เริ่มต้น ด้วยการมองโลกแง่ดี เป็นบวก ภาษา ปัจจุบัน เรียกว่า มองโลกสวย
สมัยฉันเริ่มบวชสามเณร บวชพระในแนวทางสวนโมกข์นั้น ก็เชือ่อย่างนั้น
เชื่อว่าทุกคนเป็นคนดี และเราก็สามารถทำให้คนที่ไม่ดีเป็นคนดีได้ ด้วยธรรมะ เชื่อว่าการถ่ายทอดในรูปแบบต่าง ๆนั้นจะทำให้คนเป็นคนดี
กว่าจะรู้ตัวก็ผ่านไป ถึง 20 ปี 2547 รู้ตัว เริ่มบวชศึกษาหลักธรรม ปี 2527 นานโขเลย และมีการใส่ความพยายามหลากรูปแบบเพื่อจะให้คนเป็นคนดี
2547 มองเห็นตามความเป็นจริง ( ยถาภูตญาณทัศนะ ) อันนี้สำคัญมาก เพราะการมองเห็นตามความเป็นจริง เกิดจากการเข้าใจ ใน อริยสัจ 4 นั่นเอง
เมื่อมองเห็นตามความเป็นจริง คนที่เกิดมาไม่ได้เป็นคนดีทุกคนแต่ทุกคนสั่งสมอนุสัยกิเลสมาก่อนที่จะได้ปฏิสนธิเรียกว่า การสืบต่อ ปฏฺิสนธิจิต ดังนั้นจะดีจะชั่ว ก็เกิดจากตัวเขาเองเป็นผู้ต้องการ ไม่มีใครเปลี่ยนใครนอกจากเจ้าตัวมีความปรารถนา เดิมอยู่ก่อนว่า จะดี หรือ จะชั่ว ดังนั้นสังเกตได้เด็กบางคนเกิดมาในตระกูลที่มีแต่คนไม่ดี แต่เด็กคนนั้นกับเป็นคนดี ไปได้ไม่เอาความชั่ว เห็นมามาก ในทางกลับกัน เด็กที่เกิดในกลุ่มกัลยาณชน พ่อแม่เข้าวัดฟังธรรมรักษาศีล แต่ลูกที่เกิดมากลายเป็นพวกไร้ศีล ผลาญสมบัติทั้งที่พ่อแม่ ก็ส่งให้พระธรรมาจารย์ที่มีชื่อเสียงอบรม เข้าอยู่วัดบวชพระ บวชเณรกัน แต่สุดท้ายมันก็เป็นสิงห์มอร์เตอร์ไซค์บ้าง เกกมะเหรกเกเร เห็นมาก็หลายคน ดังนั้่นไม่ใช่เราไปเปลี่ยนใคร เรามีหน้าที่แค่บอก คนที่จะต้องเปลี่ยน ก็คือตัวเอง
ดังนั้นทุกวันฉันไม่ได้โลกสวย แบบเมื่อก่อน แต่มองเห็นตามความเป็นจริงมากกว่า
ถ้ายังมองไม่เห็นตามความเป็นจริง แบบพื้นฐานอย่างนี้ ก็เท่ากับแบกโลก
ถามว่า คุณเห็นคนตกทุกข์ได้ ยากแค้น คุณอยากจะช่วย แล้วคุณก็ช่วย แต่คนอื่นที่ตกทุกข์ได้ยาก อีกจำนวนมากคุณจะช่วยไหม หรือ คุณไปปล่อยปลา ปล่อยเตา ไปในตลาด ซื้อมาตัวสอง แล้วในกาละมังอีกเป็นร้อยตัวทำอย่างไร ถ้าโลกสวยก็เป็นทุกข์ ถ้ามองเห็นตามความเป็นจริง ก็ไม่ทุกข์
ยถาภูตญาณทัศศนะ มีความสำคัญเป็นด่านแรกในการภาวนาธรรม ขั้นสูง คือ อริยมรรค และ อริยผล
เจริญธรรม / เจริญพร