ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อย่าวิ่งตามอารมณ์  (อ่าน 2842 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29347
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
อย่าวิ่งตามอารมณ์
« เมื่อ: มกราคม 22, 2016, 09:03:43 am »
0


อย่าวิ่งตามอารมณ์
ธรรมะยู-เทิร์น โดย อิทธิโชโต

“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความจนก็ดี การกู้หนี้ก็ดี การเสียดอกเบี้ยก็ดี การถูกทวงก็ดี การถูกตามตัวก็ดี การถูกจองจำก็ดี เป็นทุกข์ในโลกของผู้บริโภคกาม” (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๒ ฉักกนิบาต อังคุตตรนิกาย)

จากพุทธพจน์บทนี้ เข้าใจได้ไม่ยากเลยว่า คฤหัสถ์ต้องมีสติมากในการบริโภคกาม จึงจะเป็นกามคุณ ถ้าบริโภคมากเกินไปก็จะเป็นกามโทษ ดังนั้น อย่าเชื่ออะไรง่ายๆ สิ่งใดที่ชอบ ที่ดีก็ต้องไตร่ตรองพิจารณาให้รอบคอบ ให้เห็นทั้งคุณและโทษในสิ่งที่เราอยากจะได้ เพราะทุกอย่างที่อยากได้ ไม่ใช่ว่ามีคุณอย่างเดียว โทษก็มี  ต้องคิดให้ได้ว่าเป็นคุณหรือโทษ เมื่อเป็นคุณจะรับมืออย่างไร และเมื่อเป็นโทษจะรับมืออย่างไร เพราะบางอย่างคุณก็แสดงก่อน บางอย่างโทษก็แสดงก่อน แต่ส่วนใหญ่คุณจะแสดงก่อน โทษจะแสดงทีหลัง แล้วเวลาที่เกิดโทษ ตัวเจ้าของก็แก้ไขไม่ได้ รับมือไม่ได้จึงเกิดปัญหา

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์กับใครก็ตาม กับคนรัก หรือทุกอย่าง ตอนที่รักกันก็ดูแลซึ่งกันและกัน แต่พอมีปัญหา อันไหนร้อน ก็ทิ้งให้อีกคนแบก อีกคนจะไหวได้อย่างไร

 :25: :25: :25: :25:

ยกตัวอย่างอะไรมาก็มีคุณและโทษทั้งนั้น เช่น เงิน คุณก็มีมาก โทษก็มหันต์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าอะไรจะมีคุณอะไรที่มีโทษ ถ้าเราตามความคิดเราไม่ทันเสียแล้ว ปัญหามันก็ออกไปจากความคิดของเรานี้เอง

เราจะเท่าทันเรื่องข้างนอกได้ก็ต้องเท่าทันความคิด และอารมณ์ ถ้าตามความคิดไม่ทัน อารมณ์ก็เกิด ปัญหาก็ตามมาอย่างแน่นอน เพราะปล่อยให้สิ่งข้างนอกมามีอิทธิพลเหนืออารมณ์และความคิด

เหมือนไฟ อยู่เฉยๆ ไม่รุนแรง แต่ถ้าลมมากระทบก็ทำให้ไฟรุนแรง ทำให้ไหม้ได้เร็ว อารมณ์ข้างนอกเหมือนลม ที่มากระทบตัวเรา แต่ถ้าเรามีสติ มีปัญญา คิดเท่าทันอารมณ์นั้น ก็เหมือนกับเราเอาสิ่งของไปกั้นลมไม่ให้พัดแรงจนเกินไป ไม่ใช่ว่า ไม่โดนไฟ แต่เบาลงเยอะ อย่างน้อยๆ ความแรงของไฟก็จะลดลง ถ้าไม่มีลม

ลองจุดไฟ จุดตะเกียงดู จะเห็นว่าลมที่รุนแรงก็มี ลมสงบก็มี และสิ่งที่ไปกั้นลม นั่นคือ ‘สติ’ คือปัญญาของเรา ความโกรธก็เหมือนลม เวลาโกรธขึ้นมา ก็ต้องใช้สติแล้วใช้ปัญญาพิจารณาให้มาก ถ้าระงับไม่ทันก็จะเกิดปัญหาจากความโกรธอยู่ดี ฉะนั้น อย่าไปวิ่งตามอารมณ์ข้างนอก


 :96: :96: :96: :96: :96:

ถ้าเราไปวิ่งตามอารมณ์ข้างนอก วิ่งทั้งวันก็ไม่มีหยุด พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า อย่าวิ่งตามอารมณ์ อย่าวิ่งตามความคิด

ถ้าเรามีสติ และปัญญา อารมณ์มันเกิดขึ้นก็เรื่องของมัน อย่าไปตามมัน เช่นเดียวกับพระราชาที่ดี อย่าพิจารณาความตอนที่มีความโกรธ คนเราก็เหมือนกัน ตอนโกรธ อย่ามาคุยกัน ต้องกลับมาดูความคิด มาห้ามความคิดตัวเองก่อน ก็ปรับมาใช้ในปีนี้ ปีใหม่จะเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ ลองฝึกตัวเองให้รอบคอบขึ้น ลองทำดูสิ เวลาเกิดเรื่องแล้ว มาขึ้นโรงขึ้นศาล มันเป็นเพียงปลายเหตุ

เพราะฉะนั้นก่อนที่จะไปถึงปัญหา เรื่องทะเลาะเบาะแว้ง เรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลก็ให้มันหยุดตรงที่ ‘ความคิดที่มีสติ’ นี้


ขอบคุณบทความจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20160108/220137.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: อย่าวิ่งตามอารมณ์
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มกราคม 22, 2016, 09:38:12 am »
0

   สาธุ  สาธุ...ต้องมีสมาธิระดับหนึ่ง แล้วจึงจะเห็น

          เห็นว่ารู้ทัน  เห็นว่าหลงเข้าไปนั่งอยู่

    ก็เห็นตามอนิจจัง  ทุกขัง  อนัตตา  ละครับ


         ตามระดับสมาธิภูมิธรรมของเรา
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา