ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ปิดหู ปิดตา ปิดปาก  (อ่าน 1063 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ปิดหู ปิดตา ปิดปาก
« เมื่อ: ธันวาคม 24, 2015, 08:01:08 am »
0



ปิดหู ปิดตา ปิดปาก

เวลาท่านเห็นลิงสามตัวในภาพนี้แล้ว ท่านคิดถึงอะไร??.... ​

หลาย ๆ ท่านจะนึกถึงการตีความทางการเมืองที่หมายถึงการจำกัดเสรีภาพ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านของการรับรู้ด้วยหู การมองดูด้วยตา หรือการแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี จนกระทั่งเจ้าลิงสามตัวนี้ถูกมองว่า เป็นสัญลักษณ์ในด้านการเมืองต่อต้านการลิดรอนสิทธิเสรีภาพในทุกรูปแบบก็คงไม่ผิด

เพราะว่าในบริบทไทยนั้นเจ้าลิงสามตัว ที่จริงๆ แล้วเป็นปริศนาธรรมของพุทธนิกายมหายานในญี่ปุ่นในยุคโชกุนโตกุกาว่านั้นถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ทางการเมืองตั้งแต่ยุคประชาธิปไตยเบ่งบาน เมื่อแถว ๆ ยุคปี 2516- 2519 นั่นเอง และถูกขยายผลกันเรื่อยมาในมิตินี้ แต่ที่น่าคิดคือ ปริศนาธรรมที่ซ่อนอยู่แต่เบื้องต้นนั้นมันไม่ค่อยมีคนได้พูดถึงและใส่ใจปฏิบัติ ทั้ง ๆ ที่มันคือหลักธรรมตามหลักพระพุทธศาสนาที่ทรงคุณค่ายิ่ง


 ans1 ans1 ans1 ans1

ในความเป็นจริงแล้ว ลิงสามตัวนี้เป็นปริศนาธรรมที่สำนักพุทธนิกายมหายานในยุคโชกุนได้คิดขึ้นและเป็นไม้แกะสลักที่โด่งดังในสุสานของโชกุนอิเอยาสึ โตกุกาว่า ที่เมืองนิกโกะ ที่แสดงให้เห็นถึง การปิดตาไม่มองสิ่งชั่วร้าย การปิดหู เพื่อไม่รับฟังสิ่งที่เลวร้ายชั่วร้าย และการปิดปาก เพื่อปิดวาจาเลวร้าย

ท่านพุทธทาสเองได้แสดงธรรมว่าด้วยเรื่องนี้เอาไว้เป็นกลอนแปด พร้อมด้วยการแสดงท่าทางของเจ้าลิงสามตัวเป็นการแสดงธรรมด้วยเนื้อหาที่สอดคล้องกันกับปริศนาธรรมของพุทธมหายานดังกล่าวเช่นเดียวกัน กล่าวคือการเปิดทวารเพื่อรับรู้ แต่ต้องคัดกรองสิ่งต่าง ๆ ด้วยสติการนำมาเป็นสัญลักษณ์ทางการเมือง

จนกระทั่งปริศนาธรรมตามแนวพุทธศาสนา แทบจะถูกกลบลบเลือนไปจนหมดสิ้นนั้น เป็นสิ่งที่น่าเสียดาย เพราะแทนที่จะทำให้คนเรานั้นปิดการรับรู้ และคัดกรองสิ่งที่ดีและเป็นมงคลเข้าตัว กลายเป็นการที่เรารับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างและต้องแสดงออกซึ่งจุดยืน (ที่บางทีจะเรียกอัตตาก็คงจะไม่ผิดนัก) อย่างเต็มที่ เพื่อให้สอดรับกับเสรีภาพอย่างเต็มที่เต็มเหนี่ยว โดยที่บางทีสังคมลืมไปว่า เราไม่ต้องรับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างและไม่จำเป็นต้องแสดงความเห็นและความคิดเห็นต่อทุกประเด็นอย่างเผ็ดร้อน เสียดสี รุนแรง อันเป็นการสร้างวจีกรรมต่อไปเรื่อย ๆ


 :96: :96: :96: :96:

เสรีภาพคือสิ่งสำคัญ และเสรีภาพก็เบ่งบาน มากขึ้นผ่านโลกโซเชียลมีเดียทุกวันนี้ เพราะเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างก็ดี ในการรับรู้ข่าวสารโดยรอบก็คือพื้นฐานของการวิวัฒน์ของสังคม

แต่หากว่าปราศจากการกำกับโดยสติ และมิได้เรียนรู้ธรรมะจากเจ้าลิงสามตัวนี้ ว่าด้วยการปิดหูไม่รับเนื้อหาที่ชั่วร้าย การปิดตาไม่มองสิ่งที่เลวร้ายและนำมาสู่การพูดจาโดยที่ไม่ได้วางอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง (เพราะรับรู้แบบไม่คัดกรองแต่ต้น) ก็จะนำไปสู่สังคมที่ฟาดฟันกันด้วยการแสดงความคิดเห็นที่รุนแรง เชือดเฉือน แตกแยก กันได้เหมือนท่ีเราเห็น ๆ กันอยู่


 st12 st12 st12 st12

ดังนั้นไม่ว่าโลกนี้จะให้กลไก และอะไรก็ตามที่ทำให้เรารับรู้ ได้ยินและได้เห็น รวมถึงได้แสดงจุดยืนกันอย่างกว้างขวางมากขึ้น แต่สิ่งที่สำคัญไปกว่า คำว่า เสรีภาพ กลไกในการต่อยอดเสรีภาพ คือสติของผู้ใช้เทคโนโลยี สติของผู้ที่จะคอยกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ มากกว่าที่กำหนดทิศทางของโลกใบนี้

จึงอยากจะฝากใจความที่แท้จริง แก่นสารแห่งธรรมของเจ้าลิงสามตัว ให้คนเราได้พิเคราะห์ มิติของการใช้สติคัดกรอง พร้อม ๆ ไปกับการใช้เสรีภาพอย่างเต็มเหนี่ยว จากการตีความเชิงการเมืองของลิงสามตัวนี้ด้วยครับ.


คอลัมน์ จิตเหนืออารมณ์ โดย ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน
ขอบคุณภาพและบทความจาก : http://www.dailynews.co.th/article/368632
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ