พิมพ์

[raponsan]

พระสำนักสงฆ์คลองดินดำ ผวาถูกแก๊งมอดไม้คุกคาม.!

พระและแม่ชีจากสำนักสงฆ์คลองดินดำ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา บุกร้องขอความช่วยเหลือจากตำรวจกองปราบปราม หลังถูกผู้มีอิทธิพลแก๊งมอดไม้เถื่อนตามคุกคามข่มขู่ทำร้ายร่างกาย

เมื่อวันที่18ธ.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พระธีรภาพ ธนปุณฺโณ หัวหน้าสำนักสงฆ์คลองดินดำ ต.ระวิง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา พร้อมด้วยพระลูกวัดและแม่ชี จำนวน4รูป เดินทางเข้าแจ้งความ ร.ต.อ.เอกรัตน์ ขวัญฤกษ์ พนักงานสอบสวน กก.3บก.ป. หลังถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลคุกคามข่มขู่จะทำร้ายพระลูกวัดและแม่ชีภายในที่พักสงฆ์ฯ จนเกิดความหวาดกลัวและไม่มั่นใจต่อความปลอดภัยในชีวิต โดยได้นำเอกสารหลักฐานและแผ่นซีดีบันทึกภาพวิดีโอกลุ่มชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่ง ขณะกำลังพูดจาข่มขู่พระลูกวัด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาไม่นานนี้ มามอบให้เพื่อประกอบการพิจารณา

ด้าน พระธีรภาพ กล่าวว่า สำนักสงฆ์คลองดินดำ เป็นสถานที่ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ และเข้าร่วมโครงการพุทธอุทยาน ปัจจุบันมีพระลูกวัด8รูป เณร1 รูป แม่ชี2รูป และผู้ที่มาปฏิบัติธรรมอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมาได้มีชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่ง พกพาอาวุธมีดและปืนเข้ามาตั้งวงดื่มสุรา มั่วสุมยาเสพติด ส่งเสียงดัง รวมถึงใช้อาวุธปืนยิงทำร้ายสุนัข ทำลายทรัพย์สิน และใช้ระเบิดสร้างสถานการณ์ความรุนแรงก่อกวนในพื้นที่ของสำนักสงฆ์ฯ เมื่อเข้าไปตักเตือนก็ถูกท้าตีท้าต่อย ข่มขู่จะทำร้ายร่างกาย จนทำให้พระและแม่ชีที่พักอยู่ในสำนักสงฆ์ดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนและหวาดกลัว

พระธีรภาพ กล่าวต่ออีกว่า ทั้งนี้ เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นหลังจากที่มีผู้มีอิทธิพลรายหนึ่งซึ่งไม่ทราบชื่อนามสกุล เข้ามาครอบครองพื้นที่และหาผลประโยชน์จากพื้นที่ของที่สำนักสงฆ์ฯ เนื่องจากบริเวณด้านหลังของที่สำนักสงฆ์ฯเป็นที่ตั้งของน้ำตกคลองดินดำ นอกจากนี้ ผู้มีอิทธิพลดังกล่าวยังใช้ถนนภายในวัดเป็นเส้นทางในการลำเลียงไม้ผิดกฎหมายออกจากพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง และมีการติดต่อเข้ามาเจรจาเพื่อขอแบ่งผลประโยชน์จากเงินบริจาค ตนจึงได้ตอบปฏิเสธกลับไป ทำให้ผู้มีอิทธิพลดังกล่าวไม่พอใจสั่งให้พระและแม่ชีในที่อยู่ในสำนักสงฆ์คลองดินดำทั้งหมดย้ายไปหาที่อยู่ใหม่ แต่ตนไม่ยอม จึงทำให้ถูกกลั่นแกล้งและส่งคนมาข่มขู่ต่างๆนาๆตลอดระยะเวลา2ปี ที่ผ่านมา

ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้เคยไปยื่นหนังสือร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ ทั้ง สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.นครราชสีมา กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค3และศูนย์ดำรงธรรม จ.นครราชศรีมา มาแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับความคืบหน้า อีกทั้งหลังจากที่เข้าร้องทุกข์แต่ละครั้งก็จะมีกลุ่มชายฉกรรจ์เข้ามาข่มขู่หรือสร้างสถานการณ์ความรุนแรงในทุกๆครั้งที่มีการร้องเรียน จึงได้รวมตัวกันมาเข้าขอความเป็นธรรมกับทางกองปราบปรามในวันนี้ เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้รับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณา พร้อมสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมดเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีการกระทำที่เข้าข่ายผิดต่อข้อกฎหมายจริงตามที่ถูกกล่าวหา ก็จะเชิญตัวผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาทำการสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/crime/367909