ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เลขยันต์ แผนผังอันศักดิ์สิทธิ์  (อ่าน 945 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
เลขยันต์ แผนผังอันศักดิ์สิทธิ์
« เมื่อ: กรกฎาคม 03, 2016, 09:24:14 am »
0



เลขยันต์ แผนผังอันศักดิ์สิทธิ์

ผมเห็นภาพ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไปกราบขอผ้ายันต์ พร้อมได้คำพร ขอให้เป็นนายกฯตลอดกาลจากท่านเจ้าคุณธงชัย วัดไตรมิตร แล้วก็ทำใจ “มันเป็นเช่นนั้น” ของขลังและคำพร “แพ้ไม่เป็น” ที่เจ้าคุณให้นักกีฬา ไม่ว่าจะกับทีมบอลเลสเตอร์ หรือนักวอลเลย์บอล...พระท่านให้กำลังใจ กำลังใจนั้นเป็นส่วนสำคัญของทุกชีวิตที่จะเดินไปข้างหน้า แต่คำ “ตลอดกาล” กับคำ “แพ้ไม่เป็น” นั้นตรงข้ามกับภาษาธรรม ทุกสิ่งไม่เที่ยง ทุกสิ่งเป็นทุกข์ทุกสิ่งเป็นอนัตตา

ผมอ่านหนังสือหลายเล่ม...หาคำตอบ...คำสอนแบบภาษาโลก การปลุกเสกเลขยันต์ พระเครื่องของขลังพระแถวบ้านเรา ท่านเริ่มแต่เมื่อไหร่


 :96: :96: :96: :96: :96:

ณัฐธัญ มณีรัตน์ เขียนไว้ใน หนังสือ เลขยันต์ แผนผังอันศักดิ์สิทธิ์ (วารสารมิวเซียมสยาม สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ พ.ศ.2553) ว่า ศิลปะปาละ เจริญรุ่งเรืองในแคว้นเบงกอล ของอินเดียระหว่างพุทธศตวรรษที่ 13-19 งานศิลปะสกุลนี้ สร้างอุทิศให้พุทธศาสนามหายาน แบบตันตระ นิยมสร้างรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศว
ร และรูปนางตารา ทั้งยังสร้าง รูปพระอิศวรและพระนารายณ์ควบคู่ไปด้วย พุทธศาสนาเสื่อมสูญจากอินเดีย ศิลปะปาละก็แพร่หลาย ไปมีอิทธิพลต่องานศิลปะในอาณาจักรต่างๆทั่วสุวรรณภูมิ

ศิลปกรรมแบบศรีวิชัย ได้อิทธิพลจากศิลปะปาละเสนะ กษัตริย์ราชวงศ์ไศเลนทร์ของศรีวิชัย มีความสัมพันธ์ด้านศาสนากับกษัตริย์ราชวงศ์ปาละ เสถียร โพธินันทะ เชื่อว่า พระเจ้าสุริยวรมันที่ 1(พ.ศ.1545-1593) เชื้อพระวงศ์ศรีวิชัยที่ไปปกครองอาณาจักรยโสธรปุระในเขมร ทำให้พุทธศาสนามหายานแพร่หลาย

 st12 st12 st12 st12

พุทธศาสนามหายาน ศาสนาพราหมณ์ฮินดู ไม่เพียงแพร่หลายในภาคใต้ ยังแผ่ไปภาคกลางของไทยนครรัฐสมัยทวารวดี ที่นครปฐม สุพรรณบุรี ฯลฯ ลพบุรี เพชรบูรณ์ ปราจีนบุรี มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ขอนแก่น สกลนคร ศิลาจารึกศาลสูง (หลักที่ 19) มีข้อความว่า อาณาจักรลพบุรี มีทั้งศาสนาฮินดูลัทธิไศวนิกายและไวษณพนิกาย ส่วนพุทธศาสนามีทั้งนิกายเถรวาทและมหายาน

สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 พุทธศาสนามหายานมีอิทธิพลสูงมาก ปราสาทพระขรรค์ บูชาพระอวโลกิเตศวร อุทิศแด่พระชนกคือเจ้าธรณีนทรวรมันที่ 2 ปราสาทตาพรหม บูชานางปรัชญาบารมิตา อุทิศแด่พระมารดา คือพระนางชัยราชจุฑามณี เมื่อรวมพระพุทธราชในปราสาทบายน จะเป็นกลุ่มประติมากรรม 3 องค์ เรียกว่า รัตนตรัยมหายาน พระนาคปรกอยู่กลาง พระอวโลกิเตศวรขวา นางปัญญาบารมีซ้าย นักเล่นพระไทย เรียก “นารายณ์
ทรงปืน”

สิ้นรัชกาลพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เขมรเสื่อมอำนาจ มหายานเสื่อมตาม ช่วงเวลาพระเจ้าปรักมพาหุอุปถัมภ์พุทธศาสนาเถรวาท พระภิกษุในอาณาจักรต่างๆ ไปลังกา อุปสมบทใหม่เป็นลังกาวงศ์ กลับนครศรีธรรมราช ราว พ.ศ.1800 พ่อขุนรามคำแหง นิมนต์ไปสุโขทัย


 :25: :25: :25: :25: :25:

วัดในสมัยนี้จึงต้องผูกสีมาใหม่ ซ้อนสีมาเก่า จึงเป็นที่มาของ “สีมาสองชั้น” ทำสังฆกรรมกันได้ ความเชื่อมหายานฮินดูปะปนกับพุทธศาสนาเถรวาท การใช้อักษรขอมจารึกทั้งด้านพระธรรม และบันทึกเรื่องเวทมนตร์คาถา นามพระพุทธเจ้าพระโพธิสัตว์มหายานถูกลืม หลักธรรมและนามพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์เถรวาท ถูกใส่แทน

คนรุ่นใหม่ รู้จักพระเจ้าห้าพระองค์ของเถรวาท พระกกุสันโธ... พระสมณโคม พระศรีอาริย์มากกว่า รู้จัก พระไวโรจนะ พระอมิตพุทธ พระอักโษภยะ ของมหายาน การใช้อักษรขอมบันทึกคาถา การสาธยายมนต์ต่างๆ รวมทั้งพิธีกรรม ซึ่งมีทั้งพิธีพราหมณ์และพิธีกรรมแบบมหายาน ก็เริ่มกันมาตั้งแต่นั้น

 ans1 ans1 ans1 ans1

อ่านแล้ว...ผมพอมีคำตอบ...พระสงฆ์ไทยใช้โบสถ์สีมาสองชั้น มาด้วยกันเกือบพันปี ถึงวันนี้จะไม่มีสีมาเก่าปลุกเสกเลขยันต์ แบบมหายานตันตระไว้เสียเลย ชีวิตคนไทยก็ดูจะขาดอะไรๆไป มีเจ้าคุณชั้นพรหม อย่างเจ้าคุณธงชัย แจกยันต์เสริมกำลังใจ มีพระธัมมชโย แบบธรรมกาย ชวนคนเป็นล้านๆภาวนาไปเฝ้าพระพุทธเจ้าบนสวรรค์ เสียบ้าง ผมว่านะ พุทธศาสนาแบบไทยๆ ที่เคยเงียบๆ เหงาๆ ดูจะมีสีสันขึ้น

พระพุทธเจ้าท่านสอนให้ทำใจไว้แล้ว บัวนั้นมีสี่เหล่า...ตั้งแต่เหล่าพ้นน้ำ พร้อมจะบานรับธรรมเพื่อความหลุดพ้น ไปถึงเหล่าที่อยู่ก้นสระ พร้อมเป็นภักษาหารให้ปลาเต่า...สาธุชน คนไทย เลือกเป็นบัวได้ตามอัธยาศัย.


     กิเลน ประลองเชิง



คอลัมน์ชักธงรบ โดย กิเลน ประลองเชิง 2 ก.ค. 2559 05:01
http://www.thairath.co.th/content/652119
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ