มีการร้องมา ทั้งการจดทะเบียนมูลนิธิว่าถูกต้องหรือไม่ การยืนยันที่จะทำตามเจตนารมณ์ของมูลนิธิหรือไม่ หากฝ่าฝืนก็มีความผิด รวมถึงการเรี่ยไร ได้ขออนุญาตสำนักงานจังหวัดหรือไม่ มีการละเมิดบุคคลอื่นโดยเฉพาะพุทธศาสนาด้วยหรือไม่ หากไปละเมิดก็ผิด ส่วนเรื่องของพระธรรมวินัยนั้นคงทำอะไรไม่ได้เพราะเขาไม่ใช่พระ ซึ่งผู้ที่เสียหายไม่ว่าจะเป็นบุคคลหรือใครก็ตามที่โดนหลอกลวง สามารถที่จะดำเนินการทางกฎหมายได้


 :91: :91: :91: :91:

"สำหรับพระพุทธรูป ที่อ้างว่าอายุ 1,600 ปีนั้น จะประสานกับสำนักโบราณคดีกรมศิลปากร เข้าตรวจ ซึ่งจะรู้เลยว่าพระพุทธรูปที่ตั้งอยู่นั้น เป็นของเก่าแก่ หรือสร้างขึ้นมาเองเพื่อการใด มีการหลอกลวง มีบุคคลได้รับความเสียหายหรือไม่ ก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย หากใครคิดว่าตัวเองถูกหลอกลวง หรือถูกฉ้อโกง สามารถที่จะแจ้งความได้" นายอุบลพันธ์ กล่าว.


ขอบคุณภาพข่าวจาก
https://www.thairath.co.th/content/546791
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ