ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: มัสยิดโผล่คู่วิหารวัด หลังจมน้ำ 35 ปี! ชุมชนเก่าแก่ใต้เขื่อนบางลาง  (อ่าน 1250 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

(ภาพจากทีมข่าวไทยรัฐทีวี)




มัสยิดโผล่คู่วิหารวัด หลังจมน้ำ 35 ปี! ชุมชนเก่าแก่ใต้เขื่อนบางลาง

ชุมชนโบราณทางผ่านจากยะลาไปเบตง ถูกน้ำท่วมจมบาดาลหลังมีการสร้างเขื่อนบางลาง โผล่ให้เห็นเป็นครั้งแรกในรอบ 35 ปี หลังน้ำแห้งเป็นบริเวณกว้าง ปรากกฏโครงสร้างมัสยิด และวิหารวัดอยู่ไม่ไกลกัน บ่งบอกถึงการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสันติในอดีต

วันที่ 13 ก.ค. มีรายงานว่า ทะเลสาบเหนือเขื่อนบางลาง ที่บ้านสายเก่า หรือบ้านโต หมู่ 5 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา ได้เกิดปรากฏการณ์ขึ้น หลังน้ำในอ่างเก็บน้ำลดลงจนแห้งขอดมาร่วมสัปดาห์ สามารถมองเห็นมัสยิด สถานที่ต่างๆ ตลอดจนบ้านเรือนโบราณหลายร้อยหลังคาเรือน ที่จมอยู่ใต้น้ำภายหลังมีการสร้างเมื่อ 35 ปีก่อน ปรากฏอยู่ในที่น้ำแห้ง ชาวบ้านทั้งที่อยู่ในพื้นที่และต่างถิ่น ต่างพากันไปเที่ยว พร้อมถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เคยเห็นชุมชนแห่งนี้มาก่อน นับเป็นชุมชนเก่าแก่โบราณอีกแห่งหนึ่ง

จากสภาพที่เห็น มีเพียงมัสยิดเพียงหลังเดียวที่โครงสร้างยังยึดกันอยู่ได้ นอกนั้นเหลือแต่โครงสร้างที่เป็นเสาและฐานสิ่งก่อสร้าง โดยเฉพาะมัสยิดอิสลามียะห์ กับสุสาน ซึ่งเป็นมัสยิดเก่าแก่ในพื้นที่ รวมทั้งรั้วที่ล้อมรอบวิหารภายในวัด เสาอาคารโครงสร้างบ้านเรือน ที่เห็นได้อย่างชัดเจน เป็นที่อัศจรรย์เป็นอย่างมาก ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่บอกว่า ผ่านมากว่า 35 ปี เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก หลังจากน้ำในเขื่อนแห่งนี้แห้งสุดในรอบที่ก่อสร้างเขื่อนมานาน 35 ปี ไม่เคยเห็นมาแบบนี้ก่อน

นายสุกกิฟลี บือราเฮง อายุ 34 ปี ชาวบ้าน ที่ให้บริการเรือในทะเลสาบบางลาง เปิดเผยว่า หลังจากเกิดปรากฏการณ์นี้ ตนกับเพื่อนๆ ได้เอาเรือที่มีอยู่ 5 ลำ มาคอยให้บริการให้กับประชาชนที่เดินทางมาชมพื้นที่บริเวณนี้ โดยไม่มีการคิดเงิน แต่ส่วนมากผู้ที่มาชมต่างก็ให้เงินเป็นสินน้ำใจ เป็นค่าน้ำมันเรือ ตนให้บริการด้วยความสมัครใจโดยไม่หวังผลตอบแทน อยากให้ประชาชนที่ทราบได้ไปสัมผัส และชมความสวยงามของเมืองโบราณแห่งนี้ ซึ่งได้จมอยู่ใต้บาดาลมากว่า 35 ปี



ด้าน นายสะมะแอ โปโจอุมง อายุ 54 ปี ชาวบ้าน กล่าวว่า เรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ที่มหัศจรรย์ ทำให้พี่น้องในพื้นที่และนอกพื้นที่ได้ชมหมู่บ้านโบราณ ซึ่งหาชมได้อยาก เพราะกว่า 35 ปี ที่หมู่บ้านแห่งนี้ได้หายไป ปีนี้เป็นปีแรกที่ได้ปรากฏขึ้น คงหาชมไม่ได้ง่ายนัก หากไม่ประสบปัญหาน้ำแล้ง

สำหรับทะเลสาบบางลาง เกิดขึ้นเมื่อทางการดำเนินการก่อสร้างเขื่อนบางลาง ที่มีการปิดกั้นกระแสน้ำในแม่น้ำปัตตานีที่ไหลผ่านพื้นที่ เพื่อใช้น้ำผลิตกระแสไฟฟ้าและการชลประทาน เริ่มดำเนินการเมื่อกลางปี พ.ศ. 2524 ทำให้บ้านโต ทั้งหมู่บ้านถูกน้ำท่วมจมอยู่ใต้บาดาล ซึ่งแต่เดิมที่แห่งนี้เป็นหมู่บ้านใหญ่ในอดีต การเดินทางจากยะลา-เบตง กว่า 140 กม. ใช้เวลาร่วม 10 ชั่วโมง รถโดยสารจะต้องหยุดแวะให้ผู้โดยสารได้ผ่อนคลาย และหาอาหารรับประทาน เพราะมีร้านค้าเปิดขายจำนวนมากจนเจริญ กลายเป็นชุมชนใหญ่ เป็นที่ตั้งโรงเรียน มัสยิด วัด สุสาน โรงพัก อนามัย โรงไฟฟ้าย่อยซึ่งล้วนจมอยู่ใต้ผืนน้ำในทะเลสาบทั้งหมด.



ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/662772
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
น้ำลดตอผุดครับ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา