ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: วิธีตอบแทนพ่อแม่ระดับสูง…หนทางสู่การเป็น “ที่สุด” แห่งความกตัญญู  (อ่าน 921 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29367
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



วิธีตอบแทนพ่อแม่ระดับสูง…หนทางสู่การเป็น “ที่สุด” แห่งความกตัญญู

ท่านว.วชิรเมธี กล่าวว่า การตอบแทนพระคุณพ่อแม่นั้น เราทำได้สองระดับด้วยกัน

ระดับพื้นฐาน คือ การทำหน้าที่ของลูกต่อบุพการีให้สมบูรณ์ที่สุด ซึ่งหน้าที่ดังกล่าวนี้ลูกคนไหนทำได้ ก็นับว่าเป็นลูกที่ประสบความสำเร็จในฐานะลูกชั้นยอดแล้ว  แต่ว่ายังคงเป็นความสำเร็จแบบโลกีย์ที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ หน้าที่ดังกล่าวนี้ประกอบด้วย
    ท่านเลี้ยงมาแล้วต้องเลี้ยงท่านตอบ
    ช่วยทำการงานของท่าน
    ดำรงวงศ์สกุล
    ประพฤติตนให้สมควรรับมรดก
    ท่านล่วงไปแล้ว ทำบุญอุทิศให้ท่าน


 :25: :25: :25: :25:

ระดับสูง คือ การนำพ่อแม่ให้เดินเข้าสู่เส้นทางสีขาวของสัจธรรม อันได้แก่การชักนำพ่อแม่ที่
    ไม่มีศรัทธา ให้เต็มเปี่ยมด้วยศรัทธา
    ไม่มีศีล ให้มีศีล
    ไม่มีความเป็นคนใจบุญ ให้เป็นคนใจบุญสุนทาน
    ไม่มีปัญญา ให้มีปัญญา
    ไม่มีโอกาสได้พบแสงสว่างแห่งธรรม ให้ได้ชิมลิ้มรสธรรม


 st12 st12 st12 st12

พระพุทธองค์เคยตรัสว่า ลูกที่มีความกตัญญู อยากจะตอบแทนพระคุณพ่อแม่ให้ถึงที่สุด ต่อให้นำพ่อและแม่มาประดิษฐานอยู่บนบ่าซ้ายและบ่าขวา ปรนนิบัติท่านทั้งสองอยู่บนบ่าของตนให้มีความสุขเต็มเปี่ยมด้วยมนุษยสมบัติ เช่น กิน กาม เกียรติ กระทั่งยอมให้ท่านอุจจาระปัสสาวะอยู่บนบ่าของตน จนวันหนึ่งท่านทั้งสองนั้นล่วงไปตามอายุสังขารอย่างสงบ แต่การปรนนิบัติมารดาบิดาถึงเพียงนั้น ก็นับว่าเป็นการแสดงความกตัญญูอย่างโลกๆ อย่างธรรมดาๆ เท่านั้นเอง

ส่วนลูกคนใดก็ตาม นอกจากปรนนิบัติมารดาบิดาอย่างที่กล่าวมาข้างต้นตามปกติแล้ว ยังบำเพ็ญตนเป็นมรรคนายก  นำพ่อแม่ดำเนินเข้าสู่เส้นทางธรรม ด้วยการนำท่านให้สมาทานประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในศีล สมาธิ ปัญญา หรือทาน ศีล ภาวนา จนพ่อแม่มีศรัทธา มีศีล มีจิตปราศจากความตระหนี่ และมีปัญญารู้ทั่วถึงธรรม ลูกคนไหนทำได้อย่างนี้ นี่คือ ที่สุดแห่งความกตัญญู   

การกตัญญูต่อพ่อแม่ขั้นสูง กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ การชักชวนพ่อแม่ที่ไม่มีธรรมะ ให้มีธรรมะนั่นเอง


 st11 st11 st11 st11

ในครั้งพุทธกาลมีพระสาวกรูปหนึ่งที่พระพุทธเจ้าทรงยกย่องว่ามีความกตัญญูเป็นยอด ท่านคือ พระสารีบุตร

พระสารีบุตรนั้น ท่านเป็นพระอรหันต์ อัครสาวก สอนคนให้บรรลุธรรมมาแล้วนับไม่ถ้วน แต่ยังมีคนคนหนึ่งที่ท่านยังไม่ได้สอนและหากท่านยังไม่ได้สอนคนคนนี้ ท่านก็ยังนิพพานไม่ได้ คนที่ว่านี้ก็คือ โยมมารดาของท่านนั่นเอง

วันหนึ่ง ก่อนที่ท่านจะนิพพาน ท่านได้กราบทูลลาพระพุทธองค์เพื่อกลับบ้านเกิด เมื่อได้รับพุทธานุญาตแล้ว ท่านจึงออกเดินทางทั้งๆ ที่ร่างกายระงมด้วยพิษไข้ แต่ถึงกระนั้น ท่านก็บุกบั่นเดินทางไปจนพบหน้าโยมมารดา

คืนนั้น ท่านแสดงธรรมโปรดโยมมารดาจนได้ดวงตาเห็นธรรมเป็นพระโสดาบันบุคคล เมื่อท่านชำระหนี้ศักดิ์สิทธิ์นี้เสร็จสิ้นแล้วเช้าตรู่วันนั้นท่านก็นิพพานอย่างสงบ


 ans1 ans1 ans1 ans1

ตัวอย่างชีวิตของพระสารีบุตรเตือนให้เราตระหนักรู้ว่า “ถึงจะทำดีกับคนทั้งโลกมาแล้ว แต่ตราบใดที่ยังไม่ได้ทำดีกับมารดาบิดาของตน ความดีที่ทำมาก็ยังนับว่าเป็นความดีอย่างธรรมดาสามัญเท่านั้นเอง แต่เมื่อใดก็ตามที่ลูกสามารถประดิษฐานมารดาบิดาบังเกิดเกล้าของตนไว้ในดินแดนแห่งธรรม เมื่อนั้นแหละจึงจะนับว่าลูกได้ทำความดีที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง”

ขอเป็นกำลังใจให้คุณพยายามทำความดีตอบแทนพระคุณของพ่อแม่ให้ประเสริฐเลิศล้ำยิ่งๆ ขึ้นไป ทั้งนี้เพราะ     “การประสบความสำเร็จในฐานะลูกกตัญญูนั้น เป็นการประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าการเป็นรัฐบุรุษของโลกอย่างไม่มีทางเทียบกันได้เลย”



ส่วนหนึ่งของบทความที่สุดแห่งความกตัญญู นิตยสาร Secret คอลัมน์ Answer Keys โดย ท่านว.วชิรเมธี
ขอบคุณที่มา http://www.secret-thai.com/article/dharma/14696/grateful-ajvor/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ