ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เพลงรำวง สงกรานต์สุวรรณภูมิ  (อ่าน 1016 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29438
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
เพลงรำวง สงกรานต์สุวรรณภูมิ
« เมื่อ: เมษายน 14, 2016, 08:25:20 pm »
0




เพลงรำวง สงกรานต์สุวรรณภูมิ

สงกรานต์ต้องเล่นเพลงรำวง เป็นของคู่กันตามความเข้าใจของสังคมยุคนี้ รำวง เป็นงานสร้างสรรค์ต่อยอดจากรำโทน เพิ่งมีในยุค จอมพล ป. พิบูลสงคราม ราว พ.ศ. 2487 กรมศิลปากรดัดแปลงรำโทน ใส่ท่ารำที่ประดิษฐ์ขึ้นใหม่จากนาฏศิลป์พื้นฐาน แล้วใช้เครื่องดนตรีตะวันตกบรรเลง แต่งเนื้อเพลงปลุกใจที่มีทำนองสนุกสนานประกอบท่ารำ เรียก รำวงมาตรฐาน

ประชาชนนิยมรำวงเพื่อความสนุกสนาน รำเต้นไปตามลีลาที่ตนถนัดโดยไม่ต้องให้ความสำคัญท่ารำมากนัก อีกทั้งยังคิดเพลงประกอบได้ตามใจชอบ

ดังนั้นเพลงรำวงและท่ารำวงจึงเกิดขึ้นมากมายหลายหลากตามความชอบของแต่ละกลุ่ม แล้วแพร่กระจายถึงประเทศเพื่อนบ้าน ทุกวันนี้ในไทยนิยมรำวงย้อนยุค


 :49: :49: :49: :49:

รำโทน หมายถึง ฟ้อนระบำรำเต้นเข้ากับกลองโทน (มาจากคำแขกว่า โทฬะ) ที่ตีเป็นจังหวะสนุกสนาน เป็นการละเล่นของชาวบ้านดึกดำบรรพ์ทั้งสุวรรณภูมิหลายพันปีมาแล้ว นับเป็นวัฒนธรรมร่วมของอาเซียน

กลองโทนมีทั่วไปทุกชาติพันธุ์ในอาเซียน โดยเฉพาะในกลุ่มที่อยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลสมุทร แล้วใช้ตีประกอบฟ้อนรำทุกกลุ่มทุกเหล่าเผ่าพันธุ์ ชาวบ้านยุคอยุธยาตีโทนเล่นเพลงรำเต้นในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะตอนเย็นแดดร่มลมตก มีเอกสารชาวยุโรปบันทึกว่า ตอนเย็นได้ยินเสียงกลองตามหมู่บ้าน

จังหวะ หรือหน้าทับของรำโทน ส่งต่อให้รำวง เป็นที่รู้กันว่า ป๊ะ ป๊ะ โท่น โท่น เป็นอย่างเดียวกับจังหวะเขมร และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับจังหวะตะลุงที่ตกค้างทางภาคใต้ของไทย

คนยุคอยุธยาสายแหรกหลัก คือ ตระกูลไทย-ลาว ปนตระกูลมอญ-เขมร ดนตรียุคอยุธยาจึงมีจังหวะ (หน้าทับ) เขมรเป็นพื้นฐานอย่างหนึ่งในจำนวนหลายๆ อย่างประกอบการละเล่นละครนอก (คือโนราชาตรี) และหนังตะลุง
แล้วแพร่ลงไปตกค้างอยู่ทางภาคใต้เรียกโนรา กับหนังตะลุง


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.matichon.co.th/news/105413
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ