พิมพ์

[raponsan]

ลูกศิษย์ จัดบวงสรวงเทพยดา ขอ 'หลวงพ่อจรัญ' หายจากอาการอาพาธ

ลูกศิษย์หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี จัดบวงสรวงอัญเชิญเทพยดาคุ้มครองรักษาให้หายจากอาการอาพาธ กลับมาสร้างบารมีที่วัด ต่อไป

วันที่ 24 ม.ค. ที่บริเวณใต้ต้นพิกุลทอง หน้าศาลาสุธรรมภาวนา วัดอัมพวัน อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี คณะศิษยานุศิษย์ที่ศรัทธาหลวงพ่อจรัญ ร่วมกันแต่งกายชุดขาว ในพิธีบวงสรวงอัญเชิญเทพยดา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้คุ้มครองปกปักรักษา หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม หรือ พระธรรมสิงหบุราจารย์ เจ้าอาวาสวัดอัมพวัน ที่ท่านได้อาพาธ และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา เป็นเวลาเกือบ 2 เดือน โดยได้ประกอบพิธีพราหมณ์บวงสรวงสักการะหน้ารูปหลวงพ่อจรัญ และร่วมกันสวดมนต์อธิษฐานจิตให้หลวงพ่อจรัญ หายจากอาการอาพาธ

อาจารย์แห้ว ศาลเจ้าพ่อนาคราช จันเสน ผู้ประกอบพิธี ได้กล่าวว่า พิธีในวันนี้เป็นการขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้หลวงพ่อได้หายป่วยหายเจ็บ ขอเทพยดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประจำวัด รวมทั้งบารมีที่ท่านได้สร้างไว้ ส่งให้หลวงพ่อปลอดภัยอยู่คู่กับพระศาสนา ให้ท่านได้อยู่สร้างบารมีต่อไป เนื่องจากท่านเป็นพระอริยสงฆ์ เป็นที่เลื่อมใสและเป็นที่รู้จักของคนทั่วประเทศ

 

ขณะเดียวกัน อาการของหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม ล่าสุด วันนี้ทางโรงพยาบาลศิริราช ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รายงานอาการอาพาธหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม ว่า หลวงพ่อได้เข้ารักษาเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2558 มีอาการหอบเหนื่อยจากโรคปอดอับเสบ นั้น แพทย์ได้ถวายการรักษาอย่างเต็มที่ แต่สภาพโดยทั่วไป และสัญญาณชีพต่างๆ ยังไม่ดีขึ้น และอยู่ในภาวะวิกฤติ หากมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ คณะแพทย์จะแจ้งให้ทราบต่อไป

สำหรับบรรยากาศ ภายในวัดอัมพวัน ยังคงค่อนข้างเงียบเหงา โดยเฉพาะที่กุฏิหลวงพ่อ ซึ่งปกติจะลงพบปะญาติโยม วันละ 2 ครั้ง คือ เช้ากับบ่าย ส่วนผู้ที่เดินทางมาปฏิบัติธรรมที่วัดยังมีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในวันศุกร์-เสาร์ และอาทิตย์ สำหรับในวันนี้มีผู้มาปฏิบัติธรรม ประมาณ 800 คน มาปฏิบัติธรรมคนละ 3 วัน หนังสือธรรมของหลวงพ่อจรัญก็มีผู้สนใจมาซื้อหากัน เพื่อที่จะได้อ่านทำความเข้าใจ และนำคำสอนไปปฏิบัติให้เป็นผลสำเร็จ

ขอบคุณข่าวจาก
https://www.thairath.co.th/content/567393

[PRAMOTE(aaaa)]

     สาธุ สาธุ ขอให้หลวงพ่อหายไวๆ

[ธัมมะวังโส]

เมื่อถึง เวลาสิ้นอายุขัย
 ก็ไม่มีใคร ฉุดรั้งได้

            อปฺปมายุ  มนุสฺสานํ             หิเฬยฺย  นํ  สุโปริโส   
            จเรยฺยาทิตฺตสีโสว               นตฺถิ  มจฺจุสฺส  นาคโม.     

            อายุของมนุษย์มีน้อย  คนดีพึงดูถูกอายุนั้นเสีย  พึงประพฤติดุจ
            คนที่ศีรษะถูกไฟไหม้  มฤตยูจะไม่มาถึงย่อมไม่มี.
            (พุทธ)  สํ.  ส.   ๑๕/๑๕๘.                     ขุ.  มหา.  ๑๙/๑๔๓.

[PRAMOTE(aaaa)]

   ขออนุโมทนาสาธุ  ในธรรมทั้งหลายของท่าน ครับ