เหตุการณ์ ยืนยัน ว่านกเยอะนะที่นี่ แต่ ไม่มีนกพิราบ
วันนี้เป็นอีกวันที่ท้องฟ้า ที่วัดราชสิทธาราม แจ่มใส ท้องฟ้า แดดเปรี้ยง สระบุรี หนาวเย็น แต่ที่นี่ นอนร้อนเหงื่อชุ่ม หลายคืนติดต่อเลย ขณะพักอิริยาบถอยู่ เจ้านกตัวนี้ก็บินมาชนกระจกที่ห้อง ร่วงลงมา จับได้ ให้มันพัก ท่านศรีคเณศร์ จับมาถามว่านกอะไร ใครตอบได้บอกหน่อย กว่ามันจะไปก็ 30 นาที นะ ที่วัดราชสิทธาราม นั้นมีนกหลายชนิด พระอาจารย์แต่งกลอนไว้บทหนึ่ง ร่ายถึงตอนที่เราเดินจงกรม ฟังเสียง รอบ ๆ บริเวณอยู่ตั้งแต่วันแรก

มองเมฆวันนี้ แล้ว มีสภาพสวยงามแปลกตาดี บางอันก็เหมือนพระนั่งสมาธิ บางอันก็เหมือนหัตถ์ พระพุทธเจ้า

มองเมฆแล้ว ก็เห็นความแปรปรวน ก่อนที่จะจับกล้องมาถ่ายนั้น เมฆก้อนนี้ ดูเหมือนรูปพระนั่งกรรมฐาน แต่พอหยิบกล้องมาถ่ายกับเปลี่ยนไปอย่างเร็วมาก หากล้องประมาณ 2 นาที

ก็เลยมองก้อนเมฆ ไปเรื่อย ๆ ภาวนา ทิศาผรณาไป ให้การแผ่ไปดุจ ลมที่พัดพาก้อนเมฆไป อารมณ์ ก็ประมาณนิมิตรดุก้อนเมฆ ประมาณนั้น

อันที่จริงตรงคณะ 11 นี้ จัดได้ว่าร่มรื่นย์อีกแห่ง ในวัดราชสิทธาราม ด้านหลังก็เป็นสวนต้นไม้ เยอะ เดินสำรวจไปข้าศาลามีต้นโพธิ์ อีกต้นหนึ่ง คร่อมกำแพง ทางวัดยังรักษาไว้ ด้วยการสร้างกำแพง ป้องกันไว้ เวลาบิณฑบาตร จุดนี้ผ่านไปด้านหลัง ก็จะเห็นต้นโพธิ์ เช่นกัน

ท่านพระศรีคเณศร์ ท่านเห็นบินมาตกอยู่ที่ด้านหน้าประตูจับเข้ามาให้ดู จับกันแบบง่าย ๆ นั่นแหละ ลูบหัวที ก็ร้อง แหว็ก ๆ เสียงดัง ตอนแรกก็ดูมันเหมือนนกอินทรี นกเหยี่ยว แต่นึกไปนึกมา ท่าจะเป็นนกดุเหว่า นะ

ไปค้นข้อมูล ก็เป็นนกดุเหว่า จริง ๆ เนื่องด้วยขนลายจุดขาว แต่ เพราะกรงเล็บคม กว้าง ใหญ่ จึงทำให้เดาผิดไปในเบื้องต้น

ก็สงสัยอยู่ตัวนี้ คงมีคู่อยู่ร้องกันเจื้อยแจ้ว ในตอนใกล้รุ่ง




