พิมพ์

[raponsan]

ฮือฮา!ทั้งหมู่บ้าน พระวัดป่าสกลนครรักษาสารพัดโรค อ้างเรียนวิชาจากพญานาคในถ้ำ

เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากชาวบ้านส้งเปลือย ต.นาฮี อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร ว่า มีพระในวัดป่าศรีรัตนมุงคุณ ชื่อหลวงพ่อคำผอง หรือพระสีรอด โฆสวโร อายุ 60 ปี พระลูกวัด ได้รักษาชาวบ้านที่เจ็บป่วยจากโรค เช่น ปวดขา อัมพฤกษ์ เดินไม่ได้ โดนการจับคลำและรดน้ำมนต์นวด 3-5 ครั้งติดต่อกันก็สามารถเดินได้เอง และอาการดีขึ้น โดยไม่ได้เรียกค่ารักษา แต่ทำเป็นธรรมทาน ส่วนค่าครู ไม่มี หากใครอยากทำบุญกับทางวัดก็แล้วแต่ศรัทธา

 ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่วัดดังกล่าว พบชาวบ้านกว่า 50 คนที่รอเข้าคิวให้พระคำพองหรือหลวงพ่อสีรอด โฆสวโร รักษาโรค หากเป็นชายจะจับตรงที่เจ็บปวดและรดน้ำมนต์ ทานวด พร้อมเป่ารักษาให้ ส่วนผู้หญิงจะมีพุเป่าและไม้ที่ปลายห่อด้วยฝ้าย ไว้จุ่มน้ำมนต์หรือน้ำมันทาเพื่อรักษา ซึ่งจะไม่แตะต้องตัวผู้หญิง โดยใช้เวลารักษารายละ 30-45 นาที ต่อคน

 

 จากการสอบถามหลวงพ่อสวัสดิ์ อัตคุตโต อายุ 73 ปี รักษาการเจ้าอาวาสวัด ป่าศรีรัตนมุงคุณ กล่าวว่า หลวงพ่อคำพอง อายุ 60 ปี ที่มาทำการรักาชาวบ้านนั้น เดิมท่านอยู่ที่วัดในเขตอำเภอศรีวิไล จ.บึงกาฬ เป็นวัดที่มีถ้ำอยู่ห่างจากความเจริญมาก และท่านเล่าให้ฟังว่า ได้นิมิตหรือได้พูดคุยกับพญานาคที่รักษาปฎิบัติธรรม พร้อมบอกคาถาวิชา เพื่อนำไปรักษาคน ท่านบอกว่าอ่านหนังสือไม่ออกเขียนไม่เป็น เพราะไม่ได้เรียนหนังสือ พญานาคจึงพาท่องจนจำได้ และบอกว่ารักษาได้ทุกโรค ห้ามไม่ให้เรียกค่ารักษาใดๆ แต่ขอให้จัดขันห้า และขอให้คนที่มารักษาโรคต้องรักษาศีล 5 ด้วย

 จากนั้น ท่านลองเอาวิชาที่ได้รับมาลองมารักษาชาวบ้านที่เจ็บป่วย บางรายมาครั้งเดียวหาย บางราย มารักษา 3-5 ครั้ง จากที่เดินไม่ได้กลับเดินได้ ต่อมามีโยมในหมู่บ้านเจ็บป่วยและเดินทางไปรักษา และหายดี จึงไปนิมนต์ท่านมารักษาชาวบ้านในแถบนี้ ท่านจึงเดินทางมาอยู่เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา พร้อมเปิดให้ญาติโยมที่เจ็บป่วยมารักษาให้ฟรี แต่บางรายก็ทำบุญตามกำลังศรัทธา

ด้านหลวงพ่อคำพอง กล่าวว่า พระอาจารย์นั้นหมายถึงพญานาคตามนิมิตในถ้ำบอกว่า หากจะไปรักษาคน ก็จะไปด้วย โดยให้ตนวาดภาพไว้ที่ห้องน้ำ ตามที่เห็นและห้ามคนใช้โดยเด็ดขาด จึงวาดตามนิมิตที่เห็นหรือความฝัน จากนั้นก็รักษาชาวบ้าน บางรายนั่งรถยนต์มาเพราะเดินไม่ได้ พอญาติหามลงมารดน้ำมนต์และเป่า ไปๆมาๆ 3-5 ครั้ง กลับมีอาการดีขึ้น ลุกนั่งได้และเดินได้ ทำให้ข่าวสะพัดออกไปชาวบ้านที่เจ็บป่วยจึงเดินทางมารอรักษา โดยจะทำหลังเวลาฉันเช้าเสร็จ โดยแต่ละรายจะใช้เวลาประมาณตนละ 30-45 นาที กว่าจะหมดขั้นตอนที่เรียนมา โดยมีการมาเข้าคิวรอวันละ 70-100 ราย คิดดูว่าพระจะมีเวลาผักผ่อนหรือไม่ แต่เพื่อเป็นธรรมทาน ตลอดจนได้ให้ผู้ที่มารักษา และผู้ติดตามต้องรักษาศีลด้วย จึงหายเร็ว ส่วนค่าครูหรือเงินนั้นรักษาให้ฟรี ส่วนใครจะทำบุญก็แล้วแต่ศรัทธา เพราะไม่ได้มาหาเงิน อาจจะช่วยบริจาคค่าน้ำค่าไฟให้วัดก็ไม่เป็นไร คนละ 5-10 บาทเท่านั้น

 นางสมเพท ตุ่ยไชย อายุ 65 ปี ชาวบ้านอากาสอำนวย ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ เดินไม่ได้กว่า 5 ปี ญาตินำมารักษาเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน กล่าวว่า แต่ก่อนนอนเหมือนเด็กแบเบาะลุกนั่งเดินไม่ได้ ญาติทราบข่าว จึงหามตนใส่รถมาและท่านรักษา 2 ครั้งรู้สึกว่าอาการดีขึ้น และมาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ลุกนั่ง และเดินได้โดยไม่คิดว่าจะมีวันนี้ และจะมาทุก 3 วัน แต่ช่วงนี้ชาวบ้านมามากต้องรอคิวนาน ส่วนค่ารักษาไม่มี เพียงแต่อยากทำบุญก็ทำกับทางวัด หลวงพ่อท่านไม่ได้เรียกร้องอะไร

 

 นายสุรพล อินธิเสน ชาวบ้านส้งเปลือย กล่าวว่า บ้านอยู้ใกล้วัด จึงมาช่วยพระทุกวัน และตนเป็นคนไปนิมนต์หลวงพ่อคำพองกับเพื่อนบ้านมาอยู่เอง เพราะคิดว่ามาช่วยชาวบ้าน ประกอบกับการรักษา ก็ไม่ได้ให้กินยาอะไร แต่จะใช้น้ำมนต์หรือใช้สมุนไพรกับคนป่วย ซึ่งน่าจะเป็นการรักษาด้วยวิชาอาคม พุทธคุณล้วนๆ ซึ่งตนก็ไม่เห็นด้วยที่จะให้ชาวบ้านกินสมุนไพร หากเราไม่มีความรู้ หรือแม้แต่ขันน้ำมนต์ก็ไม่มี ในจุดนี้เห็นว่า ไม่น่าจะเป็นการรักษาด้วยยา หรือสมุนไพรชาวบ้านจึงยอมรับได้

 “หลวงพ่อเป็นคนจังหวัดกาฬสินธุ์ท่านเดินธุดงค์และจำพรรษาหลายวัด สุดท้ายมาที่วัดถ้ำทอง อ.ศรีวิโล จ.บึงกาฬ และมาอยู่ที่นี่ได้ 2 เดือนเศษ ในแต่ละวันมีคนเดินทางมารอรักษาจำนวนมาก ทางวัดไม่มีการตั้งตู้บริจาค หรือขายวัตถุมงคลใดๆ และชาวบ้านก็ไม่ให้ทำ ยังคงรักษาอย่างเดียว และเท่าที่เห็นส่วนใหญ่ 60 เปอร์เซนต์ อาการดีขึ้น บางรายถึงกับหายอันนี้เห็นด้วยตนเอง แต่บางรายก็ไม่ไหว เพราะอาการหนักมาก หลวงพ่อบอกว่า แล้วแต่กรรมของแต่ละคน แต่ที่ชอบคือท่านให้ทุกคนรักษาศีล 5 เป็นอย่างน้อย” นายสุรพล กล่าว

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1461498574

[PRAMOTE(aaaa)]

   เรื่องบางเรื่องห้ามลบหลู่ ...ครับ

[sinsae]

เป็นที่พึ่งกับชาวบ้าน อีกแบบหนึ่ง แต่หน้าที่แพทย์ ไม่ใช่หน้าที่ตรงของพระ