พิมพ์

[raponsan]

มาเลือกฟังดนตรีตามธาตุกันดีกว่า

“ดนตรีบำบัด” อาจไม่ค่อยแพร่หลายนักในเมืองไทย Secret จึงขออาสาพาผู้อ่านไปรู้จักดนตรีบำบัดกันค่ะ

ครูตุ่น-ภัทรกร ไอวารานนญ์ ครูสอนดนตรี อดีตสมาชิกวงพิงค์แพนเตอร์อธิบายว่า ในทางการแพทย์ระบุว่า เสียงดนตรีมีผลต่อคลื่นสมองและการทำงานของร่างกาย เช่น ถ้าเราได้ยินเสียงหวอของรถดับเพลิงหรือรถพยาบาล เสียงดังจากท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ หรือเสียงเครื่องดูดฝุ่น ระบบประสาทจะตึงเครียดขึ้นทันที ทำให้ร่างกายตื่นตัว เกิดภาวะเครียด ซึ่งจะส่งผลให้ร่างกายเจ็บป่วย ในทางกลับกันหากเราได้ยินเสียงคลื่นทะเล เสียงนกร้องหรือเสียงดนตรีช้าๆ ระบบประสาทจะผ่อนคลายลง ส่งผลให้จิตใจสบาย และมีสุขภาพที่ดีตามมา การแพทย์แผนจีนก็ระบุเช่นกันว่า 

คลื่นเสียงมีผลต่อลมปราณสามารถกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและธาตุทั้งห้าได้ ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้นิยมนำดนตรีและเสียงสวดมนต์มาใช้บำบัดโรค “การฟังดนตรีช้าๆ สามารถใช้ได้ดีกับคนทุกเพศทุกวัย ช่วยสะกดให้ผู้ฟังหลุดออกมาจากจิตใต้สำนึกของตัวเองที่มีแต่ความขมขื่น ห่อเหี่ยว ไม่อยากดำเนินชีวิตต่อไปให้กลับมาอยู่กับธรรมชาติ เช่น เมื่อมีลมพัดมากระทบระฆังใบเล็กๆ ที่ห้อยอยู่เหนือเพดานโบสถ์ เสียงที่เกิดขึ้นช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายหรือแม้แต่เสียงน้ำที่ไหลเอื่อยๆ ก็ช่วยให้เราหลุดจากภวังค์แห่งความทุกข์ได้”

 

ฟังเพลงตามธาตุ

รู้หรือไม่ว่า หากคุณเลือกฟังเพลงให้สอดคล้องกับ “ธาตุเจ้าเรือน” ของตัวเองแล้วจะช่วยส่งเสริมชีวิตให้ดีขึ้นได้ ตามตำราของหมอช้าง-ทศพร ศรีตุลาบอกไว้ว่า

ธาตุดิน (ราศีมังกร พฤษภ กันย์) เหมาะกับเพลงที่เน้นเสียงเบสและเสียงกลองเพื่อช่วยให้รู้สึกถึงความหนักแน่น คนที่เกิดธาตุดิน ตามตำราว่าเป็นนักคิด นักวางแผนที่ดี เนื้อหาในเพลงจึงควรเน้นในเรื่องของความคิดหรือให้ข้อคิด เพื่อส่งเสริมกำลังใจแนวเพลงธาตุดินจึงเป็นเพลงกึ่งร็อค

ธาตุน้ำ (ราศีกรกฎ พิจิก มีน) เหมาะกับเพลงที่มีเนื้อหาโรแมนติก ลึกซึ้งกินใจ มีจังหวะและบีทที่ฟังสบาย เหมาะแก่การฟังเพื่อพักผ่อนจิตใจในเวลาที่คุณต้องการความสงบและเป็นส่วนตัว เพราะช่วยให้รู้สึกถึงการปลีกวิเวกได้อย่างน่าอัศจรรย์

ธาตุลม (ราศีกุมภ์ เมถุน ตุลย์) เหมาะกับจังหวะดนตรีแนวสบายๆ แฝงไปด้วยความคึกคักเล็กๆ เนื้อหาของบทเพลงควรเป็นไปในเชิงเปรียบเทียบให้คิดตามเพื่อให้ผู้ฟังเกิดจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ต่อยอดไอเดียในเรื่องต่างๆ หรือฟังเพื่อพักผ่อนก็สบายใจ ด้วยมีเนื้อหาและดนตรีที่ไม่หนักจนเกินไปนัก

ธาตุไฟ (ราศีเมษ สิงห์ ธนู) เหมาะกับเพลงที่มีจังหวะดนตรีเน้นความสนุกสนาน กระตุ้นความกระฉับกระเฉงเนื้อหาในบทเพลงเป็นไปในทางสร้างกำลังใจ ความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจ เพื่อกระตุ้นไฟในตัวให้ลุกโชน เตรียมพร้อมสำหรับการคิดหรือริเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ

 

เคล็ดลับการเลือกเพลงฟังง่ายๆในชีวิตประจำวัน

คุณแน็ต–สดุดี อภิสุทธิพร นักดนตรีบำบัดโรงพยาบาลมนารมย์มีเคล็ดลับการเลือกฟังเพลงง่ายๆ เพื่อผ่อนคลายความเครียด ดังนี้

1. เด็ก ถ้าคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกช่วยทำความสะอาดบ้านหรือช่วยจัดของแนะนำให้เปิดเพลงที่มีจังหวะเร็ว  แนวแอ๊คทีฟจะทำให้ลูก ๆ รู้สึกคึกคักขันแข็ง

2. วัยรุ่น ถ้าวัยรุ่นอกหัก การฟังเพลงอกหักไม่ใช่เรื่องต้องห้าม เพราะถือเป็นการระบายได้อย่างดีเยี่ยมและช่วยให้เข้าใจความรู้สึกของตัวเองได้อย่างชัดเจน แต่ถ้าหากฟังต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานเกินไปบทเพลงจะยิ่งครอบงำจนทำให้ยิ่งรู้สึกแย่เมื่อนั้นเราควรเปลี่ยนเป็นเพลงแนวให้กำลังใจและแนวเพื่อชีวิต

3. คนทำงาน ตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้าการเปิดเพลงฟังช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น แต่ควรเป็นเพลงที่อยู่ในมู้ดเราพอดี เป็นแนวเพลงที่ฟังแล้วสบายใจ ดีกว่าการเปิดเพลงคึกคักเพื่อปลุกให้ตัวเองตื่น เมื่อไปถึงที่ทำงานให้ลองเปิดเพลงคลอไปกับการทำงาน แต่ต้องไม่เสียงดังมากจนเกินไป เพราะเราจะไปโฟกัสที่เสียงดนตรีแทนงานตรงหน้า ส่วนใครที่เครียดเรื่องเพื่อนร่วมงานหรือเจ้านายไม่เข้าใจ แล้วต้องการปลดปล่อย แนะนำให้ร้องคาราโอเกะให้สบายอารมณ์

4. คนรักสุขภาพ ถ้าชอบออกกำลังกายแต่รู้สึกว่าตัวเองออกได้แค่ระยะสั้นๆ แนะนำให้เปิดเพลงไปด้วย โดยเลือกเพลงจังหวะเร็ว คล้ายกับเพลงแอโรบิกจะช่วยสร้างบรรยากาศ ทำให้ออกกำลังกายได้ยาวนานกว่าเดิม

5. ผู้สูงอายุ ถ้าผู้สูงอายุอยู่ในบ้านทั้งวันแนะนำให้เปิดเพลงเก่าๆที่ท่านชอบ คลอไปเรื่อยๆ กับการทำกิจวัตรประจำวัน การฟังเพลงเก่าๆนี้นอกจากช่วยให้ผู้สูงอายุผ่อนคลายแล้ว ยังช่วยรื้อฟื้นความทรงจำเก่าๆได้ดี  วิธีนี้ใช้ได้ดีแม้จะเป็นผู้สูงอายุความจำเสื่อม เพราะส่งผลให้มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น และลดอาการซึมเศร้าได้มาก

6. คนเจ็บป่วย คนที่มีอาการเจ็บป่วยทางร่างกาย ให้ลองเปิดเพลงในแนวผ่อนคลาย เสียงเพลงนั้นจะช่วยให้คนป่วยสามารถย้ายโฟกัสจากความเจ็บปวดไปจดจ่อกับเสียงดนตรีแทน อาจเลือกฟังเฉพาะเนื้อเพลงหรือฟังเสียงดนตรีก็ได้ อันที่จริงแค่เลือกเพลงให้เหมาะกับสภาวะทางอารมณ์ของตัวเองเพียงเท่านี้ ทุกวันของคุณก็จะสดใสได้อย่างไม่น่าเชื่อ


ภาพ : สรยุทธ  พุ่มภักดี
ขอบคุณที่มา : http://www.secret-thai.com/article/12306/music-therapy/

[Admax]