พิมพ์

[raponsan]

พุทธศาสนิกชนหลอมใจปฏิบัติธรรม จัดงานนมัสการพระบรมธาตุนาดูน

มหาสารคามได้ชื่อว่าเป็นเมืองตักสิลา ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน สืบย้อนไปถึงยุคนครจัมปาศรี เมื่อกว่า 1300 ปี ถือเป็นแหล่งอารยธรรมเก่าแก่แห่งหนึ่งของภาคอีสาน โดยในปี พ.ศ.2522 กรมศิลปากรและชาวบ้านตำบลนาดูน  ได้ขุดพบพระบรมสารีริกธาตุจากเนินดิน ซึ่งเป็นซากโบราณสถาน บริเวณที่นาของราษฏรท้องที่หมู่ 1 ต.นาดูน อ.นาดูน จ.มหาสารคาม

สำหรับพระบรมสารีริกธาตุที่พบมีสัณฐานเป็นเกล็ดขาวขุ่นเท่าเมล็ดข้าวสารหักครึ่งประดิษฐานในผอบ 3 ชั้น ชั้นในเป็นทองคำ  ชั้นกลางเป็นเงิน  ชั้นนอกเป็นสำริด  สอดซ้อนกันเรียงตามลำดับ และบรรจุอยู่ในสถูปจำลองอีกชั้นหนึ่งเป็นโลหะทรงกลม สูง 24.4 เซนติเมตร  ถอดออกเป็น 2 ส่วน ส่วนยอดสูง 12.3 เซนติเมตร ส่วนองค์สถูปสูง 12.1 เซนติเมตร ภายหลังจากการค้นพบพุทธศาสนิกชนชาวมหาสารคาม จึงมีแนวคิดร่วมกันว่าอุบัติการณ์ของพระบรมสารีริกธาตุครั้งนี้เป็นนิมิตรหมายที่ดีแก่ชาวมหาสารคามเป็นอย่างยิ่ง จึงจัดสร้างเจดีย์พระบรมธาตุนาดูน ขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ  การก่อสร้างประยุกต์จากรูปทรงสถูปที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ขุดพบซึ่งเป็นลักษณะของศิลปะทวาราวดี ประมาณพุทธศตวรรษที่13-16 

 

สำหรับเจดีย์พระบรมธาตุนาดูน ที่ก่อสร้างขึ้นมีความสูง 50.50 เมตร  ฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส 35.70 เมตร  สิ้นค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 7.5 ล้านบาทเศษ   การก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2530  สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯแทนพระองค์ทรงประกอบพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานไว้ในองค์เจดีย์พระธาตุนาดูน  และคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาให้เป็นพุทธมณฑลอีสาน

นับแต่นั้นเป็นต้นมาองค์พระบรมธาตุนาดูน ก็เป็นศูนย์รวมใจของพุทธศาสนิกชนชาวมหาสารคามและชาวอีสานสืบมา   ทุกปีพุทธศาสนิกชนชาวมหาสารคาม พร้อมใจกันจัดปฏิบัติธรรมแสวงบุญปีละ 4 ครั้ง   ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาคือ วันมาฆบูชา  วันวิสาขบูชา  วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา แต่ละครั้งจะมีพุทธศาสนิกชนจากทั่วประเทศหลั่งไหลมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก

 

นอกจากนี้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี พี่น้องประชาชนชาวอำเภอนาดูนจะรวมจิตรวมใจจัดงาน "นมัสการพระบรมธาตุนาดูน"เพื่อเฉลิมฉลองและบวงสรวงองค์พระธาตุนาดูนอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งในปีนี้กำหนดงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-28 ก.พ. 2559  โดยสำนักงานกองทุนพัฒนาและอนุรักษ์พระบรมธาตุนาดูน  ร่วมกับทุกภาคส่วนในอำเภอนาดูน ร่วมกันจัดขึ้น มี สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดมหาสารคาม ให้การสนับสนุน   แต่ละปีจะมีพุทธศาสนิกชนมาร่วมงานบุญ พากันกราบนมัสการพระบรมธาตุนาดูน เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ตนเอง จำนวนมาก  โดยเฉพาะปีนี้วันมาฆบูชาตรงกับวันที่ 22 ก.พ. จะมีการประกอบพิธีทำบุญตักบาตร และพิธีเวียนเทียนรอบองค์พระบรมธาตุนาดูน  คาดว่าจะมีพุทธศาสนิกชนทั้งในและนอกพื้นที่มาร่วมพิธีหลายหมื่นคน 

พระครูโสภณเจติยาภิรักษ์ เจ้าคณะอำเภอนาดูน จ.มหาสารคาม ประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาและอนุรักษ์พระบรมธาตุนาดูน กล่าวถึงการจัดปฏิบัติธรรมแสวงบุญว่า  พระบรมธาตุนาดูน เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธ  จึงได้ใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมอบรมปฏิบัติธรรมมาโดยตลอด  กิจกรรมนี้มุ่งมั่นที่จะพัฒนาพุทธศาสนิกชนทุกระดับ ให้เป็นผู้มีความรู้ ความเข้าใจในหลักธรรม คำสั่งสอนทางพระพุทธศาสนา เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรมในจิตใจ   ตลอดเวลาที่ปฏิบัติธรรมทุกคนนุ่งเสื้อผ้าสีขาว  สมาทานศีล 8 นอนในกลด และน้อมถวายผลแห่งการปฏิบัติธรรมให้เป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ ให้ทรงมีพลานามัยสุขภาพสมบูรณ์ เป็นที่สถิตย์ประทับในดวงใจของคนไทยตราบนานเท่านาน

 

ในช่วงเช้าทุกวันกิจวัตรที่ทำจะเริ่มจากการทำวัตรเช้าสวดมนต์เจริญภาวนา และร่วมกันทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จากนั้นไปจนถึงช่วงบ่ายจะปฏิบัติธรรมโดยมีพระวิทยากรคอยให้คำแนะนำ และช่วงเย็นจะร่วมกันรับฟังพระธรรมเทศนา ณ ลานหน้าองค์พระบรมธาตุนาดูน  จากนั้นก็ทำวัตรเย็นสวดเจริญภาวนาและพักผ่อน เป็นที่น่ายินดีที่แต่ละปีจำนวนพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมปฏิบัติธรรมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ  และถึงแม้ปีนี้จะเจอสภาพอากาศที่หนาวเย็น แต่ผู้ปฏิบัติธรรมทุกคนก็ไม่ท้อมีกำลังใจที่แกร่งกล้าทำให้กิจกรรมดังกล่าวสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

ด้าน นายผดุงศักดิ์ อิ่มเอิบ  นายอำเภอนาดูน กล่าวว่า  ชาวนานาดูนมีความเชื่อว่า พระธาตุมีความศักดิ์สิทธิ์มาก มีเทวดาอารักษ์สถิตอยู่ สามารถดลบันดาลให้ผู้ที่ศรัทธาซึ่งกระทำการสักการบูชาแคล้วคลาดปลอดภัย เป็นสิริมงคลทั้งต่อตนเองและครอบครัว จึงได้มีจัดพิธีกรรมการบูชาพระธาตุเป็นบุญประเพณีประจำปีโดยมีพิธีกรรมต่างๆ ตามความเชื่อ มีทั้งพิธีพราหมณ์และพุทธจนเกิดเป็นวัฒนธรรม กลายเอกลักษณ์ของชาวนาดูนในปัจจุบัน ประกอบกับมีความภาคภูมิใจที่ได้เกิดมาในดินแดนที่ได้ชื่อว่ที่มีความเก่าแก่โบราณ สืบมาจากยุคนครจัมปาศรีในอดีตเมื่อ 1,300 ปีมาแล้ว   ดังนั้นจึงเป็นเกียรติของพี่น้องคนในพื้นที่จะได้ร่วมกันแสดงพลังแห่งศรัทธา จัดงาน"นมัสการพระบรมธาตุนาดูน"

สำหรับผู้สนใจที่อยากเข้าปฏิบัติธรรมครั้งต่อไปสิ่งที่ต้องเตรียมมาคือเครื่องใช้ส่วนตัวอาทิ สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ผ้าอาบน้ำ ผ้าห่ม  หมอน ผ้าปูนอน เสื่อ รองเท้าแตะ ไฟฉาย ชุดนุ่งสำหรับเปลี่ยนสีขาวกรณีผู้ที่มีโรคประจำตัวให้นำยารักษาโรคไปด้วย แต่จะมีพยาบาลให้การดูแลตลอดการปฏิบัติธรรมระหว่างปฏิบัติธรรม และไม่ควรนำสิ่งของมีค่าติดตัวมา  ส่วนงานนมัสการพระรมธาตุนาดูน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-28 ก.พ.2559 มหรสพภายในงานฟรีทุกอย่าง จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทั้งใกล้และไกลมาร่วมเที่ยวงานบุญประเพณีนี้อย่างพร้อมเพรียง

 

ดังนั้นขอเชิญชวน มนัสการพระธาตุนาดูนวันที่ 20-28 กุมภาพันธ์  2559 ในพิธีเปิดจะมีการเปิดตำนาน แสง สี เสียงเปิดตำนานเมืองนครจัมปาศรีในอดีต โดยมีนางรำจัมปาศรีซึ่งเป็นตัวแทนของแต่ละหมู่บ้านจำนวนเกือบ 5000 คนและขบวนแห่ประเพณี 12เดือน ของชาวอีสาน หรือ เรียกว่า ฮีต12 ครอง 14 ของชาวอีสานทำบุญตักบาตร เวียนเทียน และร่วมกันปฏิบัติธรรม โดยอำเภอนาดูนได้มีการเตรียมจุดปักกลดเป็นที่พักแรมนักแสวงบุญ มีอาหารและน้ำดื่มไว้รองรับพุทธศาสนิกชนจากทั่วประเทศที่ประสงค์เข้าร่วม ปฏิบัติธรรมในครั้งนี้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ 

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.banmuang.co.th/news/region/40051

[PRAMOTE(aaaa)]

   ขออนุโมทนาสาธุครับ...เพื่อนเพิ่งจะคุยให้ฟังเมื่อ...วันนี้เอง