ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อึ้งกิมกี่.! พระผู้ใหญ่-สำนักพุทธฯแพร่ ขับพระร้องทุจริตงบตำบลละ 5 ล้านพ้นพื้นที่  (อ่าน 1026 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29353
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


อึ้งกิมกี่!พระผู้ใหญ่-สำนักพุทธฯแพร่ ขับพระร้องทุจริตงบตำบลละ 5 ล้านพ้นพื้นที่

แพร่ – งงกันทั้งบาง ประเทศไทยยุคปฏิรูป พระสงฆ์เมืองแพร่ ออกมาร้องเรียนทุจริตงบตำบลละ 5 ล้าน จนคนฝ่ายปกครองเสียประโยชน์ กลับถูกพระชั้นผู้ใหญ่-สำนักพุทธฯ ขับพ้นวัด-พ้นจังหวัด ทั้งที่สอบแล้วไม่ผิดวินัยสงฆ์ อ้างสถานการณ์รุนแรงให้ออกจากวัดไปก่อน
       
       บ่ายวันนี้(23 ม.ค.) พระครูวิจิตรธรรมสาธก รองเจ้าคณะอำเภอวังชิ้น , พระครูปัญญาพลกร เจ้าคณะตำบลสรอย พร้อมด้วยนายณฐกร จิรภัคพงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดแพร่ ได้เข้าพบพระยงยุทธทีปโก เจ้าอาวาสวัดปางงุ้น ต.สรอย อ.วังชิ้น จ.แพร่
       
       ทั้งนี้ เพื่อสอบสวนพระยงยุทธทีปโก ที่ได้ร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม เมื่อ 30 พ.ย.58 ที่ผ่านมา และ ป.ป.ช. ถึงความไม่ชอบมาพากล และการทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง กรณีการทุจริตเงินตำบลละ 5 ล้าน ที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วม และกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกตำบลของประเทศไทย ทำให้งบประมาณไม่ถึงมือประชาชน และประชาชนก็ไม่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงการแต่อย่างใด


        :96: :96: :96: :96:

       ผลของการร้องเรียนทำให้กลุ่มเสียผลประโยชน์ ส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่บ้าน กำนัน คนในฝ่ายปกครองของจังหวัดแพร่ และผู้บริหารท้องถิ่น ยื่นหนังสือให้คณะสงฆ์ และสำนักพุทธฯ ขับไล่พระยงยุทธ ออกจากจังหวัดแพร่ เนื่องจากไม่ใช่กิจของสงฆ์
       
       การสอบสวนพระยงยุทธ ที่ออกมาเปิดโปงทุจริตในสังคมไทย แม้ไม่พบว่า ผิดพระธรรมวินัย แต่คณะสงฆ์และสำนักพุทธฯ มีมติให้ขับพระยงยุทธ ออกจากวัดปางงุ้น และออกจากจังหวัดแพร่ ไปให้เร็วที่สุด ในขณะที่พระยงยุทธ ขอเวลาที่จะแสดงความบริสุทธิ์ เพราะเห็นว่า การร้องเรียนทุจริตในวงราชการ และเป็นช่วงปฏิรูปประเทศไทย ไม่น่าจะเป็นความผิด แต่ทำไม่ถึงได้ถูกลงโทษแบบรุนแรง

        :41: :41: :41: :41:

       นายณฐกร จิรภัคพงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดแพร่ กล่าวในที่สอบสวนพระยงยุทธ ว่า จากการสอบสวนพระ ไม่มีความผิดทางวินัยสงฆ์ แต่ด้วยสถานการณ์รุนแรง จึงขอให้ออกจากวัดไปก่อน
       
       ด้านพระยงยุทธ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า อาตมาทำงานด้านพระศาสนา ส่งเสริมให้เด็กรักป่า รักธรรมชาติ และเป็นคนดี ทำธนาคารเด็ก ส่งเสริมเยาวชนให้เป็นคนดีเข้าสู่สังคม ทำหน้าที่ปกป้องดูแลทรัพยากรธรรมชาติในจังหวัดแพร่ และจังหวัดอื่นๆ ที่พอจะไปได้ เป็นบทบาทเล็กๆ ทำตามศักยภาพ


        :sign0144: :sign0144: :sign0144: :sign0144:

       ล่าสุดมีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการคิดทำโครงการเสนอต่อรัฐ เพื่อนำงบประมาณตำบลละ 5 ล้านบาท และงบประมาณแก้ปัญหาภัยแล้ง มาแก้ปัญหาในชุมชน กระตุ้นให้เกษตรกรเปลี่ยนวิถีการปลูกพืช หันมาใช้พืชที่ใช้น้ำน้อย แต่พบว่า มีการทำโครงการที่ไม่ชอบมาพากล ซึ่งยังเกี่ยวข้องกับนโยบายหมู่บ้านศีล 5 ด้วย ถ้าปฏิบัติไม่ได้ในชั้นผู้นำจะขึ้นป้ายหมู่บ้านศีล 5 ได้อย่างไร
       
       “การร้องเรียนของอาตมา แทนที่ทางราชการจะช่วยกันส่งเสริมสนับสนุน กลับใช้กลไกของพระศาสนาเข้ามาทำร้ายอาตมา ซึ่งทำตัวเป็นพลเมืองที่เห็นแก่บ้านเมือง ต้องการทำให้บ้านเมืองเดินไปได้ในช่วงปฏิรูป อาตมาคงไม่มีทางสู้ คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกรรมทั้งอาตมา และประเทศชาติ แต่อาตมายังยืนยันว่าถ้าจะย้ายอาตมาไป


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000008089
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0


           เวรกรรม เวรกรรม ครับ

                       กรรมหน้า คือ เปรต
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา