ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ถวายเพลิงพระศพ′สังฆราชลาว′20ธ.ค. ปชช.แต่งชุดขาวร่วมขบวนยาว′5′กิโลเมตร  (อ่าน 929 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29345
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



ถวายเพลิงพระศพ ′สังฆราชลาว′ 20 ธ.ค. ปชช.แต่งชุดขาวร่วมขบวนยาว ′5′ กิโลเมตร

พระอาจารย์ ดร.บุญมา สีมมาพรหม รองประธานองค์การพุทธศาสนาสัมพันธ์ลาว(อพส.) สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชน(สปป.)ลาว เปิดเผยถึงความคืบหน้าการถวายเพลิงพระศพพระอาจารย์ใหญ่ดร.มหาผ่อง ปิยะทีโร (สะมาเลิก) (พระสังฆราชลาวรูปที่ 4) อดีตประธาน อพส. อดีตเจ้าอาวาสวัดองค์ตื้อ นครหลวงเวียงจันทร์ ว่า ในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ จะมีการถวายเพลิงพระศพพระอาจารย์ใหญ่ดร.มหาผ่อง พระสังฆราชลาวรูปที่ 4 โดยในวันที่ 19 ธันวาคม นายจูมมะลี ไซยะสอน ประธานประเทศ สปป.ลาว ถวายภัตตาหารเพลพระภิกษุ 101 รูป และวันที่ 20 ธันวาคม เวลา 12.30 น. เคลื่อนสรีระสังขารพระอาจารย์ใหญ่ดร.มหาผ่อง จากวัดองค์ตื้อไปยังลานพระธาตุหลวง

โดยมี 3 ขบวน และมีพุทธศาสนิกชนทุกแขวงแต่งกายชุดขาวร่วมขบวนยาวกว่า 5 กิโลเมตร คาดว่างานถวายเพลิง จะมีผู้มาร่วมหลายหมื่นคน จากนั้น เวลา 14.30 น. ดร.พันคำ วิภาวัลย์ รัฐมนตรีศึกษาและกีฬา กล่าวสุนทรพจน์ ถึงชีวประวัติของพระอาจารย์ใหญ่ ดร.มหาผ่อง เวลา 14.45 น. คณะสงฆ์กล่าวไว้อาลัย ตามมาด้วยการแสดงพระธรรม เทศนา โดยพระมหาเวท เมศนัย ประธานอพส. และเวลา 15.40 น.พระสงฆ์สวดทักษิณานุปทาน ถวายผ้าไตรจีวร คณะสงฆ์ถวายดอกไม้จันทน์ ต่อด้วยประธานประเทศ คณะรัฐมนตรี คณะทูตานุทูต แม่ชี และประชาชนทั่วไป ถวายดอกไม้จันทน์ และในเวลา 21.00 น. จะมีพิธีถวายเพลิง


พระอาจารย์มหางอน ดำลงบุญ(ขวา) ถ่ายรูปหน้า เมรุ ณ ลานพระธาตุหลวง

พระอาจารย์ ดร.บุญมา กล่าวต่อว่า พระอาจารย์ใหญ่ดร.มหาผ่อง เป็นพระสงฆ์ต้นแบบ ที่ทำงานหนักทั้งด้านก่อสร้าง ด้านการเผยแผ่ และมีวิสัยที่สมถะ แม้มีอายุพรรษามากแล้ว ก็ยังทำงานเพื่อพุทธศาสนาไม่เคยขาด ถึงแม้อาพาธหากมีกิจนิมนต์ ก็ต้องไป เพราะท่านกล่าวอยู่เสมอว่า ถึงจะตาย ก็ตายเพื่อชาติ เพื่อศาสนา ซึ่งพระแบบนี้หายากมาก ส่วนความสมถะของท่านนั้น เมื่อมีญาติโยมมาถวายปัจจัย ท่านจะบริจาคให้เป็นของสงฆ์ ไม่เคยสะสมทรัพย์สิน กล่าวได้ว่าท่านเป็นพระอริยะโดยแท้

 :25: :25: :25: :25:

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับชีวประวัติของพระอาจารย์ใหญ่ดร.มหาผ่อง เกิดเมื่อวันที่ 10 เมษายน พ.ศ.2459 ที่ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ประเทศไทย ได้บรรพชาและอุปสมบทที่วัดโพธิ์ศรี อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2479 และได้เข้ามาจำพรรษาที่วัดชนะสงคราม บางลำพู โดยญาติพี่น้องได้สำทับว่า หากไม่ได้เป็นมหาเปรียญ อย่าได้กลับ จ.อุบลราชธานี ท่านจึงทุ่มเทเรียนปริยัติธรรมที่วัดชนะสงครามอย่างเต็มที่ จนสามารถสอบได้เปรียญธรรม 6 ประโยค เข้ารับพระราชทานพัดเปรียญจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล (รัชกาลที่ 8) ใน พ.ศ. 2489


พระอาจารย์ใหญ่ดร.มหาผ่อง ปิยะทีโร (สะมาเลิก)

จากนั้นได้ทำหน้าที่สอนพระปริยัติธรรมที่วัดชนะสงครามอีก 6 ปี รวมเวลาที่เป็นนักเรียนและครูที่วัดชนะสงคราม 16 ปี หลังจากนั้นได้เข้าร่วมขบวนปลดปล่อยประเทศลาวอย่างเต็มตัว และอยู่ฝั่ง สปป.ลาว นับตั้งแต่ พ.ศ.2495 เป็นต้นมา จนกระทั่ง พ.ศ.2498 จึงได้รับอาราธนาให้ไปสอนหนังสือที่วัดพระเจ้าองค์ตื้อ นครหลวงเวียงจันทน์  และ พ.ศ.2500 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะเมืองโพนทอง ครั้น พ.ศ.2515 จึงได้เลื่อนเป็นเจ้าคณะแขวงจำปาศักดิ์

 st12 st12 st12 st12

ต่อมาในปี พ.ศ.2519 ท่านได้รับนิมนต์ให้ไปดำรงตำแหน่งรองประธานศูนย์กลาง อพส. ประจำ ณ วัดพระเจ้าองค์ตื้อ นครหลวงเวียงจันทน์ ณ ที่แห่งนั้น ได้สร้างผลงานโดดเด่นขึ้นมาในโลกพระพุทธศาสนา คือการประสานงานรอมชอมพระสงฆ์ 2 นิกาย อันได้แก่ มหานิกายและธรรมยุติกนิกาย ซึ่งแตกแยกมานาน ให้สมานฉันท์ไม่มีนิกายในลาว ในปีพ.ศ.2553 พระมหาวิจิตร วีรญาโณ (สิงหะราช) ประธานศูนย์กลาง อพส. รูปที่ 3 ได้ถึงแก่มรณภาพลง ท่านจึงได้รับการยกย่องขึ้นดำรงตำแหน่งประธานศูนย์กลาง อพส. เป็นรูปที่ 4 ซึ่งตำแหน่งนี้เทียบเท่ากับตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชของไทย ในวันที่ 7 ตุลาคม 2558 เวลา 17.11 น. ท่านได้ละสังขารลง สิริรวมอายุ 100 ปี 6 เดือน 81 พรรษา 


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1450410352
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ