ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ‘อธิการ มจร.’ เตือน โยมทะเลาะกัน อย่าดึงพระยุ่ง  (อ่าน 827 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28565
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


‘อธิการ มจร.’ เตือน โยมทะเลาะกัน อย่าดึงพระยุ่ง

พระพรหมบัณฑิต‘อธิการบดีมจร’ระบุคณะสงฆ์อยู่ตรงกลางความขัดแย้ง มีคนพยายามดึงพระเข้าไปร่วม เหมือนชาวบ้านทะเลาะกันข้างนอกไม่พอยังเข้ามาทะเลาะกันในวัดอีก

9 กุมภาพันธ์2559  พระพรหมบัณฑิต กรรมการมหาเถรสมาคม อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) เป็นประธานเปิดการสัมมนาทางวิชาการเรื่อง "การปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนาในสถานการณ์ปัจจุบัน" จัดโดยหลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการเชิงพุทธ คณะสังคมศาสตร์ มจร พร้อมบรรยายพิเศษระบุว่า สถานการณ์ปัจจุบันมีคนพยายามยุให้แตกแยก คณะสงฆ์จึงอย่าตกเป็นเครื่องมืออย่าหลงกล  ในฐานะนักจัดการเชิงพุทธจะทำอย่างไร จะใช้พระพุทธศาสนาไปแก้ปัญหาอย่างไร ประเทศไทยมีนักมวยเยอะแต่ไม่มีกรรมการห้ามมวย


 :96: :96: :96: :96: :96:

พระพรหมบัณฑิต กล่าวต่อว่า คณะสงฆ์มีสภาพอยู่ตรงกลางเหมือนกับอยู่ตรงกลางระหว่างเขาควายที่ชาวบ้านทะเลาะ และทะเลาะกันข้างนอกไม่พอยังเข้ามาทะเลาะกันในวัดอีกทั้งๆที่เป็นพุทธบริษัทด้วยกันทั้งนั้น

"ต้นไม้ใหญ่เวลาล้มไม่ใช่เพราะลมพายุเท่านั้น แต่มีมอดกันกินต้นไม้ พระพุทธศาสนา คือ ต้นไม้ใหญ่ ภาวะทางซ้ายมีปัญหา ทางขวาก็มีปัญหา เหมือนอยู่ตรงกลางเขาควาย ปะทะกันอยู่เรื่อยๆ คณะสงฆ์อยู่ตรงกลางต้องเป็นกลาง พูดง่ายๆ คือ ชาวบ้านทะเลาะกันเหมือนมคธกับวัชชีทะเลาะกันจะดึงพระพุทธเจ้าไปร่วมกัน ฉะนั้นเราต้องไม่โดดลงไปรบกับชาวบ้าน ที่น่าสงสารคือคนไทยด้วยกันทะเลาะกัน กฏข้อสำคัญจะต้องไม่ลงไปคลุกฝุ่น โลกจะเดือดร้อนวุ่นวายเพียงใดก็ตาม พระสงฆ์ต้องอยู่เหนือโลก" อธิการบดี มจร กล่าวและว่า

ดังนั้นคนฉลาดคือรู้เพื่อแก้ปัญหาตัวเอง แต่คนฉลาดกว่าคือรู้เพื่อแก้ปัญหาคนอื่น ดังนั้นรู้ต้องรู้แบบรู้เท่าทัน ผู้ที่เรียนระดับมหาบัณฑิตต้องพิจารณาให้ดี ไม่ใช้อารมณ์ รู้เท่าเอาไว้ป้องกัน รู้ทันเอาไว้แก้ไข คือแก้ไขสถานการณ์



อย่างไรก็ตามจากผลการสัมมนาครั้งนี้ได้สรุปทางรอดของพระพุทธศาสนา  4 ประเด็น คือ     

    1) ศึกษาธรรม  พระพุทธศาสนาจะอยู่รอดจะต้องอาศัยพุทธบริษัทต้องคันถธุระ ศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าจนถึงแก่นแท้ทางด้านปริยัติ ศึกษาให้ถึงตราน้ำแห่งความรู้ 
    2) ปฏิบัติธรรม พระพุทธศาสนาจะอยู่รอดจะต้องเข้าสู่วิปัสสนาธุระ เป็นการฝึกปฏิบัติกรรมฐาน ฝึกดูแลลมหายใจของตนเอง เพราะสุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี 
    3)  เผยแผ่ธรรม เมื่อเข้าใจพระพุทธศาสนาแล้วก็นำคำสอนที่ถูกต้องไปเผยแผ่ให้แก่ชาวโลก พุทธบูรณาการศาสตร์สมัยใหม่ เพื่อให้การเผยแผ่ธรรมประสบความสำเร็จ
    4) ปกป้องธรรม เมื่อพระพุทธศาสนามีภัยภายนอกและภัยภายใน ต้องช่วยกันรักษา ดูแล ปกป้อง คุ้มครองเพื่อให้พระพุทธศาสนาสามารถอยู่ได้  ซึ่งการศึกษาธรรม ปฏิบัติธรรม เผยแผ่ธรรมถือว่าเป็นการปกป้องธรรมที่ดีที่สุด



ครุศาสตร์‘มจร’จัด‘จาริกวัดจารึกธรรมนำปฏิบัติ’

อย่างเช่นระหว่างวันที่  23-24 มกราคม ที่ผ่านมา นิสิตคณะครุศาสตร์  ชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาการสอนพระพุทธศาสนาและจิตวิทยาแนะแนว ร่วมกับภาควิชาจิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว คณะครุศาสตร์ มจร. จัดโครงการ “จาริกวัด จารึกธรรม นำปฏิบัติ” ณ ศูนย์พัฒนาศาสนาแคมส์สน ตำบลแคมส์สน อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ พระสรวิชญ์ อภิปญฺโญ หัวหน้าภาควิชาจิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว เปิดเผยว่า โครงการนี้มีวัตถุประสงค์ 3  ประการ คือ

     1) เพื่อส่งเสริมให้นิสิตเกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์เพิ่มทักษะด้านการสอนผ่านการจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา
     2) เพื่อส่งเสริมให้นิสิตเกิดการเรียนรู้ กระบวนการทำงานเป็นทีม การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า การวิเคราะห์แนวคิดทฤษฏีที่ศึกษาในชั้นเรียนมาปฏิบัติในสถานการณ์จริง
     3) เป็นกิจกรรมส่งเสริมความเป็นครูให้เป็นไปตามมาตรฐานหลักสูตร มาตรฐานการผลิตและมาตรฐานบัณฑิตปริญญาตรีทางการศึกษา (หลักสูตร 5 ปี) ตามที่ครุสภากำหนด

 st12 st12 st12 st12

กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้น 2 วัน  คือ วันที่ 23 มกราคม 2559 พาคณะญาติโยมเข้าศึกษาประวัติศาสตร์ ณ สถานที่สำคัญ เช่น
    1 )พระตำหนักเขาค้อ
    2) ฐานยิงสนับสนุนอิทธิ 

จากนั้นนำสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ เช่นพระธาตุกาญจนาภิเษก(พระธาตุขาว) , วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ในวันที่ 24 มกราคม 2559  ทำวัตรเช้า-ปฏิบัติกรรมฐาน-ฟังประวัติของศูนย์พัฒนาศาสนาแคมส์สน  เดินกรรมฐานชมสถานที่สำคัญของศูนย์พัฒนาศาสนาแคมส์สน เช่น สวนอาจารย์พร รัตนสุวรรณ ผู้ริเริ่มก่อตั้งแคมส์สน  พระเจดีย์อิสรภาพ อนุสรณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช  ทอดผ้าป่าบำรุงศูนย์พัฒนาศาสนาแคมส์สน มจร. สักการะพระพุทธมหาธรรมราชาเฉลิมพระเกียรติ โดยพระนิสิตได้นำคณะญาติโยมสวดมนต์-ปฏิบัติกรรมฐานบนรถระหว่างเดินทางเป็นการฝึกพระนิสิตให้เป็นผู้นำในพิธีกรรมทางศาสนาและสอนธรรมะขณะเดินทางอีกด้วย

 st11 st11 st11 st11

สำหรับปีการศึกษา 2559 นี้ พระภิกษุสามเณรและประชาชนทั่วไป ทีสนใจเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรี สาขาวิชาการสอนพระพุทธศาสนาและจิตวิทยาแนะแนว (หลักสูตร 5 ปี) และระดับปริญญาโท สาขาวิชา จิตวิทยาการศึกษาและการแนะ สามารถมาสมัครด้วยตนเอง ณ ห้อง C300 สำนักทะเบียนและวัดผล  อาคารเรียนรวม โซน C  มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 12  พฤษภาคม 2559 หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม จากภาควิชาจิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว  ฝ่ายบริการศึกษา Email : edupsymcu@hotmail.com หรือ โทร.099-515-9569

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20160209/222148.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ