ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ถกแก้ปัญหา ที่ดินวัดป่าหลวงตาบัว ยังไม่ลงตัว ให้วัดใช้สำหรับธรณีสงฆ์เท่านั้น  (อ่าน 925 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29339
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



ถกแก้ปัญหาที่ดินวัดป่าหลวงตาบัวยังไม่ลงตัว เตรียมลงพื้นที่ร่วมพิจารณาให้วัดใช้สำหรับธรณีสงฆ์เท่านั้น

กาญจนบุรี -สำนักงานพระพุทธศาสนา-ปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร-วัดป่าหลวงตาบัว ร่วมถกเพื่อแก้ปัญหาการครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.ของวัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโนที่ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติขอใช้ประโยชน์ด้านธรณีสงฆ์ตั้งแต่ปี 2546 ผลการประชุมยังยังไม่ลงตัว เตรียมลงพื้นที่ร่วมพิจารณาอีกครั้ง โดยจะให้ทางวัดเสือใช้พื้นที่สำหรับธรณีสงฆ์เท่านั้น
             
       จากกรณีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นำโดยนายอดิศร นุชดำรงค์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นำหมายค้นศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ มค 432/2559 ลงวันที่ 30 พ.ศ.2559 เข้าดำเนินการขนย้ายเสือโคร่งของกลาง จำนวน 137 ตัว ออกจากวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน หรือวัดเสือ หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี การขนย้ายเริ่มวันที่ 30 พ.ค.เสร็จสิ้นวันที่ 4 มิ.ย.59 สำหรับเสือของกลางทั้งหมดมีจำนวน 147 ตัว ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้ขนย้ายไปแล้วจำนวน 10 ตัว
     
       โดยในวันที่ 4 มิ.ย.นายอดิศร ได้เปิดแถลงข่าวเพื่อมอบคืนพื้นที่ให้กับทางวัด และได้เชิญนายวัชรินทร์ วากะมะนนท์ ส.ป.ก.กาญจนบุรี เข้าร่วมแถลงข่าว จึงนำมาสู่การตรวจสอบการครอบครองที่ดินของวัดป่าหลวงตาบัวฯทั้งหมด และพบว่าสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้รับอนุญาตจาก ส.ป.ก.เพื่อใช้ที่ดินจำนวน 391-1-21 ไร่ ให้วัดนำไปใช้ประโยชน์ทางด้านพระพุทธศาสนา และพบทางวัดบุกรุกเพิ่มเติมจำนวน 931-0-83 ไร่ โดยพื้นที่ทั้งหมดทางวัดได้ล้อมรั้วกั้นเป็นอาณาเขตแสดงการครอบครองอย่างชัดเจน

       

       ล่าสุดเวลา 13.00 น. วันนี้ (29 มิ.ย.59) พระเทพเมธาภรณ์ (ประสงค์ วราสโย) เจ้าอาวาสวัดสิริกาญจนาราม (เขาพุรางบน) หมู่ 1 ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เป็นประธานประชุม 3 ฝ่ายที่ห้องประชุมชั่วคราวอาคารวิทยาลัยบาลีสงฆ์ เพื่อแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.ของวัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน เฉพาะเนื้อที่จำนวน 391-1-21 ไร่ ที่ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติขอใช้ประโยชน์ด้านธรณีสงฆ์ตั้งแต่ปี พ.ศ.2546
       
       การประชุม 3 ฝ่ายประกอบด้วยนายประดับ โพธิกาญจนวัตร ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี นายวัชรินทร์ วากะมะนนท์ ปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร (ส.ป.ก.) จังหวัดกาญจนบุรี นายศิริ หวังบุญเกิด ไวยาวัจกร วัดป่าหลวงตาบัวฯ นายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความวัดป่าหลวงตาบัวฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ของทั้ง 3 ฝ่ายเข้าร่วมประชุม การประชุมใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ จากนั้นจึงเชิญสื่อมวลชนที่รออยู่เข้าไปเพื่อให้ข้อมูลรายละเอียด ซึ่งที่ประชุมมีมติมอบหมายให้นายประดับ โพธิกาญจนวัตร ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี เป็นผู้ให้ข้อมูลเท่านั้น
       
       โดยนายประดับ โพธิกาญจนวัตร ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า การมาประชุมหารือกันในวันนี้เป็นไปตามที่ทุกฝ่ายได้ตกลงกันเอาไว้ ซึ่งการประชุมได้พูดคุยเฉพาะปัญหาที่ดิน ส.ป.ก.จำนวน 391-1-21 ไร่ ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาขอใช้ที่ดินจาก ส.ป.ก.เมื่อปี พ.ศ.2546 เพื่อให้วัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน ที่มีพระวิสุทธิสารเถร หรือหลวงตาจันทร์ เป็นเจ้าอาวาส นำไปใช้ประโยชน์ทางด้านพระพุทธศาสนา แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้น ทำให้ ส.ป.ก.ต้องเข้ามาตรวจสอบว่า ทางวัดใช้ที่ดินจำนวนดังกล่าวเป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่

       

       ซึ่งในที่ประชุมได้มีมติว่า จะร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบพื้นที่ จำนวน 391-1-21 ไร่อีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ยังไม่ได้กำหนดว่าจะลงพื้นที่วันไหน แต่คาดว่าคงจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยการลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดินของวัดนั้น หากพบว่าพื้นที่บริเวณใดไม่สามารถทำการเกษตรได้ก็จะส่งมอบคืนให้กับ ส.ป.ก.และจะคงพื้นที่เอาไว้เฉพาะทำประโยชน์ทางด้านพระพุทธศาสนาเท่านั้น ส่วนพื้นที่จะต้องลดจำนวนลงหรือไม่ต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการทั้ง 3 ฝ่ายจะตกลงกัน ส่วนปัญหาการบุกรุกพื้นที่เพิ่มเติม ก็เป็นหน้าที่ของ ส.ป.ก.ที่จะดำเนินการทางด้านกฎมาย ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว
       
       ด้านนายศิริ หวังบุญเกิด ไวยาวัจกร กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่ทั้ง 3 ฝ่ายที่ร่วมประชุมในวันนี้จะได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวอีกครั้งหนึ่งว่ามีพื้นที่มากกว่าความเป็นจริงหรือไม่ ซึ่งหากพื้นที่บริเวณใดสามารถปลุกพืชด้านเกษตรกรได้ก็จะตัดแบ่งออกไปเพื่อให้ ส.ป.ก.นำไปมอบให้กับประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกิน แต่ถ้าหากพื้นที่บริเวณใดไม่สามารถปลูกพืชเกษตรได้ ส.ป.ก.ก็จะรายงายให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงทราบต่อไป โดยการที่ได้พูดคุยกับ ส.ป.ก.ตนได้พูดถึงที่ดินทั้ง 2 ส่วน คือส่วน 391-1-21 ไร่ และพื้นที่จำนวน 931 ไร่เศษ ที่มีรั้วล้อมเอาไว้ทั้งหมด


       
ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000065031
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ